ผบช.น. ลั่นหากพิสูจน์พบสถานที่เกิดเหตุยิงดับ 4 ศพ เป็นบ่อนจริง จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เชื่อมีคนแอบถอดกล้องวงจรปิดก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง ขณะที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เตรียมเรียกประชุมตรวจสอบตำรวจละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พร้อมเชิญ”ชูวิทย์-สันธนะ”ให้ข้อมูลบ่อนพนัน ด้านชุดสืบสวนรู้ตัวมือปืนที่ร่วมก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ
จากเหตุการณ์ยิงกันเสียชีวิต 4 ศพ ภายในบ่อน “เฮียตี้”ในซอยพระราม 3 ซอย 66 เมื่อคืนวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ได้สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการปล่อยปละละเลยให้มีการเปิดบ่อนการพนันหรือไม่ พร้อมสั่งย้ายข้าราราชการตำรวจ 5 นาย ตั้งแต่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และ 5 เสือโรงพัก สน.ทุ่งมหาเมฆ ไปประจำที่ ศปก.บช.น.
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า อยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึกเพื่อติดตามหาพยานหลักฐานทั้งในที่เกิดเหตุและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งหากตรวจพบหลักฐานที่มีน้ำหนักให้เชื่อว่า สถานที่เกิดเหตุเป็นบ่อนพนันจริง ก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ ส่วนที่มีข้อสงสัยเรื่องกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าในคืนวันเกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงไม่พบกล้องวงจรปิดในสถานที่ดังกล่าว ส่วนตัวเชื่อว่า ต้องมีคนถอดออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง ซึ่งในการสืบสวนสอบสวนจะต้องเรียกเจ้าของอาคารมาให้ปากคำ และสืบหาบุคคลในภาพถ่าย ที่กำลังเคลื่อนย้ายสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในอาคาร รวมถึงการตามหากลุ่มผู้เล่นพนัน เพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ลงมือยิงที่แท้จริงนั้น ยังอยู่ระหว่างสืบสวนยืนยันตัวบุคคล
พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบ การปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจจากกรณีดังกล่าว บอกว่า จะตรวจสอบว่า ตำรวจในพื้นที่ปล่อยปะละเลย ไม่สนใจ ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามความผิดเกี่ยวกับบ่อนการพนันหรือไม่ ซึ่งจะกลับไปพิจารณาว่ามีคำสั่งตั้งใครเป็นคณะกรรมการตรวจสอบบ้าง หากพบมีหนังสือคำสั่งที่ชัดเจนจะเริ่มเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องประชุมทันที โดยในการประชุมจะมีการนำข้อเท็จจริงที่ปรากฎมาพิจารณา, เรื่องที่มีชายฉกรรจ์พยายามเคลื่อนย้ายพยานหลักฐานในคดี รวมถึงการพิจารณาเรียก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส. และ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ที่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนเกี่ยวบ่อนการพนัน มาให้การกับคณะทำงาน รวมถึงนำภาพต่างๆ ที่มีการนำไปเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ มาประกอบการด้วย
ทั้งนี้ การทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าว ยังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาเป็นพิเศษ ก็ต้องขึ้นอยู่กับคำสั่งของ บช.น. ว่าจะมีการกำหนดเวลาไว้ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะแยกออกจากการสอบสวนคดีอาญาที่จะรวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ที่ปรากฎในที่เกิดเหตุด้วย
มีรายงานว่า จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อผู้เช่าอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาสอบสวน เช่นเดียวกันกับผู้ร่วมก่อเหตุยิงซึ่งได้หลบหนีไป ก็ทราบเบาะแสะแล้วว่าเป็นกลุ่มใด อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาล
วันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ ญาติของ นายถาวร สีสด อายุ 51 ปี ผู้ก่อเหตุยิงปืนใส่ พ.ต.ต.วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ หรือ สารวัตรแม็กซ์ น.ส.พีรญา นุ่มละมูล และ นางเมา สะเลเปา เสียชีวิต ได้เข้าติดต่อขอรับศพ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ส่วนญาติของสารวัตรแม็กซ์ ได้นำร่างกลับไปประกอบพิธีที่วัดโพธินายก อ.เมืองนครนายก ขณะที่ร่างของ น.ส.พีรญา จะนำไปประกอบพิธีที่ วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต กรุงเทพฯ ยังคงเหลือเพียงร่างของ นางเมา ที่อยู่ระหว่างการติดต่อเข้ารับศพจากญาติชาวกัมพูชา ภายหลังเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาดำเนินการด้านเอกสารที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อขอรับศพกลับไปยังประเทศบ้านเกิดต่อไป
ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุยิงกันที่บ่อนย่านพระราม 3 ว่า เรื่องนี้ทาง กมธ.ก็ต้องทำ ตำรวจได้รับแจ้งตอน 22.00 น. และเข้าไปที่เกิดเหตุ แล้วมีการทำลายหลักฐานหรือไม่ มีการเคลื่อนย้ายศพหรือไม่ รวมถึงการเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ หรือไม่ ตรงนี้เราจึงต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เรื่องบ่อนการพนันต้องให้ผู้รับผิดชอบ
“ได้ข่าวว่า ในสภาฯ ก็มีการเปิดเล่นการพนัน ผมก็จะตรวจสอบว่า เล่นกันจริงหรือไม่ ดังนั้นเราจึงต้องเริ่มต้นจากรัฐสภา จะไม่ปล่อยให้มีการเล่นการพนันในรัฐสภา ถ้ารัฐสภายังปล่อยให้มีการเล่นการพนัน ก็ไม่ต้องไปทำแล้วประเทศนี้ ซึ่งเรื่องนี้เมื่อผมได้ข่าวมา ก็ได้บอกกับผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว เดี๋ยวผมจะไปจู่โจม และเตือนท่านผู้มีอำนาจที่ผมได้แจ้งไปแล้วว่า อย่าให้ผมไปจู่โจม ถ้าผมไม่ทำเท่ากับผมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” นายสิระ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี