เผยแรงงานเถื่อนเมียนมาถูกจับจนล้นห้องขังในพื้นที่จ.กาญจนบุรี สาเหตุทางการเมียนมาปฏิเสธรับตัวกลับนอภ.สังขละบุรีนำลูกน้องดักซุ่มตะครุบขณะข้ามลำน้ำได้อีก 18ราย มีสาวชาวไทยหัวหน้าทีมขนแรงงาน ยัดเงินสินบน7หมื่น แลกปล่อยตัว แต่ถูก2อส.ปฎิเสธ พร้อมคุมตัวส่งไปดำเนินคดี
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 21 กรกฎาคม หลัง ฝ่ายปกครองสืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ด้วยการเดินทางทางเรือ ล่องไปตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่บริเวณด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และด่านที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางถนนสาย 323 โดย นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชานำกำลังไปสังเกตการณ์ จนกระทั่งเวลา17.00น.ขณะที่อส.สมชาย เจตนารักษ์ชาติ และอส.ภูมิพัฒน์ ทุ่งพนาสิริรักษ์กำลังดักซุ่มด้วยการปลอมตัวเป็นคนตกปลาอยู่ที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ท้องที่ บ้านหลังเขา หมู่3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี
ทั้งคู่พบเห็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์ รีโว่ สีดำหมายเลขทะเบียน 2 ฒพ 2577 กทม.วิ่งผ่านสวนยางพาราลงไปจอดริมอ่างเก็บน้ำ จากนั้นมีเรือหางยาว 2 ลำ เข้ามาจอดเทียบท่า เจ้าหน้าที่ อส.ทั้งสองสังเกตดูท่าทางมีพิรุธจึงตัดสินใจแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ผลปรากฏพบแรงงานชาวเมียนมา ทั้งชาย-หญิงนั่งอัดกันแน่นอยู่เต็มคันรถ ส่วนคนขับเรือ ทั้ง 2 ลำ เมื่อเห็น จนท.อส.ทั้ง2 จึงอาศัยช่วงชุลมุน เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับรถยนต์คันดังกล่าว มีน.ส.กรณิภา อมรเดชากร อายุ49ปีอยู่บ้านเลขที่ 353/1หมู่ 3 ต หนองลู อ.สังขละบุรี เป็นคนขับ ส่วนแรงงาน ที่ควบคุมตัวเอาไว้ได้มีทั้งหมด 18ราย ส่ง สภ.สังขบุรี ดำเนินคดี
แจ้งข้อหา น.ส.กรณิภา คนขับซึ่งเป็นคนไทย ในข้อหา“ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้พ้นจากการจับกุมและเป็นเจ้าของยานพาหนะ เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวโดยฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ฉบับที่2296 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 63 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 (ม.52) ส่วนแรงงานต่างด้าวชายหญิงทั้ง 18 ราย จะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นน.ส.กรณิภา ให้การว่าตนกำลังนำแรงงานต่างด้าวจำนวนดังกล่าวไปส่งที่บริเวณท่าน้ำบ้านหลังเขา เมื่อไปถึงจะมีคนมารับแรงงานต่อไปอีกทอดหนึ่ง โดยจะได้รับค่าจ้างหัวละ800บาท แต่ต้องมาถูกจับกุมเสียก่อน ขณะเดียวกัน ระหว่างที่น.ส.กรณิภา ถูก อส.สมชาย และอส.ภูมิพัฒน์ จับกุมตัวได้ พร้อมแรงงาน ปรากฏน.ส.กรณิภา ได้เสนอให้เงินสินบนแก่อส.ทั้งสอง เป็นเงินสูงถึง7หมื่นบาท แต่อส.ทั้ง2ได้ปฏิเสธที่จะรับเงินสินบนจาก น.ส.กรณิภา ซึ่งได้รับคำชื่นชมจาก ผู้บังคับบัญชาเป็นอย่างมาก
ด้านกลุ่มแรงงานที่ถูกจับกุมให้การว่าพวกตนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ผ่านจุดผ่อนปรนชั่วคราวด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู จากนนั้นมีผู้นำพาเดินไปตามช่องทางธรรมชาติเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมที่บริเวณด่านตรวจบ้านน้ำเกิ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลูโดยทั้งหมดจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่กทม.และปริมณฑล หากทำสำเร็จ ทุกคนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรายละ7,500บาท แต่ก็มีถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
แหล่งข่าวแจ้งว่าปัจจุบันมีแรงงานชาวเมียนมาเริ่มลักลอบเข้ามาในพื้นที่ อ.สังขละบุรีเป็นจำนวนมากซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานเหล่านี้ได้เกือบทุกวันทำให้ห้องขุมขัง สภ.สังขละบุรีไม่เพียงพอที่จะควบคุมตัว พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เร่งดำเนินการส่งฟ้องศาลเพื่อระบายแรงงานต่างด้าวไปคุมขังที่อื่นโดยเฉพาะที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ
ปัญหานี้เกิดขึ้นกับ ตม.กาญจนบุรีเช่นเดียวกันเนื่องจากไม่สามารถทำการผลักดันชาวเมียนมาที่เข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศต้นทางได้เนื่องจากทางการเมียนมาปฎิเสธรับตัวกลับช่วงนี้ส่งผลให้ทางการไทยต้องแบกรับภาระจัดหาสถานที่ควบคุมตัวรวมทั้งดูแลเรื่องอาหาร ที่ต้องจัดหาให้วันละ3มื้อเพื่อให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม
โดยมีการเสนอให้ทางการไทย เร่งประสานขอความร่วมมือในการส่งผู้ต้องหาชาวเมียนมา กลับประเทศ พร้อม ทั้งหาแนวทางจัดตั้งศูนย์ตรวจและคัดกรองโรคโควิด19ขึ้นที่บริเวณชายแดนบ้านพระด่านเจดีย์สามองค์ และจัดหาสถานที่ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาที่มีพาสปอร์ตซึ่งเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นกลุ่มที่เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการชาวไทย
โดยทำการกักตัวจนกว่าจะครบ14 วัน หากแรงงานไม่มีอาการการติดเชื้อโควิด-19ก็ดำเนินการให้นายจ้างมารับตัวไปทำงานได้โดยค่าใช้จ่ายในการกักตัวตลอด 14วัน แรงงานที่ถูกกักตัวจะต้องเป็นผู้จ่ายเอง
ซึ่งแนวทางนี้หากทำได้ก็จะเป็นการจัดการปัญหาแรงงานลักลอบเข้าเมืองได้อย่างเป็นระบบ และสามารถตัดวงจรขบวนการค้ามนุษย์ ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและประเทศชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี