"อย่าปล่อยให้ลอยนวล" ผู้ว่าฯนครพนม สั่งสอบกองทุน อบต.นาหว้า แจ้งความดำเนินคดีกรรมการยกเซ็ต พบข้าราชการรู้เห็นเป็นใจเจอ 157
กรณีประชาชนชาวบ้านตาล หมู่ 9 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ร้องเรียนผ่านสื่อว่า องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาหว้า แจ้งยุบกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลนาหว้าอย่างกะทันหัน โดยอ้างว่าขาดทุนไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ทำให้ชาวบ้านจำนวน 1,700 คนที่ส่งเงินสะสมวันละบาท ในนามชื่อ "กองบุญเพื่อสวัสดิการฯ" ได้รับความเดือดร้อน เช่น บางรายส่งเงินเข้ากองทุนมานานถึง 12 ปี เพราะได้เงินคืนเพียง 612 บาท บางคนเพิ่งส่งไม่กี่ปีก็ได้เงินคืนแค่ 9 บาท เป็นต้น
โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2551 โดยมีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดสรรเป็นเงินอุดหนุนตามนโยบายของรัฐบาล นำมาให้แต่ละชุมชนบริหารจัดการกันเอง อบต.นาหว้าในขณะนั้นมีนายสนั่น บุตรจันทร์ เป็นนายก อบต.ได้เชิญชวนชาวบ้านในเขตรับผิดชอบของ อบต. จำนวน 15 หมู่บ้าน มาร่วมกันสะสมเงินวันละ 1 บาท มีระเบียบดังนี้หากสมาชิกเสียชีวิตจะได้รับเงินฌาปนกิจศพตามขั้นบันได เช่น เป็นสมาชิกน้อยกว่า 3 เดือน ได้รับเงินช่วยเหลือ 300 บาท เป็นสมาชิกครบ 8 ปีได้รับเงิน 20,000 บาท แต่ถ้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินถึง 30,000 บาท เป็นต้น หรือถ้าเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะได้เงินตอบแทนวันละ 100 บาท แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ในทุกๆเดือนจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บเงินถึงบ้าน ปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 1,700 คน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดวันที่ 20 ก.ค.63 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดฯ (ศปก.นพ.) ในวาระการประชุมได้มีเรื่องกรณีประชาชนชาวบ้านตาลร้องเรียนผ่านสื่อรวมอยู่ด้วย จึงสั่งการให้ น.ส.แสงดาว อารีย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม (พมจ.ฯ) หารายละเอียดในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวมาชี้แจงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก และต้องหาตัวคนผิดมาลงโทษโดยเร็วที่สุด อย่าปล่อยให้คนเหล่านี้ลอยนวล
ขณะเดียวกัน นายพศิน เฉลียวไว เลขานุการร่วมสวัสดิการชุมชนจังหวัดนครพนม ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าพบกับ น.ส.แสงดาว พมจ.ฯในห้องทำงาน พร้อมเปิดเผยว่าเงินอุดหนุนดังกล่าว ทางรัฐบาลจัดสรรให้ทั้งหมด 3 งวด โดยงวดแรกปี 2553 (หลังจัดตั้งกองทุน) ส่งสมทบให้ 64,400 บาท งวดที่ 2 ปี 2554 จำนวน 320,720 บาท และงวดสุดท้ายปี 2556 จำนวน 529,200 บาท รวมเป็นเงิน 914,320 บาท
นายพศิน กล่าวต่อว่า กองทุนนี้มีนนายก อบต.นาหว้า เป็นประธาน และมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 15 หมู่รวมทั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลนาหว้าร่วมเป็นกรรมการ ประมาณปี 2557 คณะทำงานมาตรวจสอบใช้จ่ายเงิน เห็นปัญหาในบัญชีว่าไม่เป็นปกติ จึงให้เหรัญญิกทำรายงานชี้แจง ทราบเบื้องต้นว่ามีการนำเงินออกจากบัญชีไปให้นายก อบต.จึงตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และได้ให้คณะกรรมการชุดนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับตั้งชุดใหม่เข้ามาบริหาร ซึ่งกรรมการชุดปัจจุบันได้ขอเงินอุดหนุนเพิ่ม แต่ไม่สามารถจัดสรรให้ได้ตามคำขอ เนื่องจากบัญชีเก่ายังเคลียร์ไม่ได้ ตนได้ทำรายงานชี้แจงให้ผู้บังคับบัญชาทราบอย่างสม่ำเสมอ
ด้าน น.ส.แสงดาว อารีย์ พมจ.นครพนม กล่าวว่า หลังผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม สั่งการก็ไม่นิ่งนอนใจ ได้ประสานไปยัง อบต.นาหว้า เชิญประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาพบกันที่ศาลาประชาคมใน อบต.นาหว้า เวลา 14.00 น.วันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) จากนั้นจะพากันไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง คือคณะกรรมการชุดเก่ายกชุด ในคดีอาญากับอดีตนายกและพวกที่โกงเงินไป คือการร่วมกันยักยอกทรัพย์ และอาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนอีกหนึ่งข้อหา และ น.ส.แสงดาว กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าพบว่ามีข้าราชการที่รับทราบปัญหาแต่ไม่ดำเนินการใดๆ เช่น ไปแจ้งความดำเนินคดี จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ (ม.157) ต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี