อย่ากลัวทหารสหรัฐ
บิ๊กแดงยันคุมเข้มตามมาตรการศบค.
ฝึกระบบปิดในค่ายกองทัพ
ตรวจโควิดรอบแรกเป็นลบ
เชื่อคนไทยมีวินัยใส่แมสเอาอยู่
จนท.ทูตไทยในซาอุฯติดเชื้อ
ศบค.แถลงพบติดเชื้อเพิ่ม 7 รายกลับจากยูเออี-สหรัฐ-อียิปต์ โล่งเปลาะแรกผลตรวจเชื้อทหารสหรัฐเป็นลบ “บิ๊กแดง” ยันไม่ต้องกลัวซ้ำรอยระยอง คุมเข้มตามมาตรฐานสาธารณสุข กักตัว 14 วัน ตรวจสวอป 3 ครั้ง ย้ำจำเป็นต้องฝึกต่อเนื่อง เหตุเลือกโรงแรมกลางเมือง เพราะพื้นที่ทหารไม่มีมีสิ่งอำนวยความสะดวก และสหรัฐออกค่าใช้จ่ายเอง ช่วงฝึกเป็นแบบระบบปิดในค่ายทหาร มั่นใจถ้าทุกคนมีวินัยใส่แมสป้องกันระบาดได้ ขณะที่ทั่วโลกโควิดลามไม่หยุด ป่วยพุ่ง 18.7 ล้าน ตายกว่า 7 แสน
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 7 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,328 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย พบในสถานที่เฝ้าระวังของรัฐ 391 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 2 ราย รวมรักษาหายแล้ว 3,144 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 126 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 58 ราย
ตามเคยป่วยใหม่7รายมาจากตปท.
สำหรับผู้ป่วยใหม่ รายที่ 1 เป็นหญิงไทยมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานนวด เดินทางมาถึงไทยวันที่ 29 กรกฎาคม เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ จ.ชลบุรี ก่อนหน้านี้พบผู้ป่วยยืนยันในเที่ยวบินเดียวกัน 2 ราย โดยผู้ป่วยรายนี้ตรวจหาเชื้อวันที่ 2 สิงหาคม ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในจ.ชลบุรี ส่วนรายที่ 2-6 มาจากอียิปต์ เป็นนักศึกษาหญิงไทยอายุ 21 ปี และนักศึกษาชายไทยอายุ 22,23,26 และ 30 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 30 กรกฎาคม ก่อนหน้านี้ พบผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย ทั้งหมดเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ จ.ชลบุรี โดยตรวจหาเชื้อวันที่ 3 สิงหาคม ผลพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ และเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลในจ.ชลบุรี ส่วนรายที่ 7 เป็นหญิงสัญชาติอเมริกัน อายุ 26 ปี อาชีพครู มาจากสหรัฐฯถึงไทยวันที่ 31 กรกฎาคม เข้าพักใน Alternative State Qurantine กรุงเทพฯ ตรวจหาเชื้อวันที่ 3 สิงหาคมผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
โล่งยกแรก71ทหารมะกันปลอดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวถามถึงผลตรวจโควิด-19 ของทหารสหรัฐฯที่มาประเทศไทย พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สำหรับทหารสหรัฐกลุ่มแรก 71 ราย ผลตรวจไม่พบการติดเชื้อ ส่วนกลุ่มที่สองที่เดินทางเข้ามาได้ตรวจแล้วเช่นกัน แต่ยังรอผลการตรวจอยู่ ส่วนการเปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนตามปกตินั้น ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมา ต้องรอผลประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 7 สิงหาคม 63
‘หมอยง’เตือนแพร่รอบ2คุมยาก
ด้านศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุถึงการระบาดระลอก 2 ของไวรัสโควิด 19 ว่า ในประเทศที่ควบคุมการระบาดได้ดี ก็ไม่พ้นระบาดรอบ 2 หรือ 3 แม้จะเป็นประเทศที่มีความพร้อม เช่นในญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย เวียดนาม การระบาดรอบ 2 แต่ละประเทศ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ยากควบคุมให้กลับมาเหมือนเดิม ในเวียดนาม เป็นตัวอย่างที่ดี กว่าจะรู้ว่ามีผู้ป่วย ผู้ป่วยที่พบเป็นผู้มีอาการมากได้เข้าโรงพยาบาล แสดงว่ามีผู้ติดเชื้อและไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อยอีกจำนวนมาก ผู้เข้าในโรงพยาบาลยังไปแพร่เชื้อในโรงพยาบาลอีก ยังเหลือไทยกับนิวซีแลนด์ ที่ยังดูแลไม่ให้เกิดระบาดใหม่
ย้ำคัดกรองเข้มงวดระวังด่านธรรมชาติ
“การพบผู้ป่วยในไทยเกือบทุกวัน ในสถานที่ควบคุมผู้กลับจากต่างประเทศ ประมาณว่า ผู้กลับจากต่างประเทศ 200 คน จะตรวจพบเชื้อ 1 คน หรือ 0.5% (การตรวจพบ 384 คนในจำนวนผู้เข้ากัดกัน 67,106 คน) นับว่าเป็นจำนวนไม่น้อย แสดงว่าโรคนี้ในต่างประเทศระบาดมากจริงๆ ขนาดคัดกรองก่อนเดินทางแล้วมาตรการกักกัน ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ จึงมีความสำคัญมาก ในการป้องกันการระบาด นอกจากนี้ ไทยมีพรมแดนธรรมชาติทั้งทางบกทางทะเลอีกยาวไกล การควบคุมผู้ลักลอบเข้าประเทศ ต้องเข้มงวดจริงๆ ไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเข้ามาได้”ศ.นพ.ยงกล่าว
ขรก.สถานทูตไทยในซาอุฯติดโควิด
วันเดียวกัน เพจสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบียโพสต์ข้อความชี้แจงว่า ขณะนี้มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ บางคน ติดเชื้อโควิด - 19 อยู่ระหว่างรักษาพยาบาล เพื่อความปลอดภัย สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ผู้ที่ประสงค์ขอรับบริการด้านกงสุลหรือขอความช่วยเหลือในเรื่องใดๆ จากสถานเอกอัครราชทูตฯ กรุณาสอบถามหรือติดต่อนัดหมายทางโทรศัพท์ก่อน ที่เบอร์ 011 488 1174 และ hotline 055 462 2005 หรือ 055 798 2002 พร้อมกันนี้ ขอเตือนคนไทยในซาอุดิอาระเบียดูแลสุขภาพ รวมถึงสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในที่สาธารณะ
บิ๊กแดงย้ำอย่ากลัวคุมเข้มทหารมะกัน
ขณะที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหลายฝ่ายเป็นห่วงการเดินทางเข้าประเทศไทยของทหารสหรัฐเพื่อร่วมฝึกกับกำลังพลของกองทัพบกว่า ทหารสหรัฐที่มาปฎิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัดทุกอย่าง ไม่เคยปฏิเสธ รวมถึงการเข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือก หรือ Alternative State Quarantine (ASQ) และการสวอป 3 ครั้งตามที่ พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ผอ.ศบค.ทบ.) ชี้แจงกับสื่อไปแล้ว
ทหารต้องฝึก-มีวินัยใส่แมสป้องกัน
“การฝึกอะไรที่ไม่จำเป็น เราก็ลดและเลื่อนออกไปก่อน ส่วนการฝึกใดที่จำเป็น ก็ลดระดับและขนาดการฝึกลงมา เพราะทหารยังต้องดำรงการฝึก เพราะเราไม่สามารถปิดประเทศได้ แต่การระวังป้องกันที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าคนไทยได้รับตัวอย่าง และประเทศไทยเป็นประเทศตัวอย่างที่สามารถป้องกันเพราะเรามีวินัยและสวมหน้ากากอนามัยกันทุกคน ทำให้ชาติอื่นมองเห็นและมีความเชื่อมั่น เป็นสิ่งที่เห็นได้ว่ารัฐบาลควบคุมได้ แม้การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะยืดออกไป แต่มีการผ่อนคลายมาตรการเป็นระยะ จึงเชื่อว่าไม่ว่าจะคณะทูต คณะทางการค้า รัฐบาลก็คงพิจารณา โดยนายกรัฐมนตรีคิดแบบนี้ตลอดว่า ยังไงประเทศไทยก็ต้องเดินหน้าต่อไป สัปดาห์หน้าจะประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่ระยอง ถือเป็นการเริ่มต้นประชุมนิวนอร์มอล รวมถึงกิจกรรมอื่นที่จะตามมาด้วย ทหารก็ถือเป็นองค์กรหนึ่ง การจัดประชุมก็เหมือนการฝึก” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวย้ำว่า โควิด-19 ที่เป็นกันทั่วโลก ป้องกันได้ อยู่ที่วินัย การระวังป้องกันและเป็นโรคที่รักษาหายได้รวมทั้งมีวิธีป้องกัน
แจงการฝึกระบบปิดในค่ายทหาร
ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุใช้สถานที่กักกันเป็นโรงแรมใจกลางกรุงแทนสถานที่ของทหาร ผบ.ทบ.ชี้แจงว่า ต้องผ่านขั้นตอนคัดกรองโรคก่อน ซึ่งการไปคัดกรองโรคในค่ายทหาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ ไม่ได้จัดแบ่งห้องไว้ จะให้ไปอยู่ในค่ายทหารได้อย่างไร แต่การปิดโรงแรมและทางสหรัฐออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เพื่อดำรงความต่อเนื่องในการฝึก แม้เดิมคนจะมา 300 คน แต่ก็ปรับลดขนาดลงมา เพื่อเอาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งทุกประเทศที่มาฝึกก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนี้ทุกคน และมีการสวอป 3 ครั้งๆแรกผลออกมาแล้วเรียบร้อยทุกคน ผลตรวจออกมาเป็นลบ ไม่มีใครติดโควิด-19 เหลือการตรวจสวอปครั้งที่2 และครั้งที่ 3 ก่อนฝึกต่อไป โดยจะเป็นการฝึกแบบระบบปิดในค่ายทหาร
ทั่วโลกวิกฤติไร้วี่แววหยุดระบาด
อีกด้านหนึ่งสำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ยังน่าเป็นห่วง ยังไม่มีที่ท่าจะยุติ ในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเวลา 17.30 น.ตามเวลาในประเทศไทยทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้ว 18,728,654 ราย เสียชีวิต 704,836 ราย รักษาหายรวม 11,941,353 ราย มีการระบาดใน 213 ประเทศ ซึ่งไทยอยู่ในอันดับที่ 112
สำหรับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดยังเป็นสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ 4,918,770 ราย เสียชีวิต 160,323 ราย ตามมาด้วยบราซิล มีผู้ติดเชื้อ 2,808,076 ราย เสียชีวิต 96,096 ราย อินเดีย มีผู้ติดเชื้อ 1,910,681 ราย เสียชีวิต 39,856 ราย รัสเซียมาเป็นอันดับที่ 4 มีผู้ติดเชื้อ 866,627 ราย เสียชีวิต 14,490 ราย และอันดับที่ 5 เป็นแอฟริกาใต้ มีผู้ติดเชื้อ 521,318 ราย และเสียชีวิต 8,884 ราย
ครม.บราซิล1ใน3ติดโควิด
อย่างที่บราซิล สถานการณ์ระบาดน่าวิตก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ติดเชื้อเพิ่ม คิดเป็น 1 ใน 3 ของคณะรัฐมนตรี ถึงขณะนี้มีรัฐมนตรีติดเชื้อแล้ว 8 คน อาทิ รัฐมนตรีพลังงาน และรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ภริยาประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำบราซิล ก็ติดเชื้อเช่นกัน ส่วนผู้นำบราซิลประกาศว่าติดเชื้อเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม และผลตรวจหาเชื้อซ้ำเป็นลบเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม การระบาดของโควิด-19 นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ส่งผลให้ชาวบราซิลตกงานแล้วร่วม 10 ล้านคน
แอฟริกาป่วย2.4หมื่นตาย181
ขณะที่แอฟริกาใต้ ประเทศการระบาดรุนแรงที่สุดในทวีปแอฟริกา มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 521,318 คน เกินครึ่งหนึ่งของยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดในทวีป โดยนายซเวลี มคีเซ รมว.สาธารณสุขแอฟริกาใต้เผยว่า แอฟริกาใต้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขป่วยติดเชื้อโควิด-19 รวมแล้ว 24,104 คน และเสียชีวิต 181 คน ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยติดเชื้อในแอฟริกาใต้ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสาเหตุที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแอฟริกาใต้ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้น น่าจะมาจากการที่ทางการผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดที่ใช้มาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ที่พบการระบาดครั้งแรก ขณะนี้ แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก.
ญี่ปุ่นขอปชช.งดจัดเทศกาลโอบง
นพ.โตชิโอะ นาคางาวะ ประธานสมาคมแพทย์ญี่ปุ่นแถลงว่า ขอให้ประชาชนงดเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศช่วงเทศกาลโอบงกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเทศกาลไหว้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ และขอให้ทางการท้องถิ่นตัดสินใจเองอย่างอิสระ โดยพิจารณาตามสถานการณ์ว่าจะจำกัดเดินทางหรือทำธุรกิจหรือไม่
และยังเรียกร้องให้ขยายการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ทั่วถึงมากขึ้น
ออสซี่ทำสถิติ-งัดจำกัดเดินทาง
รัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลียรายงานว่า มีผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 สูงทำสถิติ และเตรียมปิดกิจการส่วนใหญ่ เพื่อควบคุมการระบาดระลอกสอง ที่กำลังขยายไปทั่วประเทศ โดยวันนี้รัฐวิกตอเรียรายงานผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 725 คน และมีผู้เสียชีวิต 15 คน แม้จะใช้มาตรการปิดเมืองกับนครเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐมา 4 สัปดาห์แล้วก็ตาม ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐควีนส์แลนด์ออกมาตรการใหม่เพื่อจำกัดการระบาด โดยห้ามผู้ที่เดินทางไปจากรัฐ นิวเซาท์เวลส์และกรุงแคนเบอร์ราเข้ารัฐควีนส์แลนด์ ส่วนรัฐบาลท้องถิ่นรัฐนิวเซาท์เวลส์ประกาศให้ผู้ที่กลับจากรัฐวิกตอเรียไปยังรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยผ่านสนามบินซิดนีย์ต้องกักตัวเองในโรงแรม 14 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี