ตั้งทีมงาน4ชุดสางคดี‘บอส’
‘วิชา’เดินหน้าลุย
ตรวจสอบตำรวจ-อัยการ
ดึงปปง.เช็คเส้นทางการเงิน
ขีดเส้น30วันต้องเสร็จสิ้น
เปิดรับข้อมูลจากประชาชน
เรียกดูทุกสำนวนย้อนหลัง
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คดี“บอส-วรยุทธ” ประชุมนัดแรก “วิชา” ตั้ง 4 คณะทำงานสางคดี สั่ง เรียกทุกสำนวนตั้งแต่ สน.ทองหล่อ-อัยการ–กมธ.กฎหมายยุค สนช. โยน ปลัด ยธ.
ตัดสินใจเรียก “บอส” ให้ถ้อยคำหรือไม่ เปิดช่องทางรับข้อมูลจากประชาชน หลังมีอัยการ-ตำรวจ อัดอั้นเยอะ “บิ๊กตู่” เผยคาใจเหมือนสังคมที่ยังสงสัย ด้าน “ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช.เอาผิดอัยการ-ตำรวจ ทุจริตต่อหน้าที่
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กรณี นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทนักธุรกิจชื่อดัง ขับรถยนต์ชนตำรวจเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อปี 2555 โดยมีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานฯ ว่า ไม่มีอะไร ตนคงไม่ก้าวล่วง เพราะอยู่ในอำนาจฝ่ายบริหาร คณะกรรมการนี้จะตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าเสนออะไรมาแล้วอยู่ในกรอบที่ตนทำได้ก็จะทำ ซึ่งต้องดูต่อว่าทำไมจึงมีฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายปฏิรูปกฎหมายเข้ามาด้วย ต้องดูว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร มีขั้นตอนทำให้เกิดปัญหาขึ้นหรือไม่
บิ๊กตู่ย้ำทำตามขั้นตอนรื้อคดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักวิชาการเสนอให้นายกฯ ใช้อำนาจสั่งรื้อคดีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่ากำลังให้มีการศึกษาเรื่องนี้อยู่ กรรมการฯ พิจารณาอยู่ว่าตนจะรื้อคดีได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนทำให้เกิดข้อเท็จจริง และดูว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ อำนาจมันคนละอำนาจกัน
เมื่อถามว่า การที่นายกฯ สั่งอายัดศพนายจารุชาติ มาดทอง หนึ่งในพยานสำคัญคดีนี้ แสดงว่าได้เห็นการตายมีความผิดปกติใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ตนฟังจากสื่อ และสังคมที่ยังให้ความสงสัย ตนจึงต้องทำให้เกิดความชัดเจนเท่านั้นเอง และในฐานะที่มีอำนาจควบคุมตำรวจ ก็สั่งไปว่าทำได้หรือไม่ ต้องไปคุยกับญาติเขาว่าตกลงหรือไม่ เลื่อนวันเผาไปวันหน้าได้หรือไม่ เพื่อจะผ่าศพพิสูจน์ ดูว่ามีหลักฐานอะไรหรือไม่ ถ้าไม่มีก็จบตรงนั้น คือต้องลดปัญหาต่างๆ ที่พูดกันให้ได้ด้วยข้อเท็จจริง
รอพิจารณาเสนอเป็นคดีพิเศษ
ต่อข้อถามว่า คดีนี้เข้าสู่การพิจารณาเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงมีการพิจารณา ทางกรรมการฯ ต้องว่ามา เมื่อถามว่า จากกรณีที่มีข่าว นายกฯ ติดตามมาตลอดและเห็นว่ามีข้อพิรุธใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าติดตามข่าวนี้มาตลอด แต่ไม่ได้ตัดสินใจ และยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะมันเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม
อัยการนัดแถลงคดีบอส4ส.ค.นี้
วันเดียวกัน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะทำงานตรวจสอบการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมคณะทำงานฯ เป็นวันที่5 ว่าคณะทำงานกำลังประชุมสรุปภาพรวมทั้งหมด และจะนำเรียนอัยการสูงสุด ก่อนจะแถลงในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น.โดยจะมีการสรุปเอกสารให้สมบูรณ์ก่อนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น ยังตอบไม่ได้ ต้องรอฟังพร้อมกัน
ตร.จ่อเรียกพล.ต.ท.เพิ่มพูนเข้าชี้แจง
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร.รับมอบหมายแทน พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานดำเนินการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำสำนวนคดีของนายวรยุทธ ประชุมติดตามในประเด็นการหาคำยืนยันจากแพทย์ เกี่ยวกับสารแปลกปลอม 2 ใน 4 ชนิด ที่พบในเลือดของนายวรยุทธ ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากสารเสพติดประเภทโคเคน โดยที่ประชุมได้เรียกตัวแทนจากสำนักงานกฎหมายและคดี มาซักถามขั้นตอน ก่อนเสนอ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ความเห็น และเตรียมเรียก พล.ต.ท.เพิ่มพูน เข้ามาชี้แจงเร็วๆ นี้
พล.ต.ท.จารุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ได้ให้คณะทำงานแบ่งเป็น 2 ชุด ตรวจสอบเรื่องผลเลือดพบสารแปลกปลอม โดยชุดแรกไปที่แพทยสภา ส่วนชุดที่ 2 ไปกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อสอบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเด็นยาปฏิชีวนะ หลังจากสมาคมทันตแพทย์ ยืนยันว่าสารแปลกปลอมที่พบในเลือดไม่ได้เกิดจากการทานยาปฏิชีวนะ เพื่อนำผลมาพิจารณาทำความเห็น ก่อนเสนอ ผบ.ตร.พิจารณา
ศรีสุวรรณร้องให้เอาผิดอัยการ-ตร.
อีกด้านหนึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนและสอบสวน กรณีอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ในทุกข้อกล่าวหา รวมทั้งในส่วนของตำรวจ โดยนายศรีสุวรณ กล่าวว่า มีประเด็นข้อขัดแย้งและข้อสงสัยของสังคมมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของอัยการรวมทั้งตำรวจ จึงขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนและวินิจฉัยว่าในฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ประกอบ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 มาตรา 78(9) และ พ.ร.บ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ 2553 มาตรา 19 วรรคสอง ประกอบ มาตรา 21 หรือไม่
หมอพรทิพย์ชี้ด่วนสรุปพยานตาย
ที่ รัฐสภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุของนายจารุชาติ มาดทอง พยานในคดีของนายวรยุทธ ว่า กรณีนี้ไม่แน่ใจว่ามีการชันสูตรศพนายจารุชาติ หรือไม่ อย่างไรก็ดี จากที่ตนได้ติดตามคดีนี้มาอย่างต่อเนื่อง มองว่าเป็นการด่วนสรุปโดยอ้างอิงหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ถือเป็นการสรุปที่เร็วเกินไป และถึงเวลานี้การตรวจของแพทย์นิติเวชเป็นไปได้ยาก เนื่องจากศพเริ่มเน่าเปื่อย คดีนี้ต้องทำให้ครบทุกขั้นตอนเพื่อตอบโจทย์ข้อสงสัยทุกอย่าง และตนยังเชื่อมั่นการชันสูตรศพของแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
3กมธ.ผนึกกำลังร่วมสางคดีบอส
บ่ายวันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมพิจารณากรณีอัยการสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ โดยเชิญประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) 3 คณะ ที่พิจารณาในเรื่องเดียวกัน ประกอบด้วย นายสิระ เจนจาคะ ประธาน กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธาน กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และนายนิโรธ สุนทรเลขา ประธาน กมธ.กิจการตำรวจ
นายชวน กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว โดยคณะ กมธ.กิจการตำรวจ แจ้งว่าได้ศึกษามาระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ติดใจ การที่ตนไม่อยากให้ทำงานซ้ำซ้อนกันเพราะไม่ต้องการรบกวนข้าราชการ หรือบุคคลภายนอกที่ต้องเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.เพราะหาก กมธ.ทั้ง 3 คณะ เชิญทั้งตำรวจ อัยการ หรือองค์กรต่างๆ ก็ต้องมา 3 ครั้ง เป็นภาระและความเดือดร้อน ตามระเบียบแล้ว ต้องการให้ กมธ.ที่มีความซ้ำซ้อนได้ทำงานร่วมกัน โดยมี กมธ.ชุดใดชุดหนึ่งเป็นเจ้าภาพเรื่องนั้นๆ
ยันรายงานกมธ.กฎหมายเปิดเผยได้
เมื่อถามถึงกรณี น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม.ขอบันทึกการประชุมของ กมธ.กฏหมาย สมัยที่สนช.พิจารณาคดีนายวรยุทธ เพื่อเปิดเผยต่อสังคม นายชวน กล่าวว่า ข้อมูลอะไรที่สามารถนำมาเปิดเผยได้ก็จะเปิดเผย แต่ตนยังไม่เห็นเรื่องที่ขอมา ยังไม่เห็นรายละเอียด ทราบว่าอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ยืนยันว่ารายงานของ กมธ.กฎหมาย เปิดเผยได้ เว้นแต่การประชุมลับ และมีมติไม่ให้เปิดเผย
วิชาลั่นไม่เคยพูดคดีบอสสิ้นสุด
ขณะที่ นายวิชา มหาคุณ ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน กล่าวว่า มีหลายฝ่ายเสนอให้มีการรื้อคดีนายวรยุทธ ให้โดยคณะกรรมการชุดนี้เป็นผู้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากคดีสิ้นสุดแล้ว อัยการสั่งไม่ฟ้อง สามารถรื้อคดีได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้พูดเลยว่าคดีสิ้นสุดแล้ว ยังไม่ได้มีการพูดอย่างนั้น ส่วนกรณีที่นายกฯ มีอำนาจในการรื้อคดีหรือไม่นั้น นายกฯ สั่งไม่ได้อยู่แล้ว จะไปสั่งอัยการได้อย่างไร แต่นายกฯ สามารถมีข้อเสนอได้ เมื่อถามว่าการพิจารณาของคณะกรรมการฯ จะได้ผลในกรอบ 30 วัน ที่กำหนดหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ยังพูดอะไรไม่ได้ ขอให้ที่ประชุมได้หารือกันให้เรียบร้อยก่อน
ตั้ง4คณะทำงานร่วมสะสางคดี
ต่อมาเวลา 18.00 น.นายวิชา กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมทำให้มีความชัดเจนมากขึ้น ได้ข้อสังเกตที่นำไปสู่การตรวจสอบประเด็นรายละเอียด จึงตั้งคณะทำงานขึ้น 4 ชุด ได้แก่ 1.คณะทำงานตรวจสอบอัยการ มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เพราะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย 2.คณะทำงานการตรวจสอบตำรวจ มีนายเข็มชัย ชุติวงศ์ เป็นประธาน เพราะเป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรม
3.คณะทำงานตรวจสอบบุคคลทั่วไป มีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน โดยคณะทำงานชุดนี้จะต้องตรวจสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรรมาธิการ ทนายความ ซึ่งเป็นคนที่ไม่ใช่ตำรวจและอัยการ ขณะที่ผู้แทนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะร่วมอยู่ในคณะนี้ โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน นอกจากนี้จะขอผลการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยจะขอมาดูให้หมด และ 4.คณะทำงานตรวจสอบด้านกฎหมาย มีนายปกรณ์ นิลประพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธาน
เปิดให้ปชช.มีส่วนร่วม-รับข้อมูล
นายวิชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีคณะทำงานที่มีหน้าที่รวบรวมสรรพเอกสาร ทั้งตัวเอกสารหรือสิ่งที่ได้จากโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอคลิป หรือข้อคิดเห็นจากประชาชนต่างๆ ซึ่งจะเปิดช่องทางให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ถือเป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยจะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญทางไอที และจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาในการทำงาน รวมไปถึงทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนรับรู้ ดังนั้น ถ้าใครต้องการส่งเอกสาร หลักฐาน หรือจะให้ข้อมูลใดๆ สามารถติดต่อมาได้ที่ตน หรือช่องทางที่เรากำลังจะเปิด เพื่อรับข้อมูล หรือว่าคนที่มีความคับข้องใจ ซึ่งมีทั้งอัยการและตำรวจที่อยากจะให้ข้อมูลจำนวนมาก เราอยากได้ทุกความเห็น สามารถส่งเข้ามาได้
อย่างไรก็ดี คณะทำงานแต่ละชุดจะทำงานคู่ขนานกันไปกับคณะกรรมการชุดใหญ่ จะประชุมกันสัปดาห์ละ 2 ครั้งในช่วงแรกนี้ เนื่องจากมีความเร่งรัดอย่างมาก เพื่อให้เสร็จสิ้นได้ใน 30 วัน โดยคณะกรรมการฯ จะประชุมครั้งต่อไปในเวลา 10.00 น.วันที่ 5 สิงหาคมนี้ ที่สำนักงาน ก.พ.เดิม
เรียกดูทุกสำนวนตั้งแต่ระดับสน.
นายวิชา กล่าวอีกว่า ทางกรรมการฯ จะขอสำนวนหลักฐานต่างๆ จากอัยการ โดยเฉพาะผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบพิจารณาคดีนายวรยุทธ ที่จะได้ข้อสรุปในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ โดยจะเชิญฝ่ายเลขานุการของคณะทำงานตรวจสอบของอัยการ มาให้ข้อมูลด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะคณะกรรมการชุดนี้จะได้ทุ่นเวลา แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยึดตามนั้นไปตลอด เพราะถ้ามีข้อเพิ่มเติมอะไรจะพิจารณากันอีกที รวมไปถึงสำนวนของตำรวจ ที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งทำมาตั้งแต่ต้น และสำนวนของอัยการที่ทำส่งไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ด้วย เพราะทุกสำนวนจะต้องส่งมาให้เราทั้งหมด
“รวมถึงประเด็นการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานในคดีของนายวรยุทธ ไม่ว่ามีข้อสงสัยอะไรต้องเอามาดูให้หมด แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานผลการชันสูตรศพของนายจารุชาติ ออกมา ต้องรอรายงานจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และกองบังคับการปราบปราม” นายวิชา กล่าว
โยนปลัดยธ.เรียกบอสให้ถ้อยคำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเชิญนายตัวนายวรยุทธ เข้ามาให้ข้อมูลด้วยหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดที่มีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ไปแล้ว คณะทำงานชุดนี้จะเป็นผู้พิจารณาอีกที ว่าจะเชิญบุคคลใดบ้าง ดังนั้นก็จะต้องดูว่าควรเชิญนายวรยุทธ หรือไม่
เมื่อถามว่า หากอัยการสั่งไม่ฟ้องแล้ว จะมีช่องทางทำให้เป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องศึกษาก่อน ซึ่งในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ คณะกรรมการฯ จะคุยกันในเรื่องข้อกฎหมายอย่างละเอียด เพราะเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้รับมอบหมายจากตนไปแล้ว
ลั่นหากเสนอแล้วต้องเป็นไปได้
ต่อข้อถามว่านายกฯ มีอำนาจที่จะสั่งให้ตำรวจไปทบทวนความเห็นที่ไม่คัดค้านกรณีอัยการไม่สั่งฟ้องได้หรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ต้องดูว่าหากเสนอแล้วต้องเป็นไปได้ คือถ้าเสนอแล้วยังกั๊กอยู่ ติดอยู่ ก็ไม่เอา ย้ำว่าเสนอแล้วต้องเป็นไปได้ สิ่งที่เราเสนอต้องเป็นความแน่นอน ต้องปรึกษากันอีกที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี