เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ใน จ.พังงา ณ ห้องประชุมภูผา ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดพังงา
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ จ.พังงา นั้น พบว่า มีผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวน 187 ราย ไม่พบเชื้อ 187 ราย ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย 57 ราย ไม่พบเชื้อ 55 ราย การค้นหาในชุมชน 276 ราย ไม่พบเชื้อ 276 ราย เฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง 533 ราย ไม่พบเชื้อ 468 ราย รอผลการตรวจ 65 ราย มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2 ราย และยังไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างใด
การประชุมในครั้งนี้ได้หยิบยกถึงสถานที่หรือกิจกรรมที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการเปิดได้ เช่น โต๊ะสนุกเกอร์ การแข่งขันสัตว์ต่างๆ การจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนมากๆ เช่น การแสดงดนตรีขนาดใหญ่ ซึ่งทาง ศบค.ยังไม่ได้อนุญาตให้เปิดได้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพังงาต้องปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดความสอดคล้อง ตามที่ ศบค.กำหนดไว้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ยังได้มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ในขณะนี้ ซึ่งเห็นได้จากการที่ประชาชนเริ่มไม่สวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หรือการดึงลงมาไว้ใต้คาง หรือห้อยไว้ข้างหูก็ดี แสดงให้เห็นว่าประชาชนเริ่มการ์ดตกแล้ว ในขณะนี้เชื้อโควิด-19 ยังอยู่ในประเทศและอยู่รอบตัวเรา แต่การแพร่ระบาดยังไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา ก็เนื่องมาจากมาตรการการควบคุมต่างๆ ที่รัฐบาล ศบค.และทางจังหวัด ได้กำหนดให้ปฏิบัติตาม จึงทำให้มีการผ่อนคลายลงในหลายระดับเพื่อเปิดโอกาสให้กิจการ และประชาชนสามารถทำมาค้าขายและประกอบอาชีพได้
ส่วนการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยนั้น ไม่ได้มุ่งหวังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้แต่อย่างใด เจตนาคือ ต้องการให้ทุกคนรู้จักดูแลปกป้องตัวเองจากคนรอบข้าง และปกป้องคนรอบข้างจากตัวเราเอง เพราะเชื้อโรคไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา เราอาจจะรับเชื้อโรคโดยที่ไม่รู้ตัวและอาจแพร่เชื้อต่อให้คนใกล้ชิดหรืออื่นก็เป็นได้ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน รักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ จนกว่าจะพบวัคซีนรักษาแล้วเท่านั้นถึงจะวางใจ
นอกจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ยังได้กำชับไปยังทุกอำเภอให้เข้มงวดกับแรงงานต่างด้าวที่อาจลักลอบเข้ามาตามแนวเขตพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดข้างเคียง ซึ่งอาจจะนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาได้อีกเช่นกัน รวมถึงพื้นที่ใดที่มีแรงงานเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในพื้นที่นั้น จะต้องให้แรงงานเหล่านั้นดูแลสุขอนามัยตลอดจนบริเวณที่อยู่อาศัยให้สะอาด ไม่มีขยะหรือน้ำเสียไม่ให้เป็นที่สังคมรังเกียจได้ การมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการออกตรวจตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดตามที่ชุมชนและสถานประกอบการต่างๆ ทุกสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนได้ระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ ในภาวะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคในขณะนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี