“ตม.เลย” สนธิกำลัง ตชด.-ทหารพราน-สภ.ปากชม ตะครุบแก๊งขนยาบ้าจากฝั่งเพื่อนบ้าน ตายน้ำตื้นโยนของกลางใส่กระบะเจ้าหน้าที่ นึกว่าลูกค้า
25 กรกฎาคม 2563 ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4 , พล.ต.ต.วิบูลย์ วงศ์ก้อม ผบก.ภ.จว.เลย , พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ ผกก.ตม.จว.เลย , พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์ ตาตะนันทน์ ผกก.ตชด.24 , พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี ผบ.ฉก. กรม ทพ.22 , พ.ต.อ.ตรีกฤช จงวิไล ผกก.สภ.ปากชม , พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา รอง ผกก.ตชด.24 , พ.ต.ท.กันต์พจน์ แจ่มปรางค์ทอง รอง ผกก.ตม.จว.เลย , พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ใจสุข ผบ.ร้อย ตชด.246 , พ.ต.ท.ปัญจมานนท์ เมฆเลื่อม สว.ตม.จว.เลย ทำการจับกุม ท้าวกัน เพ็ดดาลา อายุ 55 ปี สัญชาติลาว ราษฎรบ้านก้อนคำ เมืองหมื่น แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า โดยจับกุมได้ที่บริเวณสวนมะขาม ริมถนนทางหลวงหมายเลข 211 (ปากชม - สังคม) ท้องที่บ้านปากมั่ง หมู่ 5 ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย
สืบเนื่องจากชุดจับกุมได้รับแจ้งจากผู้ต้องหายาเสพติด เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2563 ว่ามีขบวนการค้ายาเสพติดจาก สปป.ลาว ข้ามน้ำโขงมาทำการลักลอบส่งมอบยาเสพติด บริเวณสวนมะขามใกล้เมรุเผาศพ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 211 (ปากชม - สังคม) ท้องที่บ้านปากมั่ง ซึ่งเป็นจุดรับ-ส่งยาเสพติดเป็นประจำ ในช่วงเวลาประมาณ 24.00น. - 06.00น. และวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ผู้ต้องหารายนี้แจ้งให้ทราบว่าจะมีการส่งมอบยาบ้าจาก สปป.ลาว ให้กับกลุ่มเครือข่าวยาเสพติดชาวไทยจำนวนมากในบริเวณจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงประสานหน่วยกำลังในพื้นที่เพื่อร่วมสนธิกำลัง วางแผนการจับกุม
ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วางกำลังตามที่ได้ประชุมวางแผนไว้ จนถึงเวลาประมาณ 01.20 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ได้พบชาย 2 คนใช้โคมไฟส่องไปมาทางซ้ายทางขวา ลักษณะท่าทางมีพิรุธ ต้องสงสัย จึงขอทำการตรวจค้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ ได้จอดรถยนต์ใกล้กับบริเวณที่ชาย 2 คนอยู่นั้น ปรากฏว่ามีชายหนึ่งคนได้ถือสิ่งของพร้อมโคมไฟวิ่งมายังรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และโยนสิ่งของที่ถือมาใส่ในท้ายกระบะรถยนต์ของเจ้าหน้าที่
เมื่อชายคนดังกล่าวพบเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามและสามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนชายอีกหนึ่งคนได้อาศัยความมืดและช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีไปทางแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามตัวได้
จากการสอบถามชายคนดังกล่าวทราบชื่อ คือ ท้าวกัน เพ็ดดาลา อายุ 55 ปี ราษฎรบ้านก้อนคำ เมืองหมื่น แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และเจ้าหน้าที่ได้นำวัตถุที่ท้าวกัน โยนไว้หลังรถกระบะมาตรวจสอบ พบว่า เป็นยาบ้าประมาณ 24,000 เม็ด จากนั้นจึงได้สอบถามเอกสารการเดินทางเข้ามาในประเทศ ท้าวกันแจ้งว่าตนไม่มีเอกสารการเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งตนลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติจนกระทั่งถูกจับกุม
ท้าวกัน ยังได้ให้ถ้อยคำเพิ่มเติมอีกว่าตนและพวกอีก 2 คน คือ ท้าวทราย (ไม่ทราบนามสกุล) และท้าวเพ็ด (ไม่ทราบนามสกุล) ราษฎรบ้านคกเหมือด เมืองหมื่น แขวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว ร่วมกันนำยาบ้ามาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวไทย ซึ่งยาบ้าดังกล่าวนั้นเป็นของท้าวเพ็ด โดยท้าวเพ็ด ได้ตกลงว่าจ้างให้ตนนำยาบ้าขึ้นมาส่งให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวไทย ด้วยวิธีโยนยาบ้าดังกล่าวใส่หลังรถกระบะที่จะมาจอดอยู่บริเวณริมถนนใกล้สวนมะขาม จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 9,000 บาท หลังจากเสร็จงาน เมื่อตนเห็นรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดจึงได้โยนยาบ้า ใส่หลังกระบะตามที่ท้าวเพ็ดได้บอกกับตนโดยไม่ทราบว่าเป็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดมายัง ร้อย ตชด.246 อ.เชียงคาน จ.เลย เพื่อสืบสวนขยายผล จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี