วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
GDPเกษตรครึ่งปีแรกหดตัว5.1%  สศก.แนะพลิกวิกฤติโควิดพัฒนาอาชีพยั่งยืน

GDPเกษตรครึ่งปีแรกหดตัว5.1% สศก.แนะพลิกวิกฤติโควิดพัฒนาอาชีพยั่งยืน

วันศุกร์ ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : GDP GDPเกษตร โควิด19
  •  

 

นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ที่เกิดขึ้น กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก ทั้งระบบห่วงโซ่การผลิตทั่วโลก ที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทั่วโลกเกิดความกังวลเรื่องขาดแคลนอาหารเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยฝืดเคือง แรงงานภาคอุตสาหกรรมและบริการในประเทศถูกเลิกจ้างและปรับเปลี่ยนหันมาประกอบอาชีพทางการเกษตร เพื่อเป็นทางรอด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าว หากมองกลับกันถือเป็นโอกาสพัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่ท้าทาย เพราะเป็นโอกาสของอาชีพเกษตรกรไทย เนื่องจากรูปแบบดำเนินชีวิตของประชาชนนั้นเปลี่ยนแปลงไป คำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยเพิ่มขึ้น จึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรพัฒนาให้อาหารของไทยปลอดภัย เน้นจุดขายเรื่องอัตลักษณ์ด้านอาหารผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นและวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ (Fusion Food) ขยายช่องทางตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ (E-Commerce) พัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตร และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้มากขึ้น อีกทั้ง วิกฤตการณ์ครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสใหม่ทำเกษตรพันธสัญญากับกลุ่มธุรกิจยาและเวชภัณฑ์โดยส่งเสริมการผลิตและแปรรูปพืชสมุนไพรเพื่อพัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานความพร้อมของเกษตรกรรองรับต่อความต้องการของตลาดโลกในอนาคตได้อีกด้วย


โอกาสในการพัฒนาภาคเกษตรจากสถานการณ์วิกฤตต่างๆ เป็นสิ่งท้าทายและโอกาสสำคัญ แต่ต้องมองปัจจัยรอบด้าน หากพิจารณาภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ครึ่งแรกของปี2563 (มกราคม-มิถุนายน 2563) พบว่า หดตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 เป็นผลมาจากสาขาพืช สาขาประมง และสาขาบริการทางการเกษตร หดตัวร้อยละ 7.0 6.4 และ 3.0 ตามลำดับ จากสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง รวมทั้งปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่ และปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติมีปริมาณน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำไม่พอเพาะปลูก ประกอบกับบางพื้นที่ประสบปัญหาระบาดของแมลงศัตรูพืช เป็นผลให้สาขาบริการทางการเกษตรหดตัวลงเช่นกัน

นอกจากนี้ สภาพอากาศที่แปรปรวน ยังส่งผลให้การทำประมงทะเลลดลง และสถานการณ์ภัยแล้งที่ทำให้ปริมาณเลี้ยงกุ้งทะเลเพาะเลี้ยงและสัตว์น้ำจืดลดลงด้วย ประกอบกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ส่งผลต่อกิจกรรมการเกษตรและเศรษฐกิจที่หยุดชะงักไปทั่วโลกด้วยเช่นกัน ขณะที่สาขาปศุสัตว์ และสาขาป่าไม้ ขยายตัวร้อยละ 5.5 และ 1.0 ตามลำดับ โดยขยายตัวจากการเพิ่มการผลิตตามความต้องการของตลาด และไทยป้องกันโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรของทั้งปี 2563 สศก. คาดว่าจะมีทิศทางดีขึ้น แต่ยังหดตัวเล็กน้อยอยู่ในช่วงร้อยละ(-2.3) - (-1.3) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยสาขาพืช และสาขาบริการทางการเกษตร หดตัวลงตามการผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญหลายชนิดมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและฝนทิ้งช่วง ที่ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบภัยแล้ง บางพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการผลิตทางการเกษตร อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2563 ยังอยู่ช่วงเพาะปลูกข้าวนาปี คาดว่าปริมาณน้ำฝนจะมีมากขึ้น อาจทำให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับสภาพอากาศกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพาะปลูกสินค้าเกษตร อีกทั้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ติดตามสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง น้ำท่วม และภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆใกล้ชิด เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรได้ทันท่วงที สำหรับสาขาประมงที่ปรับตัวลดลง ทั้งประมงทะเล เพาะเลี้ยงกุ้งและประมงน้ำจืด เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวน ปริมาณน้ำมีไม่พอเลี้ยง ในขณะที่สาขาปศุสัตว์ และสาขาป่าไม้ ยังมีโอกาสขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยสาขาปศุสัตว์ขยายการผลิตตามความต้องการของตลาด

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนการดำเนินนโยบายด้านการเกษตรต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการวางแผนใช้น้ำ วางแผนผลิตอย่างเหมาะสม การส่งเสริมการรวมกลุ่ม การทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการผลิตและยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร การบริหารจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมถึงส่งเสริมการบริโภคและการใช้สินค้าเกษตรในประเทศ รวมทั้งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการคาดการณ์แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2563 ที่ยังต้องติดตามต่อเนื่อง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อัตราแลกเปลี่ยน ความแปรปรวนของสภาพอากาศ และราคาน้ำมันดิบแต่เชื่อมั่นว่า นโยบายมาตรการต่างๆ ที่กระทรวงเกษตรฯ ขับเคลื่อน และด้วยความร่วมมือ บูรณการจากทุกฝ่ายจะร่วมแก้ไขวิกฤตโควิด-19ในครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ ภาคเกษตรและเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแน่นอน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’

ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา

เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved