หนุ่มไรเดอร์รับพลั้งปากด่า ทำคู่กรณีรถชนกันฉุน รุมสหบาทา
จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปจำนวน 2 คลิป ซึ่งเป็นภาพขณะที่ไรเดอร์ส่งอาหารฟู๊ดแพนด้าถูกกลุ่มคนร้าย 3-4 คนรุมทำร้าย พร้อมข้อความระบุว่า “ช่วยกันตามตัวหน่อยค่ะ เหตุเกิดที่หน้าครัวพัทลุงก่อนถึงแยกสามกอง น้องชายกำลังทำงานขับรถ foodpanda แล้วมีรถสามล้อพ่วงมาชนท้าย น้องชายเลยบอกลงมาเคลียร์เรื่องรถที่เสียหายแล้วอยู่ดีๆผู้ชายประมาณ 4 คนได้ลงมาทำร้ายน้องค่ะ ซึ่งน้องก็ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะน้องทำงานอยู่ค่ะ” หลังมีการโพสต์ก็มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมแชร์โพสต์ดังกล่าวเพื่อช่วยประณามพฤติกรรมความรุนแรงดังกล่าวและช่วยหาตัวผู้ก่อเหตุ
ล่าสุดในวันนี้(29 กรกฎาคม 2563) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายอภิรักษ์ ศรีษะ อายุ 19 ปี หนุ่มไรเดอร์ฟู้ดแพนด้าที่ถูกทำร้าย ขณะรอพบ ร.ต.ท.หญิง ปวีณา ชุมฤทธิ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าของคดี ที่ด้านหน้า สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม
นายอภิรักษ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 โดยขณะที่ตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) ไปส่งอาหารให้ลูกค้าตามออเดอร์ เมื่อขับรถมาถึงบริเวณสามแยกสามกอง ซึ่งเป็นช่วงที่การจราจรติดขัด รถคันหน้าได้เบรกรถกะทันหัน ตนเองจึงเบรกตาม ก่อนถูกรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างของคู่กรณี ชนท้ายจนกันชนท่อไอเสียหัก ตนเองรู้สึกหงุดหงิดจึงพลั้งปาก ได้ต่อว่าคู่กรณีไปว่า “ขับรถยังไงไม่ระวัง และ ขับรถโง่ๆ” ก่อนขับเข้าชิดซ้ายเพื่อเรียกคู่กรณีมาพูดคุยเรื่องค่าเสียหาย
ทันทีที่คู่กรณีขับมาใกล้ก็ด่าทอตนเองอย่างหนัก โดยคู่กรณี 3 ราย จากทั้งหมด 5 ราย ได้วิ่งเข้ามาทำร้าย ตนเองไม่คิดสู้เนื่องจากเกรงจะกระทบเรื่องงาน เพราะตนเองเป็นเสาหลักของบ้าน ต้องเลี้ยงดูครอบครัว จึงพยายามวิ่งเข้าไปหลบในร้านอาหาร ก่อนถูกดึงออกมาทำร้าย ก่อนจะมีผู้เข้ามาช่วยห้ามกลุ่มคู่กรณีจึงหยุด ก่อนที่ตนเองจะพยายามเดินเข้าไปบอกว่าทำแบบนี้ไม่ถูก และขอให้หยุดรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กลุ่มชายฉกรรจ์พยายามเข้ามาทำร้ายอีก ก่อนจะขับรถหนีไป ซึ่งระหว่างชุลมุนนั้นทำให้ขวดน้ำมันของร้านอาหารตกแตก ตนเองได้เหยียบเข้าได้รับบาดเจ็บที่หัวแม่เท้าด้านขวา นอกจากนี้ยังได้รับบาดเจ็บที่มือขวา และโหนกแก้มด้านซ้าย ก่อนเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้ไปตรวจร่างกายแล้ว
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ก็ได้ติดตามตัวคู่กรณีมาแล้วทั้ง 3 ราย ซึ่งเบื้องต้นจากที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ คู่กรณีทั้ง 3 ราย ยังไม่ยอมรับผิดชอบ และเรียกร้องขอต่อสู้คดี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นัดพบตนเพื่อให้การเพิ่มเติมอีกครั้งในวันนี้ โดยตนเองก็ยอมรับว่าใช้คำพูดไม่ดีออกไป เป็นสาเหตุทำให้ถูกทำร้าย แต่ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย
ด้านนายประจักษ์ ประเสริฐ อายุ 32 ปี สามีเจ้าของร้านอาหาร ครัวพัทลุง จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่ในร้านไม่เห็นว่าทั้งสองฝ่ายทะเลาะวิวาทกันบนถนน แต่มาเห็นตอนน้องไรเดอร์กำลังขับจยย.หนีคู่กรณี แต่คู่กรณีตามเข้ามารุมทำร้าย ซึ่งเห็นว่าตัวน้องไม่ได้สู้ แต่พยายามป้องกันตัวเองแต่ไม่ไหว เพราะ 3 ต่อ 1 ตนเองพยายามเข้ามาห้ามแต่แฟนสาวดึงไว้ จนทั้งสองฝ่ายแยกกันเอง ก่อนจะไปมีเรื่องต่ออีกฝั่งถนน ซึ่งตนเองไม่ได้ตามไป และพยายามสำรวจและจัดเก็บข้าวของที่หน้าร้านที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีน้ำมันขวดแบ่งขายให้รถจยย.แตกไปประมาณ 2 – 3 ขวด นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้พลาสติกล้ม แต่ไม่เสียหาย เพราะคู่กรณีเอาเก้าอี้ตีน้องไรเดอร์ ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่นั้นคงจะไม่แจ้ง เพราะไม่ได้เสียหายอะไรมากมาย ส่วนแฟนสาวซึ่งโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยก็คงไม่เอาความเช่นกัน แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหรือฝ่ายไรเดอร์จะให้เป็นพยานก็ยินดี เนื่องจากอยู่ในเหตุการณ์โดยตรง
ด้าน พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ กระทั่งติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาได้แล้ว 2 ราย ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ แล้วได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตราย” ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนอีก 1 ราย เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงต้องให้ผู้ปกครองพามาพบพนักงานสอบสวน ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี