ตร.รับศพพยานคดี‘บอส’ไปเชียงใหม่แล้ว ไล่สอบใหม่เคลียร์ทุกข้อกังขา
2 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า พ่อแม่ ลูกสาว พร้อมด้วยญาติ และชาวบ้าน ได้ร่วมกันจัดให้มีพิธีฌาปนกิจศพนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานปากเอกในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ตามประเพณีล้านนา หลังจากได้จัดให้มีบำเพ็ญกุศลมาตั้งแต่คืนวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ภายหลังนายจารุชาติเสียชีวิตเพราะรถจักรยานยนต์ชนกันที่ จ.เชียงใหม่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตร.เปิดสาเหตุพยานคดี‘บอส’เสียชีวิต แจงปมจนท.โทร.หาญาติ)
ทั้งนี้ พิธีมีการเคลื่อนศพจากบ้านในหมู่บ้านวังชมภู หมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย ไปยังฌาปนสถานห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร โดย พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ธาตรี กุลวัฒน์ ผกก.สภ.พาน พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปหารือ เพื่อขอรับศพไปทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียด (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน!!!‘บิ๊กตู่’สั่งจนท.อายัดศพ‘จารุชาติ’ พยานคดี‘บอส วรยุทธ’)
ภายหลังจากได้มีการหารือ ทางญาติได้ยินยอม เพราะทางเจ้าหน้าที่และญาติตกลงจะให้มีการประกอบพิธีโดยเคลื่อนศพไปยังฌาปนสถาน และประกอบพิธีถวายผ้าบังสุกุลแด่พระสงฆ์ตามขั้นตอนก่อน จากนั้นจึงค่อยขอนำศพไปทำการชันสูตรพลิกศพต่อไป
ในพิธีทาง พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ได้นำถวายและนำวางดอกไม้จันทน์ตามขั้นตอน ท่ามกลางผู้ไปร่วมงานประมาณ 200 คน และพบว่าในงานมีพวงหรีดที่มีผู้นำไปไว้อาลัยเพียง 2 พวง โดยมาจากเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียน และร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่เท่านั้น หลังประกอบพิธีแล้วเสร็จแล้วทางโรงพยาบาลพานได้เข้ารับศพ เพื่อนำส่งโรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ โดยทาง พล.ต.ต.พิเชษฐ์ และคณะนำไปส่งตามขั้นตอน
พล.ต.ต.พิเชษฐ กล่าวว่า เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจและพนักงานต้องมีความละเอียดรอบคอบ รวมทั้งทำให้หมดความน่าสงสัยในคดี โดยที่ผ่านมามีการดำเนินการร่วมกับทางแพทย์ไปแล้ว แต่เป็นคดีเกี่ยวกับอุบัติเหตุ แต่หลังจากนั้นมีข้อสงสัยว่าอาจเกิดสาเหตุอื่น จึงได้ขออนุญาต ผบช.ภ.5 มาขอรับศพไปชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง โดยได้หารือกับบิดาและมารดาของผู้ตาย ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องการไปเป็นพยานในคดีใดๆของบุตรมาตั้งแต่ต้น เพราะออกจากบ้านไปนับ 10 ปีโดยเพิ่งทราบว่าบุตรชายเสียชีวิตที่ จ.เชียงใหม่ หลังหารือด้วยเหตุและผลแล้ว ทราบว่าญาติอยากทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง จึงอนุญาตให้นำศพไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ให้ละเอียด ซึ่งผลการตรวจเป็นอย่างไรจะได้แจ้งผลต่อสาธารณชน ส่วนวันและเวลาแล้วเสร็จก็ขึ้นอยู่กับทางทีมแพทย์ต่อไป
ขณะเดียวกันจะไปตรวจสอบกรณีมีผู้เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของนายจารุชาติให้กับญาติเรียบร้อย โดยไม่มีผู้ใดทราบว่าใครเก็บนั้น ตนจะไปตรวจสอบให้อีกครั้ง รวมทั้งยืนยันว่าข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของผู้ตายนั้นทางโรงพยาบาลและหน่วยกู้ภัยได้เก็บเอาไว้ให้ครบถ้วนทุกอย่าง
พล.ต.ต.พิเชษฐ กล่าวอีกว่า กรณีนายสมชาย ตาวิโน คู่กรณีของนายจารุชาตินั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำมาแล้ว 2 ครั้ง พบคำให้การไม่ตรงกัน โดยวันแรกให้การว่าไปดื่มสุราที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่เมื่อสอบถามทางพนักงานเสิร์ฟในร้าน พบว่า เป็นการดื่มเบียร์มากกว่า กระนั้นก็พบว่าวันที่สอบปากคำยังเมาสุรา ซึ่งอาจทำให้ให้การไม่ตรงกันก็ได้ เบื้องต้นจึงตั้งข้อหาขับขี่โดยประมาทจนทำให้มีผู้เสียชีวิตส่วนข้อหาเมาสุราแล้วขับขี่กำลังรอผลจากทางแพทย์ซึ่งสามารถเรียกตัวมาทราบข้อกล่าวหาต่อไปได้
ส่วนกรณีมีภาพปรากฏว่านายสมชายพบกับนายจารุชาตินั้น ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะอาจไปพบกันที่ร้าน โดยนั่งคนละโต๊ะ แต่เมื่อร้านปิดก็ออกมาคุยกันได้ กระนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ตรวจสอบเพื่อให้สิ้นความสงสัยในคดีนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมานและนางตารวมทั้งญาติคนอื่นๆ ต่างยังคงยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องการไปเป็นพยานในคดีของนายจารุชาติ และกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่จะนำศพไปชันสูตรพลิกศพใหม่นั้น เดิมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะได้จัดเตรียมการทุกอย่างเอาไว้พร้อมหมดแล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ประสงค์จะนำไปก็คงต้องปล่อยไปตามสถานการณ์ กระนั้นหากว่าจะทำการเผาศพก็ขอให้แจ้งทางบ้านให้ได้รับทราบด้วย เพื่อจะได้เดินทางไป โดยจะให้เผาร่างของนายจารุชาติที่ จ.เชียงใหม่ โดยไม่ต้องนำกลับไปที่ จ.เชียงราย อีก เพราะถือว่าได้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ แล้วเสร็จไปหมดแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี