เปิดเรียนเต็มร้อยเริม13สค.
ศบค.ไฟเขียว
ตั้งกฎนร.ทำบันทึกติดตามตัว
กองทัพ-สธ.โต้ข่าวลือ
11ทหารสหรัฐติดโควิด
ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 15 ราย มาจากตปท. ปลื้มยูเอ็น ชูไทยต้นแบบรับมือโควิด-19 ด้วยความสามัคคี รับผิดชอบ ประชาชนร่วมมือสธ.แจงผลตรวจเชื้อคนร่วมงานคอนเสิร์ต “เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น”2,582 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่รายเดียว เช่นเดียวกับทหารสหรัฐที่มาฝักร่วมกองทัพไทย ผลตรวจเป็นลบเช่นกัน ขณะที่คณะกรรมการเฉพาะกิจฯถกผ่อนปรนเปิดเรียนปกติ 100% แต่กำชับนักเรียนทำบันทึกติดตามตัวว่าเดินทางไปที่ไหนหลังเลิกเรียนบ้าง คาดเริ่มได้พร้อมกันทั่วประเทศ 13 พค. ชี้ไม่ห้ามจัดคอนเสิร์ต แต่ต้องเคร่งครัดมาตรการสาธารณสุข
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยประจำวัน รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มเติม
ติดเชื้อเพิ่ม15ราย’อียิปต์-ซาอุ-ญี่ปุ่น
นพ.ทวีศิลป์ระบุว่า ไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 15 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,345 ราย หายป่วยสะสม 3,148 ราย ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 139 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่มาจากอียิปต์ 4 ราย เป็นชายไทยอายุ 22,23,26 และ 28 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 24 กรกฎาคม เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 5 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ผลตรวจพบเชื้อวันที่ 5 สิงหาคม ทั้งหมดไม่มีอาการ
อีก10 รายมาจากซาอุดิอาระเบีย เป็นนักศึกษาชายไทย 9 ราย อายุระหว่าง 24-28 ปี และเป็นชายไทยพนักงานโรงงาน 1 ราย อายุ 43 ปี ทั้งหมดเดินทางถึงไทยวันที่ 25 กรกฎาคม เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ผลตรวจพบเชื้อวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ 11 ของการเข้ากักตัว ทั้งหมดไม่มีอาการ และมาจากญี่ปุ่น 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 31 กรกฏาคม เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.สมุทรปราการ ผลตรวจพบเชื้อวันที่ 5 สิงหาคม เป็นวันที่ 5 ของการเข้ากักตัว ผู้ป่วยไม่มีอาการ
WHOชื่นชมไทยสามัคคีคุมโควิดอยู่
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 19,256,652 ราย รักษาหายแล้ว 12,357,308 ราย เสียชีวิต 711,680 ราย ส่วนข่าวที่น่าสนใจในต่างประเทศ นางคีตา สภารวัล ผู้แทนองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย เขียนบทความลงเว็บไซต์ขององค์การสหประชาติ (ยูเอ็น) แสดงความชื่นชมความสำเร็จของประเทศไทยในการจัดการวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ยกย่องให้ไทยและนิวซีแลนด์เป็นความสำเร็จที่ประเทศอื่นควรศึกษา โดยระบุว่าความสำเร็จนี้มาจาก 3 ปัจจัย 1.ดำเนินมาตรการของรัฐบาล 2.ความรับผิดชอบต่อสังคมของจิตอาสา และ3.ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนช่วยป้องกันโรค จึงขอยกความสำเร็จนี้เป็นความดีความชอบของประชาชนทุกคน ศึกนี้ยังอีกยาวนานต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชนต่อไป
ชี้รร.ที่ร่วมASQสะท้อนคุณภาพสูง
ผู้สื่อข่าวถามว่าประชาชนอยากทราบโรงแรมใดบ้างที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวแบบทางเลือก (ASQ) รวมทั้งอยากให้แต่ละโรงแรมติดป้าย เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจก่อนเข้าไปใช้บริการได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เราเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ www.sscovid.com ขอกรมสนับสนุนบริการสุขภาพมีโรงแรมใดบ้างที่ร่วมเป็นเอเอสคิว ไม่ปิดบัง ยืนยันว่าในโรงแรมจะมีมาตรการต่างๆแยกของใช้ ตรวจหาเชื้อโควิดถึง 2 ครั้งมีระบบป้องกันความปลอดภัยผ่านมาตรการควบคุมโรค ถ้ากักตัวไม่ครบ 14 วันห้ามออกนอกโรงแรมคนที่มาโดยส่วนใหญ่เป็นคนปกติ ไม่มีเชื้อความเสี่ยงน้อยมาก เราตรวจ 2-3 ครั้งตรวจอย่างเร็วถ้าติดเชื้อจะนำตัวออกไปเลย ส่วนการติดป้ายหน้าโรงแรมแจ้งเป็นเอเอสคิวนั้น เป็นสิทธิ์ของโรงแรม
“ ถ้าติดป้ายแล้วแสดงถึงความมีคุณภาพระดับสูง มีประสิทธิภาพการทำงาน เป็นการเชิญคนมา เพราะแสดงถึงมาตรฐานที่ดี การจะได้เข้าร่วมต้องผ่านการตรวจสอบจากฝ่ายความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุขอย่างละเอียด การติดป้ายเป็นเรื่องดี แต่ติดแล้วทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจของคนมาใช้บริการ ถ้าประชาชนกังวลมากเกินไป ไม่หยุดโควิดและเศรษฐกิจไปด้วย เราต้องการหยุดโควิดเศรษฐกิจไม่หยุด ตามนโยบายของผอ.ศบค. ต้องการให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ลดอารมณ์คนไทยให้ดาวน์ลงในเรื่องเหล่านี้”นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ไฟเขียวนักธุรกิจจีนเข้าซื้อลำไยพันล.
และว่า ขอให้คนไทยร่วมด้วยช่วยกัน เราตระหนักเรื่องนี้มากระดับที่ดีพอสมควร จนไม่อยากให้มีใครนำเชื้อข้ามา ขณะเดียวกันต้องไม่ตระหนกจนทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ต้องจัด 2 อย่างให้สมดุล 2 กัน ยังมีนักธุรกิจที่อยากลงมาลงทุน ล่าสุดหารือกันว่าจะมีนักธุรกิจชาวจีนเข้ามารับลำไยมูลค่าเป็นพันล้านบาทรอเราอยู่ โดยเขายอมทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง ต่อไปจะเข้ามาสั้นๆ ศบค.อนุมัติหลักการไปแล้ว เหลือเพียงระดับปฏิบัติตามหน่วยงานต่างๆ
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวย้ำถึงการติดตามทหารสหรัฐที่เข้ามาฝึกร่วมกับกองทัพบกไทยว่า กองทัพบกเจ้าภาพร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ให้ข้อมูลรายละเอียด และผลตรวจออกมาแล้วทั้ง 110 ราย ยังไม่พบเชื้อ เข้าพักใน 3 โรงแรมคือ คอนราด อนันตรา ริเวอร์ไซด์ ดิไอดอล
ถกเปิดรร.100%-เปิดร้านเหล้าตี2
โฆษก ศบค.ยังแถลงอีกว่า วันเดียวกันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือศบค.ชุดเล็กพิจารณา 5 ประเด็นคือ 1.เปิดโรงเรียนโดยไม่ต้องสลับกันเรียน ต้องมีมาตรการรองรับป้องกันติดเชื้อ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเสนอรูปแบบ 2.การเปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่นั่งได้เต็มทุกที่นั่ง 3.การแข่งกีฬาแบบมีผู้เข้าชม ขณะนำร่องแล้วที่จ.ระยอง 4.การขายอาหารบนเครื่องบิน และ5 ขยายเวลาเปิดสถานบริการถึงตีสอง
ไม่พบติดเชื้อผู้ชมคอนเสิร์ตเจนนี่
ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงผลตรวจเชื้อของผู้เข้าชมคอนเสิร์ตเจนนี่ที่จ.นครศรีธรรมราชว่า จากการนำรถพระราชทานออกตรวจเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 2,582 คน แบ่งเป็นวันที่ 4 สิงหาคม เก็บตัวอย่าง 617 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ และวันที่ 5 สิงหาคม ตรวจเชื้อ 1,965 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ควบคุมโรคป้องกันการระบาดทันท่วงที พร้อมย้ำว่าสำหรับกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ถือเป็นกิจกรรมที่เสี่ยง ทางราชการจึงกำหนดมาตรการหลักและมาตรการเสริม ให้ผู้จัดคอนเสิร์ต หรือจัดกิจกรรมต้องปฏิบัติตาม เพื่อป้องกันโรค
ยันทหารสหรัฐ110นายผลเป็นลบ
นพ.สุวรรณชัยยังกล่าวถึงผลตรวจเชื้อทหารสหรัฐว่า สำหรับกลุ่มแรก 71คน ที่เข้ามาในประเทศไทยเป็นลบ ล่าสุดกลุ่มที่ 2 ที่เดินทางมา 32 คน ก็พบว่าผลเป็นลบเช่นกัน ส่วนวันที่ 4 สิงหาคมที่เข้ามาเพิ่มเติม 7 คน ผลตรวจออกมาเป็นลบ ดังนั้น กลุ่มทหารสหรัฐที่เข้ามาในประเทศไทยทุกรายได้รับการปฏิบัติเหมือนผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศในสถานที่ราชการหรือรัฐกำหนดเป็นเวลา 14 วัน โดยทั้งหมดเข้ากักกันใน Alternative state quarantine และระหว่าง14วันไม่อนุญาตให้ออกไปไหนทั้งสิ้นและระหว่างกักกันได้รับการตรวจเชื้อ 2 ครั้ง โดยทั้งหมด 110 คน ผลตรวจเชื้อครั้งแรกเป็นลบทุกราย
ทบ.สยบข่าว11ทหารมะกันติดโควิด
ขณะที่พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่า ทหารสหรัฐฯที่เข้ารับการกักตัวในโรงแรมที่เป็น Alternative State Quarantine (ASQ) ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 รายว่า จากการตรวจสอบยืนยันข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นข่าวลือ เพราะจากการตรวจร่างกายด้วยการสวอปครั้งแรกจากทางการแพทย์พบว่าทหารสหรัฐฯทุกนายขณะนี้มีผลเป็นลบ คือไม่มีใครติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม จากนี้ทุกคนต้องกักตัวให้ครบ14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขก่อนจึงจะออกมาปฏิบัติภารกิจทางทหารได้ต่อไป ขั้นตอนการฝึกดังกล่าวทางกองทัพบกจะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบต่อไปอีกครั้ง
คนญี่ปุ่นนับหมื่นจ่อคิวขอเข้าไทย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เปิดเผยว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจฯหารือเรื่องการผ่อนคลายเปิดสถานศึกษาทั่วประเทศแบบ 100% รวมถึงกรณีสนามแข่งม้าและกีฬาบางประเภทที่ยังไม่อนุญาตให้มีผู้ชม เราต้องพิจารณาผลกระทบให้รอบคอบรอบด้าน ก่อนนำเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่สัปดาห์หน้า
ส่วนการอนุญาตให้นักธุรกิจเข้าประเทศไทยนั้น ศบค.กำหนดมาตรการรองรับไปแล้ว เช่น มีชาวญี่ปุ่นขอเข้าประเทศไทยมากกว่า 10,000 คน ศบค.ต้องใช้เวลาทยอยพิจารณาอนุญาตตามขั้นตอน ขณะที่การผ่อนคลายเรื่องแสดงคอนเสิร์ต เราไม่ได้ห้าม ยังจัดได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข ต้องเว้นระยะไม่ให้มีคนหนาแน่น เหมือนกรณีแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องเจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น
ศธ.เปิดสอนเต็มรูปแบบเริ่ม13สค.
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการเผยยหลังประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯว่า วันนี้พิจารณาให้โรงเรียนทำการเรียนการสอนเต็มรูปแบบ 100 % โดยไม่ต้องเว้นระยะห่าง และไม่ต้องสลับวันหยุด หากโรงเรียนบริหารจัดการเชื่อว่าครูในประเทศไทยจัดการแนวทางได้ แต่พยายามให้มีการเรียนการสอนในห้องเรียนน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม กำชับนักเรียนต้องจดบันทึกทุกครั้งว่า เมื่อเลิกเรียนแล้วได้ไปไหนมาบ้าง เพื่อเป็นมาตรการติดตามตัวกรณีเกิดการแพร่ระบาดของโรคในสถานศึกษา มั่นใจได้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจัดการความปลอดภัยในประเทศได้ และมีมาตรการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ต้องเข้าที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ แต่จะเสนอนายกฯวันที่ 10 สิงหาคม ถ้านายกฯตัดสินใจลงนาม คาดว่าจะเปิดเรียน100% ได้วันที่ 13 สิงหาคม ส่วนการประเมินรูปแบบการเรียนการสอน กระทรวงศึกษาธิการกำลังประเมินความเหมาะสม ต้องยอมรับว่าการเรียนการสอนไม่ได้เท่าเทียมกันทั่วประเทศ จะวัดมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศไม่ได้อยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี