23 กรกฎาคม 2563 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1201(ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201) สนธิกำลังร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ ออกทำการลาดตระเวนตรวจเข้มภายในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของ แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมฯได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกว่า 25 คน มีทั้งหญิง ชาย และเด็ก พร้อมกระเป๋าสัมภาระ คาดว่าเป็นชาวเขมรมุสลิม(ชาวกัมพูชานับถือศาสนาอิสลาม) เนื่องจากผู้หญิงทั้งหมดสวมชุดฮิญาบปิดหน้า เดินเท้าออกมาจากตลาดโรงเกลือ มุ่งหน้ามาที่ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบและควบคุมตัวไว้ได้บริเวณทางแยกเข้าตลาดโรงเกลือ หน้าด่านพรมแดนคลองลึก 

เมื่อสอบถามพบว่า ทั้งหมดเป็นชาวเขมรมุสลิม จำนวน 26 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 11 คน ผู้ติดตาม (เด็ก) 8 คน มีพาสปอร์ตสัญชาติกัมพูชา ทุกคน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตม.จว.สระแก้ว ตรวจสอบพาสปอร์ตพบว่ามีรอยตราประทับเดินทางออกไปประเทศมาเลเซีย ผ่านด่าน ตม.ตากใบ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.63 ก่อนประเทศไทยสั่งปิดด่านพรมแดนทั่วประเทศ ป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยไม่มีรอยตราประทับเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด จึงร่วมกันควบคุมตัวชาวเขมรมุสลิมทั้งหมดมาทำการสอบสวนทำประวัติ โดยผ่านล่ามภาษากัมพูชา 

เบื้องต้นชาวเขมรมุสลิมทั้งหมดรับสารภาพว่า ได้เดินทางออกไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ผ่านด่านพรมแดน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ของไทย ก่อนไทยประกาศปิดด่านพรมแดนป้องกันโควิด จากนั้นได้ติดสถานการณ์โควิดในประเทศมาเลเซีย นานเกือบ 4 เดือน คิดถึงบ้านเกิดและงานก็ไม่มีทำจึงได้ชักชวนกันลักลอบข้ามแดนมาตามช่องทางธรรมชาติใกล้ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จากฝั่งมาเลเซียเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 63 แล้วเช่าเหมารถตู้จำนวน 2 คัน จากชายแดน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ให้มาส่งที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในราคาคนละ 1,300 บาท 

โดยรถตู้มาส่งทิ้งไว้ภายในตลาดโรงเกลือ หวังจะลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติหลังตลาดโรงเกลือ แต่ข้ามชายแดนไม่ได้เนื่องจากทหารพรานไทยได้ขึงลวดหนามปิดตายช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดน จึงได้พากันเดินเท้ามาที่หน้าด่านพรมแดนคลองลึก และมาถูกจับกุมได้

เจ้าหน้าที่เกรงว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงรายงานให้นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว จัดส่งเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภออรัญประเทศ มาร่วมกันตรวจคัดกรองโรคทั้งวัดอุณหภูมิไข้ แจกหน้ากากอนามัย และใช้แอลกอฮอล์ล้างมือชาวเขมรมุสลิมทุกคน ก่อนส่งมอบให้ สว.สอบสวน.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดย พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้กำชับสั่งการมายัง พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก, และ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกันสืบสวนขยายผลจับกุมรถตู้ทั้ง2คันที่ลักลอบนำพาชาวเขมรมุสลิมจากชายแดนใต้มาส่งที่ชายแดน อรัญประเทศฯเนื่องจากสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างเร่งด่วน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19