วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รายงานพิเศษ : แก้ปัญหาทรัพยากรน้ำยั่งยืน...มั่นคงด้วยพระราชดำริ

รายงานพิเศษ : แก้ปัญหาทรัพยากรน้ำยั่งยืน...มั่นคงด้วยพระราชดำริ

วันอังคาร ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :
  •  

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ในฐานะหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้น้อมนำพระราชกระแสของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน มาขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยจัดลำดับความสำคัญแผนงาน งบประมาณโครงการพระราชดำริที่มีความพร้อม ไม่ติดปัญหาอุปสรรคใดเป็นลำดับแรก

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชกระแสให้ สืบสาน รักษา และต่อยอดงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ให้แล้วเสร็จ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งสทนช.ได้นำพระราชกระแสดังกล่าว มาขับเคลื่อนและใช้วางแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งในปัจจุบันและอนาคต


ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า สทนช.ได้นำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาใช้แก้ปัญหาน้ำทั้งปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และคุณภาพน้ำ โดยเฉพาะการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ในปัจจุบันต้องยอมรับว่า ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศค่อนข้างสูง จะเห็นได้จากสภาพฝนเปลี่ยนไปจากค่าเฉลี่ยในอดีตมาก ฝนจะตกกระจุกตัวมากขึ้น ฤดูฝนมาช้าลง และทิ้งช่วงนาน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดน้ำท่วม รวมทั้งปัญหาขาดแคลนน้ำ ดังนั้นจึงทำให้พื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากเป็นพื้นที่เดียวกัน ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาความยากจน

ในขณะที่การขยายพื้นที่ชลประทานทำได้อย่างจำกัด ประเทศไทยมีพื้นที่ 321.2 ล้านไร่ รวม 70,129 หมู่บ้าน แบ่งเป็น พื้นที่ทำการเกษตร 158.2 ล้านไร่ โดยในจำนวนนี้ที่เป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทานถึง 128.05 ล้านไร่ หรือ ร้อยละ 80ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เพื่อปัญหาดังกล่าว สทนช. ได้บูรณาการกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานส่วนท้องถิ่น ด้วยการสนับสนุนทางเทคนิคจาก มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ได้นำแนวพระราชดำริเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาใช้แก้ปัญหา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่การพึ่งพาตนเองและเกิดการพัฒนาทรัพยากรน้ำที่ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำในพื้นที่ได้ตรงกับสาเหตุ เกิดความมั่นคงในทุกด้าน ทั้งด้านน้ำ ด้านผลผลิต ด้านรายได้ ด้านโครงสร้างทางสังคมของชุมชน และเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความเข้มแข็งและความมั่นคงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้อย่างยั่งยืน

การจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ มีองค์ประกอบหลัก 5 ส่วน ประกอบด้วย 1.แหล่งน้ำต้นทุน 2.แหล่งเก็บกักน้ำสำรอง 3.ระบบการเชื่อมโยงน้ำต้นทุนและแหล่งเก็บกักน้ำสำรอง 4.ระบบกระจายน้ำ และ 5.ความพร้อมของชุมชนผู้รับประโยชน์ ในการขับเคลื่อนการจัดการน้ำชุมชน ถ้าขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งจะไม่สามารถขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จได้จึงต้องอาศัยกลไกการมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชน และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมจากหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา มูลนิธิ หรือภาคเอกชน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

ที่ผ่านมาได้นำแนวพระราชดำริดังกล่าวมาใช้แก้ปัญหาไปแล้ว 1,659 หมู่บ้าน รวมทั้งขยายผลดำเนินงานพัฒนาชุมชนที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จ 60 ชุมชน ในพื้นที่ 19 ลุ่มน้ำ โดยได้สร้างเครือข่ายการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหาความยากจน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

“การจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ช่วยส่งผลให้ชุมชนสามารถบริหารความเสี่ยง บรรเทาปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นที่ของตน ช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการน้ำ เพิ่มความมั่นคงด้านน้ำ นำไปสู่การเพิ่มผลผลิตและเพิ่มรายได้ สร้างศักยภาพให้กับชุมชนในการปรับตัวและรับมือกับสถานการณ์น้ำที่ไม่แน่นอน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน” ดร.สมเกียรติ กล่าว

นอกจากนี้ สทนช. ยังได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานยึดโยงตามแนวทางพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 ในเรื่องการบูรณาการหน่วยงานแก้ปัญหาน้ำร่วมกัน ดังเช่นกรณีการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำริให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานด้วยกัน แทนที่จะเป็นเพียงหน่วยงานเดียวอย่างที่เคยเป็นมา อีกทั้งยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนงานโครงการพระราชดำริให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะสานงานต่อ ก่องานใหม่ จัดการน้ำตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10

ทั้งนี้ สทนช. ได้เสนอโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ซึ่งมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พิจารณาให้ความเห็นชอบหลากหลายโครงการ โดยล่าสุด กนช.ได้ติดตามและเร่งขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง ดังเช่น

โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลางความจุ 70.21 ล้านลูกบาศก์เมตรเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานในฤดูฝน 75,000 ไร่ และฤดูแล้ง 30,000 ไร่ วงเงิน 3,100 ล้านบาท โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ ความจุ 46.90 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อแล้วเสร็จ สามารถช่วยเหลือพื้นที่ชลประทานในฤดูฝน 40,000 ไร่ และฤดูแล้ง 8,000 ไร่ วงเงิน 3,100 ล้านบาท เป็นต้น

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตระหนักถึงความสำคัญของ “น้ำ” และการพัฒนาแหล่งน้ำที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร ตลอดจนมีพระราชปณิธานที่จะมุ่งสืบสาน รักษาและต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทำให้วันนี้ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศได้อำนวยประโยชน์ สร้างฐานะทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพสกนิกร และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนาอาชีพ ความเป็นอยู่ของราษฎร สร้างความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน สร้างรอยยิ้ม และความปีติสุขให้เกิดขึ้นกับพสกนิกรในพระองค์ตลอดไป.....

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'คลองหยาโมเดล\'สู่เกษตรครบวงจรต้นแบบ ยกระดับความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 'คลองหยาโมเดล'สู่เกษตรครบวงจรต้นแบบ ยกระดับความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
  • กรมประมง-เร่งเสริมศักยภาพ ‘การเพาะเลี้ยงม้าน้ำ’ สู่สัตว์น้ำเศรษฐกิจมูลค่าสูง กรมประมง-เร่งเสริมศักยภาพ ‘การเพาะเลี้ยงม้าน้ำ’ สู่สัตว์น้ำเศรษฐกิจมูลค่าสูง
  • \'เลขาธิการ ส.ป.ก.\'ร่วมพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปีพุทธศักราช 2568 'เลขาธิการ ส.ป.ก.'ร่วมพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปีพุทธศักราช 2568
  • \'นฤมล\'แจ้งข่าวดี GACC ลดระดับการสุ่มตรวจสาร BY2 ณ ด่านนำเข้า สำหรับล้งทุเรียนที่มีระบบการจัดการที่ดี 'นฤมล'แจ้งข่าวดี GACC ลดระดับการสุ่มตรวจสาร BY2 ณ ด่านนำเข้า สำหรับล้งทุเรียนที่มีระบบการจัดการที่ดี
  • กรมชลฯ เดินหน้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ กรมชลฯ เดินหน้ากำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
  • อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน  ร่วมงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปีพุทธศักราช 2568 อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ร่วมงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปีพุทธศักราช 2568
  •  

Breaking News

คาดปมหึงหวง! หนุ่มยิงเมีย-ลูก 5 ขวบดับก่อนจบชีวิตตัวเอง

ใหญ่คับพื้นที่!! สจ.กร่างสั่งลูกน้อง 7 คนรุมตื้บ ตร.หน่วยเลือกตั้ง หลังถูกเตือนถ่ายภาพในคูหา

มีแค่ 2 เส้นทาง! 'อดีตบิ๊ก ศรภ.'วิเคราะห์'ฮั้วสว.' สีน้ำเงิน...กับการพลิกล็อค

(คลิป) 'เจ๊ปอง'เผยพิกัด'เมียน้อย'อยู่เกาะฮ่องกง ให้'เมียหลวง'สิงคโปร์ภรรยานายทุน'กาสิโน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved