รอผลศึกษารื้อคดี‘บอส’
‘บิ๊กตู่’ยังคาใจ
วิชาลั่นไม่เคยพูดคดีสิ้นสุด
จับตาอัยการแถลงทุกปม
‘ศรีสุวรรณ’ลุยร้องปปช.
เอาผิด‘ตำรวจ-อัยการ’
2กมธ.ผนึกกำลังสะสาง
“บิ๊กตู่” ยันให้ คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ คดีบอส ขับรถชน ตร.ตาย ก่อนพิจารณาใช้อำนาจสั่งรื้อคดีได้หรือไม่ เผยคาใจเหมือนสังคมที่ยังสงสัย ด้าน “วิชา” ชี้ไม่เคยพูดคดีสิ้นสุดแล้ว ส่วนศรีสุวรรณ ร้อง ป.ป.ช.เอาผิดอัยการ-ตร.ทุจริตต่อหน้าที่ “ชวน” เผยยึดความถูกต้อง ขณะที่ 2 กมธ.สภาฯ ผนึกกำลังสางคดี
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญานายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ขับรถยนต์ชนตำรวจเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2555 โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานฯ ว่า ไม่มีอะไร ตนคงไม่ก้าวล่วง เพราะอยู่ในอำนาจฝ่ายบริหาร คณะกรรมการนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเสนออะไรมาแล้วอยู่ในกรอบที่ตนทำได้ก็จะทำ ซึ่งต้องดูต่อว่าทำไมจึงมีฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายปฏิรูปกฎหมายเข้ามาด้วย ต้องดูว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร มีขั้นตอนทำให้เกิดปัญหาขึ้นหรือไม่
บิ๊กตู่ย้ำทำตามขั้นตอนรื้อคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักวิชาการเสนอให้นายกฯ ใช้อำนาจสั่งรื้อคดีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่ากำลังให้มีการศึกษาเรื่องนี้อยู่ กรรมการฯ พิจารณาอยู่ว่าตนจะรื้อคดีได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทำให้เกิดข้อเท็จจริง และดูว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ อำนาจมันคนละอำนาจกัน
เมื่อถามว่า การที่นายกฯ สั่งอายัดศพนายจารุชาติ มาดทอง หนึ่งในพยานสำคัญคดีนี้ แสดงว่าได้เห็นการตายมีความผิดปกติใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ตนฟังจากสื่อ และสังคมที่ยังให้ความสงสัย ตนจึงต้องทำให้เกิดความชัดเจนเท่านั้นเอง และในฐานะที่มีอำนาจควบคุมตำรวจ ก็สั่งไปว่าทำได้หรือไม่ ต้องไปคุยกับญาติเขาว่าตกลงหรือไม่ เลื่อนวันเผาไปวันหน้าได้หรือไม่ เพื่อจะผ่าศพพิสูจน์ ดูว่ามีหลักฐานอะไรหรือไม่ ถ้าไม่มีก็จบตรงนั้น คือต้องลดปัญหาต่างๆ ที่พูดกันให้ได้ด้วยข้อเท็จจริง
รอพิจารณาเสนอเป็นคดีพิเศษ
ต่อข้อถามว่า คดีนี้เข้าสู่การพิจารณาเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงมีการพิจารณา ทางกรรมการฯ ต้องว่ามา เมื่อถามว่า จากกรณีที่มีข่าว นายกฯ ติดตามมาตลอดและเห็นว่ามีข้อพิรุธใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าติดตามข่าวนี้มาตลอด แต่ไม่ได้ตัดสินใจ และยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม
บิ๊กป้อมเบรกสื่ออย่ารีบคิดไปไกล
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ตั้งคณะกรรมการฯ ว่า อยากให้กระบวนการยุติธรรมกลับมาเป็นไปตามที่ประชาชนอยากเห็น และต้องดูว่าอัยการกับตำรวจจะทำอย่างไร ให้คลี่คลาย เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ส่วนจะถึงขั้นรื้อคดีมาพิจารณาใหม่หรือไม่ ยังตอบไม่ได้ “ไม่ได้หรอกไปรื้อ คุณถามแบบนี้ ต้องไปดูก่อนว่ามันเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งถามไปไกลเกิน”
วิษณุโยนถามอ.ปริญญาขอรื้อคดี
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายปริญญา เทวานฤมิตกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอให้นายกฯ ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั่งทบทวนคดีนี้ ว่าตนไม่ทราบ ขอให้ไปถามนายปริญญา เอง เมื่อถามว่านายกฯ สามารถสั่งรื้อคดีได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ คงต้องขอรอความเห็นจากคณะกรรมการฯ ที่รัฐบาลตั้งขึ้น ซึ่งจะแนะนำมาเอง
เมื่อถามย้ำว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าว มีอำนาจในการสั่งรื้อคดีใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องให้กรรมการฯ เขาแนะมา ซึ่งในคำสั่งก็บอกอยู่แล้วว่าแนะในเชิงปัจจุบัน ว่าจะต้องทำอะไรหรือไม่ และในเชิงปฏิรูปที่จะต้องแก้กฎหมาย ระเบียบ วิธีปฏิบัติ พฤติกรรม ส่วนจะพิจารณาเสร็จสิ้นภายกำหนดเวลา 30 วัน หรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่จะมีการรายงานต่อนายกฯ ทุกๆ 10 วันอยู่แล้ว
วิชาลั่นไม่เคยพูดคดีบอสสิ้นสุด
ขณะที่ นายวิชา มหาคุณ ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกรรมการชุดดังกล่าวเป็นนัดแรกว่า มีหลายฝ่ายเสนอให้มีการรื้อคดีนายวรยุทธ ให้โดยคณะกรรมการชุดนี้เป็นผู้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคดีสิ้นสุดแล้ว อัยการสั่งไม่ฟ้อง สามารถรื้อคดีได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้พูดเลยว่าคดีสิ้นสุดแล้ว ยังไม่ได้มีการพูดอย่างนั้น ส่วนกรณีที่นายกฯ มีอำนาจในการรื้อคดีหรือไม่นั้น นายกฯ สั่งไม่ได้อยู่แล้ว จะไปสั่งอัยการได้อย่างไร แต่นายกฯ สามารถมีข้อเสนอได้ เมื่อถามว่าการพิจารณาของคณะกรรมการฯ จะได้ผลในกรอบ 30 วัน ที่กำหนดหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ยังพูดอะไรไม่ได้ ขอให้ที่ประชุมได้หารือกันให้เรียบร้อยก่อน
อัยการนัดแถลงคดีบอส4ส.ค.นี้
วันเดียวกัน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงานตรวจสอบการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมคณะทำงานฯ เป็นวันที่5 ว่าคณะทำงานกำลังประชุมสรุปภาพรวมทั้งหมด และจะนำเรียนอัยการสูงสุด ก่อนจะแถลงในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น.โดยจะมีการสรุปเอกสารให้สมบูรณ์ก่อนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ยังตอบไม่ได้ ต้องรอฟังพร้อมกัน
ศรีสุวรรณร้องให้เอาผิดอัยการ-ตร.
อีกด้านหนึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนและสอบสวน กรณีอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ในทุกข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องขออนุมัติศาลเพิกถอนหมายจับในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แม้ฝ่ายอัยการ จะพยายามชี้แจงว่าเป็นไปตามเกณฑ์ปกติของการพิจารณาสั่งคดีอาญา แต่คำชี้แจงดังกล่าวเป็นการปัดภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายอัยการไปให้ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบในการทำสำนวนคดี ทั้งๆ ที่ตามอำนาจหน้าที่ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของอัยการ 2547 อัยการมีอำนาจในการตรวจสอบสำนวนคดี และหากพบข้อพิรุธใดๆ ในสำนวนคดีก็มีอำนาจที่จะย้อนสำนวนให้ฝ่ายตำรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นข้อขัดแย้งและข้อสงสัยของสังคม ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของอัยการผู้สั่งคดีอย่างชัดแจ้งและฝ่ายตำรวจเจ้าของสำนวนด้วย
ขอปปช.สอบกระทำทุจริตต่อหน้าที่
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า สมาคมฯ ขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนและวินิจฉัยว่าการที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีในลักษณะมีพิรุธ และอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ เป็นการทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ประกอบ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 มาตรา 78(9) และ พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ 2553 มาตรา 19 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 21 หรือไม่
หมอพรทิพย์ชี้ด่วนสรุปพยานตาย
ที่ รัฐสภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุของนายจารุชาติ มาดทอง พยานในคดีของนายวรยุทธ ว่า กรณีนี้ไม่แน่ใจว่ามีการชันสูตรศพนายจารุชาติ หรือไม่ อย่างไรก็ดี จากที่ตนได้ติดตามคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง มองว่าเป็นการด่วนสรุปโดยอ้างอิงหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ถือเป็นการสรุปที่เร็วเกินไป และถึงเวลานี้การตรวจของแพทย์นิติเวชเป็นไปได้ยาก เนื่องจากศพเริ่มเน่าเปื่อย คดีนี้ต้องทำให้ครบทุกขั้นตอนเพื่อตอบโจทย์ข้อสงสัยทุกอย่าง และตนยังเชื่อมั่นการชันสูตรศพของแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2กมธ.ผนึกกำลังร่วมสางคดีบอส
บ่ายวันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมพิจารณากรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ โดยเชิญประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) 3 คณะ ที่พิจารณาในเรื่องเดียวกัน ประกอบด้วย นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมการการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และนายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ
นายชวน กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว โดยคณะกมธ.กิจการตำรวจ ได้แจ้งว่า ได้ศึกษามาระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ติดใจ การที่ตนไม่อยากให้ทำงานซ้ำซ้อนกันเพราะไม่ต้องการรบกวนข้าราชการ หรือบุคคลภายนอกที่ต้องเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.เพราะหาก กมธ.ทั้ง 3 คณะ เชิญทั้งตำรวจ อัยการ หรือองค์กรต่างๆ ก็ต้องมา 3 ครั้ง เป็นภาระและความเดือดร้อน ตามระเบียบแล้ว ต้องการให้ กมธ.ที่มีความซ้ำซ้อนได้ทำงานร่วมกัน โดยมี กมธ.ชุดใดชุดหนึ่งเป็นเจ้าภาพเรื่องนั้นๆ
ชวนชี้หลักความถูกต้องสำคัญที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีของนายวรยุทธ ควรเดินไปในทิศทางใดเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม นายชวน กล่าวว่า องค์กรทั้งหลายที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบ รู้ว่าต้องเอาอะไรไว้ในบ้านเมือง เพราะบ้านเมืองอยู่ได้ด้วยหลักความถูกต้อง ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายรู้ว่าอะไรคืออะไร เพียงแต่ต้องให้องค์กรทั้งหลายได้ทำงาน อย่าเพิ่งไปวิจารณ์อะไรมาก การทำให้บ้านเมืองอยู่ได้ด้วยความถูกต้องชอบธรรมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด องค์กรที่รู้ว่าทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็จะมีอันเป็นไปในระยะยาว
ต่อข้อถามว่า ทั้งตำรวจและอัยการถูกลดความเชื่อมั่น ในฐานะนักกฎหมายจะทำอย่างไรเพื่อกู้ความเชื่อมั่น นายชวน กล่าวว่า เราต้องถือองค์กร อย่าไปถือตัวบุคคล เพราะทุกองค์กรย่อมมีทั้งคนที่พร้อมและไม่พร้อม มีคนที่มีปัญหาและไม่มีปัญหา พูดง่ายๆ มีทั้งคนดีและไม่ดี จึงอย่าไปเหมาว่าเมื่อเกิดอะไรขึ้น องค์กรนั้นจะเลวร้ายไปทั้งหมด แม้แต่ฝ่ายการเมือง ตนก็เคยพูดเวลามีคนตำหนินักการเมือง ก็มีทั้งดีและไม่ดี
ยันรายงานกมธ.กฎหมายเปิดเผยได้
เมื่อถามถึงกรณี น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม.ขอบันทึกการประชุมของ กมธ.กฏหมาย สมัยที่สนช.พิจารณาคดีนายวรยุทธ เพื่อเปิดเผยต่อสังคม นายชวน กล่าวว่า ข้อมูลอะไรที่สามารถนำมาเปิดเผยได้ก็จะเปิดเผย แต่ตนยังไม่เห็นเรื่องที่ขอมา ยังไม่เห็นรายละเอียด ทราบว่าอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ยืนยันว่ารายงานของ กมธ.กฎหมาย เปิดเผยได้ เว้นแต่การประชุมลับ และมีมติไม่ให้เปิดเผย
“จิรายุ”รอแชร์ข้อมูลของทั้ง3กมธ.
ขณะที่ นายจิรายุ เปิดเผยว่า ขณะนี้มี กมธ.3 คณะที่พิจารณาอยู่ และรอให้ กมธ.กิจการตำรวจ พิจารณาว่าจะเสนอเรื่องใดเข้ามา ส่วนการประชุมวันที่ 5 สิงหาคมนี้ จะเป็นการแชร์ข้อมูลกันระหว่าง กมธ.กิจการศาลฯ ซึ่งทำข้อมูล และ กมธ.การกฎหมายฯ จะเป็นคนออกจดหมายเชิญผู้ชี้แจงเป็นหลักเพื่อจะได้พิจารณาในเรื่องเดียวกัน หากพิจารณาวันที่ 5 สิงหาคม แล้วไม่จบ ก็จะขยับต่อไปอีกสัปดาห์ เนื่องจากรูปคดีและการพิจารณาต่างๆ ค่อนข้างมีความหลากหลาย รวมถึงมีสถานการณ์เกิดขึ้นใหม่รายวัน
นายจิรายุ เปิดเผยอีกว่า กมธ.กิจการศาลฯ จะรับหน้าที่เชิญอดีตอัยการสูงสุด อดีตผู้พิพากษา หรือแม้แต่อดีตองค์กรอิสระต่างๆ ที่จะมาให้ความเห็น เนื่องจากไปดูฎีกาคดีลักษณะเดียวกัน ก็มีคำตัดสินที่หลากหลาย เช่น อาจจะตัดสินว่าผิดแต่ให้โทษรอลงอาญา เนื่องจากบรรเทาทุกข์ให้ผู้เสียหายแล้ว เป็นต้น ก็จะนำมาเทียบเคียงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา
สิระเผยมีหนังสือเชิญตั้งแต่29ก.ค.
ด้านนายสิระ เจนจาคะ ประธาน กมธ.การกฎหมายฯ กล่าวว่า ได้มีการออกหนังสือเชิญ กมธ.การกฎหมายฯ ในสมัย สนช.ทั้งหมด ตำรวจที่เกี่ยวข้อง อัยการที่ลงนามในคำสั่งไม่ฟ้อง และตำรวจที่ลงนามไม่เห็นแย้ง พนักงานสอบสวนทั้งหมด ไปตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะการประชุมครั้งที่แล้วมีปัญหายังไม่ทราบข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด ส่วนพยานที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ตัดออกไป เหลือเพียง พล.อ.ท.จักรกฤษ ถนอมกุลบุตร ซึ่งได้ทำหนังสือเชิญมาด้วย
“กรรมาธิการสมัย สนช.มีการตอบรับมาพอสมควร โดยจะขอดูเรื่องมติ รายงานการประชุม และมติที่ออกมาของกรรมาธิการว่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ มีผลกับการสั่งไม่ฟ้องคดีหรือไม่ ซึ่งจะได้รับรายงานบันทึกการประชุมของคณะกรรมาธิการของ สนช.ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ โดยขอจากประธานสภาผู้แทนราษฏร” นายสิระ กล่าว
ปัดตอบปธ.กมธ.สนช.มาชี้แจง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการของ สนช.จะมาชี้แจงด้วยหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่ก็อยากให้มาทุกคน เพื่อความโปร่งใส จะได้ตอบให้ประชาชนได้หายสงสัย นำไปสู่การแก้ไขช่องโหว่และให้ประชาชนเสมอภาคในกระบวนการยุติธรรม จะได้ไม่มีคำว่าคุกมีไว้ขังแค่คนจน ยืนยันว่า กมธ.การกฎหมายฯ จะใช้ความรู้ ความสามารถอย่างเต็มที่ในฐานะคนกลาง ถ่ายทอดการประชุม สามารถฝากคำถามได้ ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกับ กมธ.2 คณะ ขอให้เชื่อมั่น กมธ.ชุดต่างๆ และคณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น
“มีนักวิชาการบอกว่าถ้าคดีเป็นอย่างนี้ก็ต้องกลับไปเผาตำราทั้งหมด ดังนั้นในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ก็จะรู้ว่าตำราผิด หรือคนผิด ถ้าตำราผิดก็ต้องเผาตำรา แต่ถ้าคนผิดก็ต้องเผาคน และดำเนินคดีไป เดี๋ยวจะได้รู้ว่าต้องเผาอะไร” นายสิระ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี