วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ส่องเกษตร : สุดท้ายก็คน

ส่องเกษตร : สุดท้ายก็คน

วันพุธ ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : ส่องเกษตร
  •  

การทำการเกษตรของไทยมีวัฒนาการมายาวนานมาก ย้อนกลับไปพิจารณาการปรับทิศทางการพัฒนาการเกษตรจะพบว่ามีการปรับเปลี่ยนทางด้านการพัฒนาคนในแวดวงการเกษตรนับเป็นร้อยปี บางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรก็ได้เฉลิมฉลองอายุกว่าร้อยปี ภาคภูมิใจในการก่อตั้งและการให้บริการเกษตรกรมาอย่างยาวนาน แต่หากตั้งเกณฑ์ว่าผลการพัฒนาต้องตกกับเกษตรกร และหันกลับไปพิจารณาเกษตรกรของไทยอย่างจริงจัง จะเห็นความเปลี่ยนแปลงไม่มากนักเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับเกษตรกรในประเทศอื่นๆ ก็จะยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ความยากจนกับเกษตรกรไทยจึงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาโดยตลอด กลายเป็นอมตวาจากันไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลไปกี่ชุด เปลี่ยนทีมบริหาร เปลี่ยนผู้นำ เปลี่ยนที่มาอย่างไร เป้าหมายที่เหมือนกันคือแก้ไขปัญหาความยากจน และมุ่งไปที่เกษตรกรเป็นสำคัญ ด้วยวิธีการและแนวนโยบายต่างๆนานา ยิ่งนานวันเข้าความยากจนกับเกษตรกรกลายเป็นเกลอกันไป ทิ้งห่างจากกลุ่มอาชีพอื่นในสังคม จากสถานการณ์ดังกล่าวจึงน่าขบคิดว่าแท้จริงแล้วสิ่งใดคือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาความยากจนของเกษตรกร การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่างๆของภาครัฐจึงไม่ตอบสนองสักที

หากพิจารณาประเด็นทางวิชาการเกษตรว่าอ่อนด้อยกว่าประเทศอื่นๆ ก็ไม่อาจจะใช่ เพราะผลงานวิจัยต่างๆ ทั้งในระดับพื้นฐานจนกระทั่งงานวิจัยประยุกต์ เห็นออกมาเผยแพร่จากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานวิจัยโดยตรงของภาครัฐหากจะถามถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นคงไม่ด้อยกว่าชาติใด เมื่อเป็นเช่นนี้ คงต้องมองต่อว่า ทำไมข้อมูลและเทคโนโลยีเหล่านี้จึงเข้าไม่ถึงเกษตรกร ทำไมเกษตรกรถึงไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ ข้อต่อตรงไหนที่บกพร่อง


ในแต่ละยุคสมัยมีการวิเคราะห์สาเหตุและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับเกษตรกรอยู่ตลอดเวลา ขึ้นกับว่าแต่ละยุคแต่ละสมัยจะนำประเด็นใดมานำเสนอ บางยุคเน้นเรื่องการตลาด โดยหวังใช้การตลาดมาแก้ไขปัญหา เกษตรกรเป็นเครื่องจักรการผลิตและมีหน่วยงานอีกหน่วยมาทำหน้าที่การตลาด เหมือนว่าหลักการจะดี แต่ปัญหาความยากจนยังคงอยู่ บางยุคบางสมัยนำประเด็นเรื่องการปรับโครงสร้างการผลิตด้านการเกษตรมาเป็นเครื่องมือ เสนอให้ปรับรูปแบบการทำการเกษตรจากการทำนามาทำสวน แจกกิ่งพันธุ์ไม้ผล ไม้มีค่า เป็นงบประมาณมหาศาล ความสำเร็จกลับไปอยู่ที่คนขายกิ่งพันธุ์ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการได้รับการชมเชยและรางวัลในหน้าที่ราชการ แต่คล้อยหลังไปไม่นานต้นไม้เหล่านี้กลับไปไม่รอด เกษตรกรล้มเหลวจากการปรับเปลี่ยนตามที่ทางราชการแนะนำ หรือบางพื้นที่เปลี่ยนจากการปลูกพืชเป็นทำการประมง หรือเลี้ยงสัตว์ พลิกจากสาขาหนึ่งเป็นอีกสาขา สัดส่วนของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จกับเกษตรกรที่ประสบความล้มเหลวจึงแตกต่างกันมาก เทียบกับงบประมาณที่ทุ่มเทลงไปกับโครงการของหน่วยงานต่างๆ เป็นจำนวนมาก บ่อยครั้งที่ตั้งโจทย์ไว้ที่สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ต้องมีการลงทุนกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ โดยเฉพาะกับการสร้างแหล่งน้ำนอกจากนี้ยังมีการหาแหล่งทุนให้กับเกษตรกร ในที่สุดเกษตรกรของเราจากคนไม่มีหนี้ กลายเป็นคนมีหนี้กันแทบทุกครัวเรือน จากเจ้าของที่ดินกลายมาเป็นผู้เช่าแทน ปัญหาความยากจนจึงยิ่งเป็นมิตรสนิทกันไปใหญ่ ผลจากการพัฒนาการเกษตรที่ผ่านมา สร้างให้เกษตรกรวนเวียนอยู่กับความยากจน การเรียกร้อง กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่เกิดมาร่วม 20 ปี ยิ่งนานวันเข้าเกษตรกรยิ่งเป็นกลุ่มคนที่เหลื่อมล้ำจากกลุ่มคนในอาชีพอื่น มองไปยาวๆ ยังจะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์หรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ ณ เวลานี้

สุดท้ายแล้ว คงไม่พ้น “คน” องค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาการเกษตร แผนยุทธศาสตร์ชาติกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องมีการพัฒนาทุนมนุษย์ ยกระดับความความรู้ ความสามารถในทุกๆด้าน เพื่อส่งผลต่อการพัฒนาในภาพรวม แต่ถ้าคนที่เป็นเป้าหมายของการพัฒนาไม่รับรู้ ไม่มีส่วนร่วม ตั้งแต่กระบวนการคิดและการมีส่วนในการดำเนินการ คาดได้เลยว่าวงจรเก่าๆ คงไม่จากไปไหน “คน” ในแวดวงการเกษตรถึงเวลาต้องปรับตัว ปรับวิธีคิดกันเสียใหม่ คิดแบบเดิม ทำแบบเดิม ผลคงไม่ต่างจากเดิม ความยากจนและเกษตรกรก็คงต้องกอดคอกันไปอีกนาน

สมชาย ชาญณรงค์กุล

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

จวกเกรียนคีย์บอร์ด! 'จิรายุ'ซัดปล่อยข่าว'วธ.'ส่งคืนวัตถุโบราณให้เขมร

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันศุกร์ 4 กรกฎาคม 2568

รู้ยัง!? 'เหี้ย'เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองเพาะพันธุ์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคน กรมอุทยานฯ แจงต้องขออนุญาต

ผลศึกษาพบ'ฝุ่นPM'เพิ่มความเสี่ยง'มะเร็งปอด' แม้ในคนไม่สูบบุหรี่

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved