สถานการณ์ในปัจจุบันที่สังคมกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่หรือที่เรียกว่า New Normal ส่งผลให้ประชาชนต้องรู้จักการปรับตัวเพื่อพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่อาจเกิดความผันผวนไม่แน่นอน การมีวินัยทางการเงิน จึงเป็นสิ่งสำคัญและมีความจำเป็นในการวางแผนการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งการทำบัญชีจะเป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงทำให้ทราบรายรับ-รายจ่าย และข้อมูลทางการเงินเท่านั้น แต่ข้อมูลทางบัญชีสามารถนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้ผู้ทำบัญชีสามารถดำรงชีวิตได้อย่างประสบความสำเร็จ และหากจะพูดถึงเรื่องของส่งเสริมการทำบัญชีแล้ว ต้องยกให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่เป็นผู้สอนแนะการจัดทำบัญชีครัวเรือนให้กับเกษตรกร ประชาชน และเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง นายโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เคยบอกกับผมว่า แม้ภารกิจหลักของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ คือ การตรวจสอบบัญชีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เป็นมาตรฐานสากล แต่อีกภารกิจหนึ่งที่สำคัญและทำควบคู่กันคือการส่งเสริมการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกร สมาชิกสถาบันเกษตรกร และประชาชนทั่วไป เพราะกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ มองเห็นความสำคัญของการทำบัญชีว่าจะเป็นเครื่องมือ ที่เปรียบเป็นภูมิคุ้มกันและเป็นคู่มือชีวิตในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและประชาชนได้นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นเพราะไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด ข้อมูลทางการเงินที่ได้จัดการจดบันทึกเท่านั้นที่จะสามารถนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจและการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างประสบความสำเร็จ มีภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดความเสี่ยง ช่วยให้เกิดการจัดระเบียบวินัยในการใช้จ่ายและมองเห็นช่องทางในการออมและเพิ่มรายได้
ท่านอธิบดีโอภาส ยังย้ำกับผมอีกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ดำเนินการสนับสนุนองค์ความรู้ทางบัญชีสู่เกษตรกร ให้ทำบัญชีได้ ใช้บัญชีเป็นในภาคครัวเรือนและภาคการเกษตรมาโดยตลอด เพราะถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้กับเกษตรกรได้อย่างมั่นคง สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ให้รู้จักความพอมี พอกิน พอใช้ คำนึงถึงหลักเหตุผลและการประมาณตนเอง อันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต สามารถปรับเปลี่ยนอาชีพให้เกิดความมั่นคง และเป็นโอกาสในการต่อยอดสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เกิดภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและหลุดพ้นจากกับดักความยากจนได้ ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่า เรื่องของการทำบัญชีเป็นเรื่องยุ่งยาก จึงไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ความจริงแล้ว การจดบันทึกบัญชีอย่างสม่ำเสมอแล้วคิดตามจะทำให้รู้ตัวเราเอง จะทำให้เรารู้ต้นทุนที่มีและรู้สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา ยกตัวอย่างอาชีพเกษตรกร หากมีการจดบันทึกบัญชีอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้ทราบข้อมูลแล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและนำไปสู่การวางแผนที่ดีต่อไปในอนาคตได้ เช่น ข้อมูลสภาพดินที่ทำเกษตรว่าเป็นอย่างไร ขาดธาตุอาหารอะไรหรือไม่ เพื่อจะได้ปรับปรุงบำรุงดินได้อย่างเหมาะสมกับพืชที่ปลูก หรือแม้แต่ข้อมูลจากการทำกิจกรรมต่างๆ ในสวน ในฟาร์ม ข้อมูลที่ได้จากการจดบันทึกจะสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่าสิ่งไหนจำเป็นหรือไม่จำเป็น สิ่งไหนควรเดินต่อ สิ่งไหนควรหยุด ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เกษตรกรบางรายอาจยังมีการวางแผนไม่เพียงพอ ด้วยข้อจำกัดบางประการ แต่หากทดลองทำบัญชีสม่ำเสมอ ก็จะหลุดพ้นจากขีดจำกัดเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน และจะสามารถวางแผนสร้างชีวิตที่สมบูรณ์ได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal ซึ่งอาจจะไม่ได้ช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นมากมาย แต่จะไม่มีรายจ่ายที่เกินกว่าความจำเป็นอย่างแน่นอน...อย่าลืมทำบัญชีครัวเรือนและบัญชีต้นทุนอาชีพกันนะครับ หากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรลองเข้าไปขอคำแนะนำจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ทุกจังหวัด หรือจากครูบัญชีอาสาในหมู่บ้านของท่านได้นะครับ
สุธิพงศ์ ถิ่นเขาน้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี