วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย และผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับการร้องเรียนจากนายชัยสิทธิ์ ลักษณะศิริศักดิ์ ทนายความที่ได้รับมอบหมายจากลูกความที่เป็นชาวต่างชาติกว่า 10 ราย เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม กรณีลูกความ ชาวจีนได้ซื้อโครงการบ้านพักตากอากาศ วิลล่า และ ได้ทําสัญญากับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยบริษัทดังกล่าวมี นายวิลเลี่ยม  และนายจอห์น  กรรมการผู้มีอํานาจในการประกอบกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยบริการรับสร้างบ้าน และซื้อขาย ให้เช่าบ้านพร้อมที่ดิน

ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้ขายโครงการบ้านพักตากอากาศที่ตั้งอยู่บนเกาะสมุยหลายโครงการ ซึ่งในแต่ละโครงการมีการเสนอขายผ่านเว็บไซต์ โดยบริษัทแห่งนี้เป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างบ้านพักอาศัยประเภท พูลวิลล่า ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายโครงการตามที่เสนอขายโครงการให้กับลูกค้าคนไทย และชาวต่างชาติ โดยมีผู้เสียหายทั้งทั้งหมดที่เข้าร้องในครั้งนี้จำนวน 9 ราย สำหรับ บริษัทแห่งนี้ มีโครงการวิลล่าหรู่ จำนวน 4 ที่ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดิน 5 แปลง โดยมีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ประเภทโฉนด ในตําบลบ่อผุด อําเภอ เกาะสมุย

แต่เมื่อถึงกำหนดส่งมอบบ้านและที่ดินในเดือน ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมาปรากฏว่าไม่สามารถปรับปรุงที่ดินและก่อสร้างวิลล่า รวมไปถึงการขึ้นโครงสร้างของสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้ได้ตามสัญญาที่ได้ตกลงและโฆษณาไว้ในเว็บไซต์ได้แต่อย่างใด พบเพียงพื้นที่ดินว่างเปล่า มีการลง เสาเข็มและการวางโครงเหล็กแบบไม่แข็งแรงไว้เพียงร้อยละ 5 ของพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด และไม่เห็นว่าจะมีการก่อสร้างต่อ อีกทั้งการก่อสร้างโครงการก็ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานกว่ากําหนด

นายชัยสิทธิ์ ลักษณะศิริศักดิ์ ทนายความ กล่าวว่าจากการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินบริษัท พบว่าเงินฝากกระแสรายวัน ธนาคารกรุงเทพ สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชื่อบัญชีเป็นชื่อบริษัท พบว่ามีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี แต่บริษัทประกอบกิจการโดยไม่ยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มต่อกรมสรรพากรพื้นที่ ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ตามที่กฎหมายกําหนด ซึ่งเป็นการประกอบกิจการโดยไม่จดทะเบียนเพื่อเสียภาษี

ซึ่งเรื่องนี้นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า จากการที่ทางทนายมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากกรณีของการซื้อขายวิลล่ากับบริษัท เบื้องต้นที่ได้รับข้อมูลจากผู้ร้อง ซึ่งจากนี้ไปจะให้ปลัดอำเภอเกาะสมุยตั้งทีมขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดก่อน โดยมีประเด็นที่ร้องมา เช่นเรื่องไม่ขออนุญาตให้ถูกต้อง และเงื่อนไขไม่ได้โอนบ้านตามกำหนด ซึ่งต้องตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้งจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย ต้องขอเวลาในการตรวจสอบและจะแจ้งให้ผู้ร้องทราบว่าเราจะมีการดำเนินการอย่างไร

เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายมีมูลค่านับร้อยล้านบาท มีเครือข่ายที่กระจายไปในพื้นที่อื่นด้วยอันนี้ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนผู้ที่ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ทางผู้เสียหายกลัวเพราะมีมาข่มขู่ จึงได้ขอให้หากพบว่ามีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลโทรมาข่มขู่อีกให้โทรแจ้งทันที ตนในฐานะนายอำเภอเกาะสมุยจะรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลเพื่ออำนวยความสะดวก และควงามปลอดภัยให้ไม่ต้องกังวล นายอำเภอเกาะสมุย กล่าว