ยกเลิกสิทธิ์วีไอพีคณะทูต
‘บิ๊กตู่’ขอโทษ
ห้ามเที่ยวบินอียิปต์เข้าไทย
ต้องกักตัวดูอาการ14วัน
ระยองเร่งตรวจกลุ่มเสี่ยง
หาเชื้อใกล้ชิด9ขวบในกทม.
ศบค.พบติดโควิด-19 ใหม่ 7 ราย กลับจากอียิปต์-สหรัฐแจงยิบปมทหารอียิปต์โผล่ระยอง-ลูกทูตซูดาน ยอมรับหละหลวม พร้อมนำไปปรับปรุง ศบค.ชุดเล็กถกด่วนเสนอนายกฯทบทวนมาตรการยกเว้นสิทธิพิเศษวีไอพีต่างชาติทั้งคณะทูต ครอบครัว ต้องกักตัว 14 วัน ชะลอการอนุญาตให้กลุ่มนักธุรกิจเดินทางเข้าปท.ชั่วคราว
ยกเลิก 8 เที่ยวบินทหารอียิปต์ ชี้ปมทหารอียิปต์เป็นการฝ่าฝืนกฎส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับระบบ ด้านสธ.-กทม.เข้าตรวจสอบคอนโดย่านสุขุมวิท ที่ลูกสาวทูตซูดานเข้าพัก ส่ง 4 คนในครอบครัวกักตัว เข้าตรวจหาเชื้อ ขณะที่รมช.สธ.ลงพื้นที่ 2 ห้างระยอง ยันคุมได้ ด้านผู้ว่าฯสั่งปิดรร.เกือบทั้งจว. นายกฯขอโทษ ชี้เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น สั่งชะลอมาตรการทั้งหมด จนกว่าจะแก้ไขปัญหาได้ ปัดล็อคดาวน์รอบสอง
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงเป็นกรณีพิเศษถึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศไทย รวมถึงความคืบหน้าการดำเนินการหลังพบทหารอียิปต์ และเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับยกเว้นเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว แต่ตรวจพบติดไวรัสโควิด-19
ป่วยใหม่7รายมาจากอียิปต์-สหรัฐ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยใหม่ 7 รายในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,227 ราย หายป่วยรวม 3,091 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 78 ราย เสียชีวิตคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย เดินทางมาจากอียิปต์ เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 20-32 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 8 กรกฎาคม เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ในจ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อวันที่ 11 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ โดย 4 รายมีประวัติเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า ส่วนรายที่ 7 เดินทางจากสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทยอายุ 66 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางถึงไทยวันที่ 9 กรกฎาคม เข้าพักในที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ที่กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อวันที่12 กรกฎาคม ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกยอดผู้ติดเชื้อรวม 13,235,760 ราย รักษาหายแล้ว 7,696,381 ราย เสียชีวิต 575,525 ราย
สอบโรคพบไปเที่ยวห้างไม่ใส่แมส
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีมีทหารอียิปต์ติดเชื้อ 1 ราย และออกท่องเที่ยวไปหลายสถานที่ในจ.ระยองว่า ต้องขออภัยที่วันที่ 13 กรกฎาคมให้ข้อมูลไม่ละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ขณะนี้สาธารณสุขจังหวัดระยองได้ข้อมูลละเอียดแล้วว่า เครื่องบินลำดังกล่าวออกจากปากีสถาน มาถึงสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เวลา 23.00 น.วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา เข้าพักที่โรงแรมดีวารี อ.เมือง จ.ระยอง วันที่ 9 กรกฎาคม เวลา 05.30 น. เดินทางจากโรงแรมไปสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน และกลับถึงสนามบินอู่ตะเภาอีกครั้งเวลา 02.00 น.วันที่ 10 กรกฎาคม และเข้าพักที่โรงแรม อย่างไรก็ตาม เวลา 11.20 น.พบว่า บุคคลในคณะดังกล่าวเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าในจ.ระยอง และคณะเดินทางกลับอียิปต์วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาเวลา 11.00 น.
ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรค พบห้างสรรพสินค้าที่คณะดังกล่าวเดินทางไปคือ ห้างแหลมทอง และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ตรวจสอบภาพวงจรปิดพบลูกเรือเพียงร้อยละ 10 ที่ใส่หน้ากากอนามัยขณะออกนอกเคหสถาน ส่วนใหญ่มีหน้ากากอนามัยแต่ไม่ใส่ แบ่งเป็น 2 ชุดๆแรก เดินเท้าไปที่ห้างแหลมทอง 27 คน มีผู้ติดเชื้อร่วมคณะไปด้วย แต่สวมหน้ากากอนามัย โดยใช้เวลาระหว่าง 11.00-14.59 น. ชุดที่สองคือ ลูกเรืออีก 4 คน เหมารถแท็กซี่ส่วนบุคคลไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ช่วงเวลา 14.00-18.00 น.
ศบค.แจงกลุ่มเสี่ยง2ห้าง1.8พันคน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 9 รายคือ เจ้าหน้าที่โรงแรม 7 ราย เป็นผู้จัดการ 2 ราย พนักงานขาย 1 รายและเจ้าหน้าที่ 4 ราย และที่สนามบิน 2 รายคือ คนขับรถตู้ ขณะที่ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำมี 9 ราย คือ หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคและทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง และจากการเข้าไปตรวจสอบห้างแหลมทองมีผู้ใช้บริการช่วงเดียวกับคณะทหารอียิปต์ 394 คน ขณะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง มีผู้ใช้บริการเวลาเดียวกัน 1,488 คน ขณะนี้มีอยู่ 7 คนที่ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ กรมสอบสวนโรคจะติดตามมาตรวจสอบต่อไป และต้องดูอาการของคณะที่เหลือ หากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มก็ไม่จำเป็นต้องสอบสวนโรคเพิ่ม อย่างไรก็ตาม คณะของชาวอียิปต์นี้ขออนุญาตเดินทางมาจากกระทรวงการต่างประเทศ และยอมรับว่ากรณีเช่นนี้เกิดขึ้นหลายเที่ยวบินแล้ว เป็นไปตามข้อกำหนด ( 5 ) ที่ยกเว้นให้ผู้ควบคุมยานพาหนะสามารถเดินทางมาปฏิบัติภารกิจภายในราชอาณาจักรได้ แต่ต้องมีกำหนดที่ชัดเจนของคำสั่งศบค.ฉบับที่ 7/2563
สัมผัสลูกทูต7รายเสี่ยงสูง15เสี่ยงต่ำ
โฆษก ศบค.กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีลูกสาวอุปทูต ซูดานประจำประเทศไทย ตรวจสอบพบมารดานำผู้ป่วยและครอบครัวไปตรวจเชื้อโควิดวันที่ 7 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผลตรวจเป็นลบ ก่อนเดินทางออกจากซูดาน วันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีคนไทย 245 คนร่วมเที่ยวบินมาด้วย และมาถึงประเทศไทย วันที่ 10 กรกฎาคม เดินทางมาถึงคัดกรองแล้วไม่มีอาการ อุปทูตจึงนำครอบครัวไปพักที่คอนโดมิเนียม One X Sukhumvit 26 ไม่ได้แวะพักที่ไหน แต่จากการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ พบผู้ป่วยมีเชื้อ 1 รายจึงส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จากนั้นวันที่ 12 กรกฎาคม ครอบครัวดังกล่าวย้ายไปที่บ้านพักสถานเอกอัครราชทูตซูดาน ในซอยสวนพลู ซึ่งคอนโดมิเนียมดังกล่าวเคยมีผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 2 คน คอนโดมิเนียมทำความสะอาดเป็นอย่างดี และกรณีดังกล่าวมีผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อเสี่ยงสูง 7 ราย คือ คนในครอบครัว 3 ราย คนขับรถยนต์ 1 ราย เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ 1 ราย และคนขับรถตู้ 2 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 15 ราย คือ ผู้ใช้ลิฟต์ต่อจากครอบครัวนี้ โดยครอบครัวอุปทูตดังกล่าวถือเป็นข้อยกเว้น ตามคำสั่งศบค.ที่ 7/2563 กรณีอนุญาตให้บุคคลในคณะทูต คู่สมรสและครอบครัวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้
ศบค.รับหละหลวมสถานทูตหารร.เอง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเดินทางเข้ามาของทหารอียิปต์มีเจ้าหน้าที่กำกับหรือไม่ ใครรับผิดชอบ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบและจะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนการเดินทางของผู้ควบคุมยานพาหนะนั้น ตามคำสั่งศบค.ไม่ได้กำหนดให้มีผู้ควบคุม แต่ให้ใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัว เท่าที่ทราบเขามีการโหลดแอพฯไว้ แต่จะใช้หรือไม่ ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเราพบว่ามีความหละหลวม คือ สถานทูตฯติดต่อโรงแรมที่พักโดยตรง นำไปสู่การเข้าพัก แล้วศบค.รับทราบทีหลัง แต่ก็ไม่ละเลยจึงตรวจพบครั้งนี้
โฆษกฯเสียใจขอโทษพร้อมแก้จุดอ่อน
ถามต่อว่ากรณีดังกล่าวทำให้มีเสียงวิจารณ์ว่าศบค.การ์ดตก และเรียกร้องให้ศบค.ยกเลิกสิทธิวีไอพีหรือทบทวน นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ตนก็เสียใจกับคำพูดที่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐการ์ดตกเสียเอง ขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะรับสิ่งต่างๆมาปฏิบัติให้ดีที่สุด เพื่อแก้ปัญหาชุดข้อต่อเล็กๆ ในจุดที่หละหลวม เป็นความรับผิดชอบของพวกเรา ที่ยังไม่ละเอียดในแต่ละข้อต่อ เดิมคิดว่าลูกเรือจะมาลงที่สนามบินนานาชาติสุวรรณ แต่ครั้งนี้ไปลงที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องจัดการ
ศบค.เต้นทบทวนยกเว้นกักตัวคณะทูต
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กที่มีการประชุมด่วนช่วงเช้าวันนี้ มีมติเกี่ยวกับการทูต สรุปว่า ศบค.จะทบทวนการผ่อนคลายมาตรการกักกันของบุคคลในคณะทูต โดยเฉพาะคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตร โดยกระทรวงการต่างประเทศต้องทบทวนและให้นักการทูตเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐเป็นเวลา 14 วัน รวมถึงให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกอนุญาตการบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ที่อนุญาตไปแล้ว 8 เที่ยวบิน และให้ชะลอการอนุญาตเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแบบผ่อนคลายมาตรการเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ของกลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต กลุ่มบุคคลในคณะทูตฯ และกลุ่มนักธุรกิจเดินทางระยะสั้น ขอให้ชะลอออกไปก่อน และทบทวนระบบอีกครั้ง ก่อนที่จะรับคนต่างชาติเข้ามา ดังนั้นจึงขออภัยคนระยอง ที่เด็กต้องปิดโรงเรียน และกทม.พวกเราไม่สบาย จะทำให้ดีที่สุดและละเอียดยิ่งกว่านี้
รับคาดการณ์ไม่ถึง-ชื่นชมคนพื้นที่ช่วยดู
เมื่อถามอีกว่าที่มีข่าวคณะทหารอียิปต์ไปเที่ยวกลางคืน ไปเที่ยวอาบ อบ นวดหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จากการตรวจสอบคณะดังกล่าวไม่ได้ออกนอกโรงแรมช่วงกลางคืน และคณะนี้ไม่ใช่วีไอพี เป็นเพียงคณะลูกเรือ และส่วนใหญ่กรณีเช่นนี้จะพักกันที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ มีเพียงคณะนี้เท่านั้นที่มาลงที่สนามบินนานาชาติ อู่ตะเภา ดังนั้น ศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบ
“ศบค.จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ หลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ที่คาดการณ์ไม่ถึงไม่รู้ว่ามีรายละเอียดมาก จากนี้ต้องปรับปรุง ผมในฐานะโฆษก ศบค.ยืนยันว่า ทุกภาคส่วนทำงานหนัก จึงเห็นความเข้มแข็งของการพบผู้ติดเชื้อ นี่คือระบบตรวจสอบของมดงานในพื้นที่ ที่ทำงานได้อย่างดี ต้องขอชื่นชม ตนที่อยู่ในศบค.จะมองภาพใหญ่ แต่ต้องพึ่งคนในพื้นที่ ดูภาพย่อยแล้วนำมาประกอบกัน เพื่อปกป้องประเทศของเรา และขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่จะทำความเข้าใจและให้โอกาสพวกเราทำงาน หากมีอะไรไม่สบายสามารถแจ้งเข้ามาได้ เรายินดีพัฒนาปิดจุดอ่อนต่างๆได้ดีที่สุด”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ชี้เคสทหารอียิปต์ผิดส่วนบุคคล
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ห้องประชุม 3 อาคารสำนักงาน ก.พ.เดิม ถนนพิษณุโลก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)กล่าวก่อนประชุมศบค.ชุดเล็กกรณีทหารชาวอียิปต์ติดเชื้อโควิค-19 เดินทางมาพักในจ.ระยองว่า เรื่องนี้เป็นความผิดส่วนบุคคลที่ลักลอบออกไปนอกพื้นที่ที่กำหนด ถือเป็นการฝ่าฝืนส่วนบุคคล ไม่ได้เกิดจากความหละหลวมหรือความผิดพลาดของระบบ เพราะตรวจสอบแล้วพบทุกหน่วยงานทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่ ส่วนการตรวจเชื้อโควิคตามขั้นตอนนั้น สนามบินอู่ตะเภาตรวจคัดกรองตามขั้นตอน 2 ลักษณะคือ ตรวจจากเอกสารต้นทาง ซึ่งยืนยันได้ระดับหนึ่ง และเพื่อความมั่นใจอีกระดับหนึ่งคือ ตรวจสวอป ส่วนที่ปรากฏตามสื่อว่าทหารอียิปต์ไม่ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจทำการตรวจเชื้อ เนื่องจาก ความไม่เข้าใจ แต่ทางการไทยต้องการความมั่นใจจึงต้องให้ตรวจซ้ำ
ชงนายกฯทบทวน-เลิกสิทธิ์วีไอพี
รอง ผบ.ทบ.กล่าวว่า วันนี้เสนอนายกฯในฐานะผอ.ศบค.ว่า ต้องทบทวนมาตรการ ผ่อนปรนทั้งหมดสำหรับบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือคณะทูตต่างประเทศและครอบครัว แม้ที่ผ่านมาจะเป็นการให้เกียรติทางการทูต แต่ถ้ามีข้อบกพร่องเกิดขึ้น ก็จำเป็นต้องทบทวนมาตรการดังกล่าว รวมถึงจะเสนอให้ชะลอบุคคลที่เข้ามาระยะสั้นและไม่ต้องอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนดไว้ เราเสนอให้ทบทวนหรือยกเลิกตรงนี้ไปก่อน นอกจากนี้ จะเสนอให้ยกเลิกเที่ยวบินของอียิปต์ทุกเที่ยวบินที่ได้รับอนุญาตให้เข้าราชอาณาจักรไทยไปแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีเที่ยวบินจากประเทศอื่นยังเดินทางเข้าประเทศไทยได้ เพราะปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการไทย
แก้ระเบียบใหม่ทูตมาต้องกัก14วัน
ด้านนายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวหลังประชุมศบค.ชุดเล็กว่า ที่ประชุมพิจารณาตามคำขอของกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ทบทวนมาตรการเดินทางของคณะทูตต่างประเทศทั้งหมด เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและความมั่นใจป้องกันโรคโควิด ซึ่งหนึ่งในนั้นกำหนดให้คณะทูตต่างประเทศและครอบครัว เมื่อเข้ามาในไทยแล้ว ต้องเข้าสู่การกักตัวในสถานที่กักกันของรัฐแบบทางเลือก ซึ่งบุคคลนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง (Alternative State Quarantine) 14 วัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่บุคลากรของคณะทูตต่างประเทศ เมื่อเข้ามาในไทย ต้องตรวจหาเชื้อ แล้วให้ไปกักตัวในที่ที่สถานทูตประเทศนั้นๆกำหนด ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวจะหารือและกำหนดรายละเอียดในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วันที่ 17 กรกฎาคมอีกครั้ง
ทูตเสียใจพร้อมร่วมมือไทยแก้ปัญหา
ส่วนกรณีทหารอียิปต์นั้น นายเชิดเกียรติกล่าวว่า เป็นความร่วมมือทางทหาร ปกติเครื่องบินทหารจะเข้ามาในไทย ต้องยื่นเรื่องขออนุมัติจากทางการไทย ผ่านสถานเอกอัครราชทูตประเทศนั้นๆ ที่จะส่งมายังกระทรวงการต่างประเทศที่จะยื่นต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีอียิปต์เป็นเครื่องบินทหาร เป็นภารกิจขอเข้ามาเปลี่ยนถ่ายและลำเลียงอะไหล่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องไปยังกองทัพอากาศพิจารณาว่าอนุญาตหรือไม่ กรณีทหารรายนี้ สถานเอกอัครราชทูตอียิปต์ฯ แสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมร่วมมือกับไทยแก้ปัญหา ทั้งนี้ รัฐบาลอียิปต์ยื่นขออนุญาตให้เครื่องบินทหาร 8 เที่ยวบินเข้ามาในไทย ซึ่งล่าสุด ทางการไทยโดยกองทัพอากาศยกเลิกคำขอทั้งหมดแล้ว กรณีทหารอียิปต์ที่ไม่ยินยอมให้ตรวจหาเชื้อนั้น อาจเกิดความเข้าใจผิดพลาดหรือปัญหาการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่สถานทูตอียิปต์กับทหารอียิปต์
นายกฯรับหละหลวมสั่งเร่งหาเชื้อ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงถึงกรณีพบทหารอียิปต์มีเชื้อโควิดและเดินทางไปหลายที่ในจ.ระยองว่า ประเด็นที่จ.ระยองวันนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ซึ่งเกิดจากการไม่เคารพกติกา ไม่มีวินัย ไม่คิดถึงส่วนรวม ทำให้เกิดปัญหา ความรับผิดชอบก็โทษกันไปมา ตนในฐานะผอ.ศบค.ขอรับผิดชอบตรงนี้ด้วย สิ่งสำคัญต้องหาวิธีปิดจุดหละหลวมเหล่านี้ให้ได้ วันนี้ส่งทีมลงพื้นที่เก็บข้อมูลเชิงลึกแล้ว รวมถึงตรวจหาพื้นที่สัมผัส และผู้อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว หาจุดลงทะเบียนเข้าออกทางแอพพลิเคชั่นไทยชนะด้วย นอกจากนี้ จะตรวจเชื้อเพิ่มเติมกับบุคคลที่สัมผัส และกังวลในช่วงดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนสบายใจและเร็วที่สุด
สั่งทบทวนมาตรการ-ระงับเที่ยวบิน
“ผมตนสั่งให้ ศบค.ไปทบทวนเรื่องมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทั้งบรรดาสถานทูต เอกอัครราชทูตต้องปฏิบัติตามระบบระเบียบทุกปราการ ต้องทบทวนตรงนี้ใหม่ ส่วนการอนุญาตบินเข้ามาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินทหาร หรือที่ใดก็ตาม ต้องมีมาตรการตามที่กำหนดไว้แล้ว อันนี้เป็นเรื่องความไม่รับผิดชอบในส่วนที่รับปากกันไปแล้ว และผ่านการตรวจสอบไปแล้ว แต่ออกไปนอกพื้นที่ ถือเป็นการฝ่าฝืน ตนให้กระทรวงการต่างประเทศหารือกับสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยไปแล้ว อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก พร้อมระงับทุกเที่ยวบินที่เข้ามาลักษณะนี้ทั้งหมด ไม่ให้เข้ามาจนกว่าจะแก้ปัญหานี้ได้”นายกฯระบุ
ชี้ไม่ควรเกิดเอ่ยเสียใจขอโทษคนไทย
และว่า ทุกปัญหามีความสำเร็จและมีส่วนที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการ รัฐบาลโดยศบค. ไม่ได้หยุดยั้งเรื่องเหล่านี้เลย ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่น มาตรการ สาธารณสุขของเรา น่าจะรองรับได้ แต่ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ตนเสียใจ ต้องขอโทษประชาชนคนไทยด้วย ต้องมาดูแลกันให้มากที่สุดหลายประเด็น ซึ่งหลายปัญหาเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ตนย้ำครม. และให้ศบค.แก้ไขทบทวนทุกอย่างโดยเฉพาะมาตรการผ่อนคลายต่างๆ เพราะกระทบความเชื่อมั่น ความปลอดภัยของประชาชน และไม่ควรเกิดขึ้น ต้องดำเนินการให้ดีที่สุด ขอเวลาให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และ ศบค.แก้ปัญหาก่อน
ห่วงการ์ดตก-ฮึ่มปิดทันทีผับแหกกฎ
นายกฯกล่าวด้วยว่า สิ่งที่กังวลอีกอย่างกรณีที่การ์ดตกในหลายส่วน ทั้งภาคประชาชน สถานผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งตนย้ำให้ตรวจตรา ให้รัดกุมมากกว่าเดิม และปิดทันทีโดยเฉพาะสถานที่เที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ ตนได้รับการรายงานมา ต้องปิดทันที ถ้าไม่แก้ไขส่วนนี้ ผุ้ประกอบการต้องร่วมมือ เมื่อกำหนดมาตรการไปแล้ว แต่ถ้าไม่ปฏิบัติก็ต้องยกเลิกไปจนกว่าจะแก้ไขให้ได้ และวันนี้ต้องขอย้ำเรื่องสวมหน้ากากล้างมือ โหลดแอพพลิเคชั่น การเช็คอินสถานที่ต่างๆ การเว้นระยะห่างยังต้องมี ที่ผ่านมาเห็นว่า ที่ทำมาลำบากโดยตลอด ผลที่ออกมาวันนี้เราอยู่ในระดับที่รักษาความปลอดภัย มาตรการสาธารณสุขเรื่องโควิด-19 อยู่ในลำดับแรกๆของโลกด้วยซ้ำ
สั่งคุมเข้มทุกพื้นที่อย่าให้ซ้ำรอยอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นบทเรียนต้องกลับมาล็อคดาวน์ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ขอทบทวนก่อน ถ้าจะปิดทีเดียวต้องหามาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนนี้ยังติดตามอยู่ว่าไปที่ไหนอย่างไร มีใครติดเชื้อบ้างหรือไม่ ขอให้ประชาชนช่วยดูแลด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับคนหลายคน ถ้าทุกคนไม่ทำตามระเบียบ ระบบก็มีปัญหาอีก วันนี้จริงๆแล้วเครื่องบินที่เข้ามา เป็นเครื่องบินทหารที่เปลี่ยนเที่ยวบิน ปกติมาแล้วต้องไปเลย แต่ปรากฎว่ามีการหยุดค้างคืน และมีบริษัท พาเข้าโรงแรม ซึ่งตามกติกาต้องอยู่ในโรงแรม ปรากฎว่าไม่ควบคุม ควบคุมกันไม่ได้ดี ตนสังการเข้มงวดทุกพื้นที่แล้ว และวันนี้ไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ทำให้ความก้าวหน้าของมาตรการต่างๆมีปัญหาอีก ส่วนจะกระทบแผน Medical tourists หรือไม่นั้น ตนแจ้งกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาไปแล้ว ให้เตรียมการไว้ก่อน แต่การจะอนุมัติหรือไม่ต้องดูสถานการณ์ทั้งในและนอกประเทศก่อน เราไม่ผลีผลาม ถ้าคนจำนวนมากเข้ามา และเจอแบบนี้ ที่ไม่รักษาวินัย ไม่เคารพกติกา จะเกิดปัญหา ดังนั้น เรายังไม่ผ่อนคลายตรงนี้ แต่ไม่ถึงขั้นล็อคดาวน์หรือห้ามทั้งหมด แต่ต้องหามาตรการเข้มข้มในจุดที่อ่อนไหว มีปัญหา โดยตนย้ำว่า ทุกสนามบินต้องมีมาตรการเช่นเดียวกัน ในการตรวจสอบ
ปรารภครม.ยันไทยทำดีบางคนไร้วินัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างประชุมคณะรัฐมนตรี ช่วงหนึ่งนายกฯปรารภถึงกรณีพบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิค-19 ที่จ.ระยองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาไทยนั้นทำดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากบางคนที่ขาดระเบียบวินัยเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็จะต้องแก้ไขกันไป
สธ.-กทม.ตรวจคอนโดลูกทูต
วันเดียวกัน ที่คอนโด ONE X ย่านสุขุมวิท 26 กทม. กระทรวงสาธารณสุข พร้อมกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่คอนโด พร้อมนำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน เข้าตรวจสอบคัดกรองโควิด-19 ให้กับประชาชนในคอนโดแห่งนี้ หลังลูกสาวทูตวัย 9 ปีติดเชื้อโควิด-19 และเข้าพักในคอนโดดังกล่าว โดยนพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผอ.สำนักอนามัย เปิดเผยหลังเข้าตรวจหาเชื้อในคอนโดมิเนียม “วันเอ็กซ์”ว่า หลังพบว่าผู้ป่วยโควิดแต่ใช้สิทธิทางการทูตไปกักตัวดูแลกันเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของไทยไม่ทราบว่าสถานทูตของประเทศนั้น จะนำตัวบุคคลไปพักที่ไหน พอสืบทราบว่ามีการพาไปดูแลที่คอนโดซึ่งเป็นสถานที่รวมอยู่กับผู้อื่น ก็รีบแจ้งให้ผู้ดูแลคอนโดดังกล่าวทราบทันที เพื่อดำเนินการปิดลิฟต์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อให้พื้นที่ปลอดภัย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดฯ พบเด็กหญิงคนดังกล่าวพักอยู่พร้อมครอบครัว รวม 5 คน ไม่ได้เดินทางออกไปที่อื่น ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ขณะนี้อาการของผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นมาก ส่วนคนในครอบครัว อีก 4 คน ถูกย้ายไปกักตัวที่อื่นแล้ว อยู่ในการเฝ้าติดตามของเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดยังไม่มีอาการหรือภาวะติดเชื้อแต่อย่างใด จึงขอให้มั่นใจในมาตรการป้องกันเชื้อว่าสามารถควบคุมได้
รมช.สธ.ตรวจพื้นที่ยันคุมได้
เช้าวันเดียวกัน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดระยอง เบื้องต้นเดินทางไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ประชุมร่วมกับทางจังหวัด เพื่อติดตามความคืบหน้าของสรุปสถานการณ์ ก่อนจะเดินทางไปยังจุดเสี่ยงโรงแรมที่ทหารอียิปต์เข้าพัก เพื่อติดตามการบริหารจัดการในพื้นที่เสี่ยง หลังประชุม นายสาธิตเผยว่า ไม่ต้องกังวลเชื่อว่าควบคุมสถานการณ์ได้
ระยองแห่หาเชื้อผวาระบาดรอบ2
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแหลมทอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำรถพระราชทาน 2 คัน เป็นรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย ตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ไปตั้งให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แก่ประชาชนชาวระยอง ประชาชนรายหนึ่งเปิดเผยว่า ในวันเวลาดังกล่าวตนมาทำงาน ร้านกิ๊ฟช็อปในห้าง วันนั้นมีลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ 2 ราย เข้ามาซื้อสินค้าที่ร้านตน แต่ตนป้องกันตัวเองตลอดเวลา วันนี้นายจ้างให้หยุดงานเพื่อมาตรวจโควิด19 ยอมรับว่ามีความกังวลหากระบาดระยะที่ 2 อีกรอบ เนื่องจากพึ่งได้งานทำหลังจากต้องตกงานเมื่อ 3เดือนที่ผ่านมา
ปิดรร.เกือบทั้งจว.274แห่ง
นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ศึกษาธิการจังหวัดระยองได้รายงานว่ามีสถานศึกษาในจังหวัดระยองปิดการเรียนการสอนแล้ว 274แห่ง แบ่งเป็น สถานศึกษาระดับอาชีวศึกษา 11 แห่ง โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 223 แห่ง โรงเรียนเอกชน 32 แห่งและสถานศึกษาสังกัด กศน. 8 แห่ง ซึ่งการปิดสถานศึกษาครั้งนี้โรงเรียนจะปรับการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์แทน
ปิดห้างทำความสะอาด2วัน
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่ Passione (ห้างแหลมทอง) หนึ่งในพื้นที่เสี่ยงสัมผัสของทหารอียิปต์ที่พบติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้จังหวัดได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนในขอบเขตอำนาจของจังหวัด โดยมีนายปริญญา โพธิสัตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นหัวหน้าการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุว่ามีจุดใดเป็นจุดบกพร่องกรณีนี้ เบื้องต้นพบว่าทั้งโรงแรมและห้าง 2 แห่ง มีการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จุดคัดกรอง มีการทำความสะอาด และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีความเสี่ยงประมาณ 390 ราย ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยองเร่งตามตัวทั้งหมด ส่วนสถานที่อื่นนอกจาก 3 แห่งนี้ ยังไม่พบว่ามีความเสี่ยง
สถานการณ์เวลานี้ยังไม่รุนแรงที่ถึงขั้นที่จะต้องล็อกดาวน์อีกรอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของห้างทั้งสองแห่งยินดีให้ความร่วมมือปิดทำความสะอาด 2 วัน เริ่มวันที่ 15-16 กรกฎาคมนี้ ส่วนโรงแรมปิดเพื่อทำความสะอาดเฉพาะชั้นบนที่ทหารชุดนี้พักอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี