4 สิงหาคม 2563 ภายในสถานีเรือสมุย อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ร.ท.โทสำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมด้วยนายทหารเรือ นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังหน่วยซีล หรือชุดประดาน้ำของทัพเรือเดินทางด้วยเรือตรวจการณ์ หรือ เรือ ต.112 เดินทางไปยังจุดที่เรือเฟอร์รี่จมพร้อมด้วยรถบรรทุก 18 ล้อจำนวน 3 คัน ที่บรรทุกขยะที่ถูกอัดเป็นก้อนทั้งหมดประมาณ 90 ตัน อยู่ในระวางบรรทุกของเรือเฟอร์รี่ ราชา 4 โดยทัพเรือภาคที่ 2 ได้ส่งเรือราวี 785 ซึ่งเป็นส่งกำลังบำรุงขนาดเล็ก จากฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ เข้าร่วมสนับสนุนภารกิจค้นหาในครั้งนี้
โดยเรือ ต.112 ได้นำพล.ร.ท.สำเริง จัทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปจอดทอดสมอใกล้จุดที่กำหนดตำแหน่งเรือเฟอร์รี่ ราชา 4 จม จากนั้นหน่วยซีลได้นำอุปกรณ์ดำน้ำลงเรือยางมุงหน้าไปยังจุดที่ได้วางตำแหน่งไว้ จากนั้นหน่วยซีลได้ลงดำยังจุดที่เรือล่ม สำหรับสภาพอากาศช่วงที่ทำการค้นหาสภาพอากาศเปิดคลื่นลมเริ่มสงบ ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยดี การค้นหาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเรือประมงที่มีเครื่องโซน่าค้นหาวัตถุใต้ทะเล ทำให้การพบเรือในตำแหน่งที่แน่นอนมากขึ้น หน่วยซีลจึงได้ดำน้ำลงตรวจสอบสภาพเรือเฟอร์รี่ที่จมอยู่ใต้ทะเล
นอกจากนี้นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้กองกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน อำเภอเกาะสมุย ร่วมกับผู้ประกอบการเจ็ตสกีลงพื้นที่ค้นหาบริเวณรอบเกาะแตน และเกาะข้างเคียง เพื่อค้นหาผู้สูยหายอีกจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย1. นายทิวากรณ วัชรฤทธิ์ (กะลาสี
) 2. นางนภัรดา จันหาญ (พนักงานขายของ) และ3. นายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ (คนขับรถ 10 ล้อ) จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเกาะแตนเจ้าหน้าที่ชุดค้นหาของอำเภอเกาะสมุยยังไม่พบผู้ที่สูญหายทั้งสามราย ซึ่งจะออกค้นหาใหม่ในวันพรุ่งนี้
ภายหลังออกตรวจสอบจุดที่เรือเฟอร์รี่ ราชา 4 จม พล.ร.ท.สำเริง จัทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ทางชุดประดาน้ำจากเกาะเต่า และจากของกองทัพเรือจะออกปฏิบัติการร่วมกันในการค้นหาผู้สูญหาย และตรวจสอบสภาพเรือ พร้อมขอสนับสนุนบอลลูนจากผู้ประกอบการเข้าช่วยดึงเรือที่อยู่ในสภาพหงายท้องให้ตั้งขึ้น และจากการตรวจพบตำแหน่งเรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากเรือประมงในการใช้โซน่าหาตำแหน่งเรือเฟอร์รี่จมอยู่ใต้ทะเลประมาณยี่สิบเมตร
ส่วนทัศนวิสัยใต้ทะเลกระแสน้ำยังคงแรงอยู่ โดยในวันพรุ่งนี้จะออกปฏิบัติการอีกครั้งประมาณ 07.00น. ซึ่งจะเป็นช่วงที่กระแสน้ำใต้ทะเลจะนิ่ง ส่วนขยะที่อยู่บนรถบรรทุกที่จมพร้อมเรือเฟอร์รี่นั้นพบว่ารถบรรทุกทั้งสองคันขยะยังอยู่ที่กระบะบรรทุกทั้งสองคัน ส่วนอีกคันที่อยู่ห่างจากจุดเรือจมมีขยะบางส่วนได้หลุดลอยไปกับกระแสน้ำทะเล ซึ่งไม่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมใต้ทะเล หากประชาชนหรือชาวประมงพื้นบ้านพบและเก็บขยะได้่ให้นำมาแลกเป็นเงินได้ สำหรับดำลงไปสำรวจในครั้งนี้ของชุดประดาน้ำจากหน่วยซีลยังไม่ได้เข้าสำรวจผู้สูญหายที่อาจติดในซากเรือได้ เนื่องสภาพใต้ทะเลยังไม่อำนวย ซึ่งการสำรวจค้นหานั้นจะให้ผู้ประกอบการเป็นผู้ดำเนินการต่อไป ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี