เพราะแม็คโครเป็นธุรกิจค้าส่งสมัยใหม่ที่ขายอาหารสดเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผูกพันกับเกษตรกรไทยในฐานะผู้ผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยไม่ได้ทำหน้าที่เพียงซื้อมาขายไป แต่เป็นเพื่อนคู่คิด ช่วยหาทางออกให้เกษตรกรไทยก้าวสู่ความเข้มแข็งไปด้วยกันมาตลอด 31 ปี เช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ตำบลสุขไพบูลย์ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ที่ซึ่งแม็คโคร เข้าร่วมบูรณาการลงพื้นที่พัฒนากับ กรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท คิง ฟรุทส์ กว่า 4 ปี จนเกิดความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการส่งผลผลิตคุณภาพปลอดภัยปีละ 1,000 ตัน สร้างรายได้ให้ชุมชนไม่ต่ำกว่าปีละ 12 ล้านบาท
นางจุฑารัตน์ พัฒนาทร ผู้อำนวยการฝ่ายประกันคุณภาพ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดิมทีกล้วยหอมทองมีแหล่งใหญ่เพาะปลูกแถวจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี แต่มีปัญหาจากผลกระทบทางธรรมชาติจากลมส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย แม็คโคร จึงบูรณาการความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท คิง ฟรุทส์ มองหาพื้นที่เพาะปลูกใหม่ เน้นพื้นที่ที่เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่เป็นสำคัญ พื้นที่เกษตรเป้าหมายที่ได้รับการแนะนำครั้งนั้นอยู่ที่ ตำบลสุขไพบูลย์ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเดิมนิยมปลูกพืชล้มลุก อย่างมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้มีปัญหาความไม่แน่นอนของตลาด ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อทางแม็คโคร, คิง ฟรุทส์ และกรมส่งเสริมการเกษตร เข้ามาแนะนำส่งเสริมการปลูกกล้วยหอมทอง เกษตรกรรวมกลุ่มตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ทำการเกษตรในเชิงธุรกิจด้วยการวางเป้าหมายปลูกและจำหน่ายกล้วยหอมทองปลอดภัย ที่ต้องได้มาตรฐานการเพาะปลูกและผลิตอย่างที่แม็คโครกำหนดไว้ นั่นคือ ผลผลิตต้องได้คุณภาพ เน้นเรื่องอาหารปลอดภัยตลอดกระบวนการ มีวิธีจัดการลดต้นทุนเพิ่มผลิต เพื่อให้กล้วยหอมของเรามีคุณภาพแตกต่าง โดยสิ่งที่ 3 หน่วยงานมาร่วมกันทำงานช่วยเหลือเกษตรกรนี้เพื่อยกระดับคุณภาพการเพาะปลูก ส่งเสริมการตลาด และสร้างเครือข่ายเกษตรแปลงใหญ่เข้มแข็ง โดยกรมส่งเสริมการเกษตรลงพื้นที่ให้ความรู้ ปรับวิธีการปลูก การใช้ปุ๋ย น้ำให้ถูกกับลักษณะกับผลผลิตที่ปลูก ซึ่งแม็คโครจะเข้าไปช่วยเสริมปรับปรุงกระบวนการผลิต บรรจุ และการตลาด โดยเน้นย้ำคุณภาพอาหารปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิตจนถึงมือผู้บริโภค โดยพื้นที่ปลูกกล้วยหอมแปลงใหญ่ ใช้เวลาปรับอยู่นาน เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ และได้รับคำแนะนำให้ใช้ระบบสปริงเกอร์ เพื่อความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ รวมทั้งการควบคุมการใช้สารเคมี การใช้ปุ๋ยธรรมชาติที่แม็คโครเข้มงวด
“แม็คโครให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพอาหารปลอดภัยเป็นสำคัญ ดังนั้น เกษตรกรที่จะส่งผลผลิตให้แม็คโครต้องเรียนรู้กระบวนการอื่น เพื่อเข้าใจการผลิตปลอดภัยตลอดห่วงโซ่ โดยใช้หลักวิชาการด้านการบริหารจัดการสวน เทคโนโลยีจัดการดูแล ป้องกันโรครวมถึงสร้างผลผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคภายใต้มาตรฐาน GAP ซึ่งสมาชิกกลุ่มนี้ได้การรับรองมาตรฐาน GAP เรียบร้อย ส่งขายผลผลิตกล้วยหอมทองคุณภาพปลอดภัยต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกษตรกรคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยตลอดกระบวนการผลิต”
นางจุฑารัตน์ กล่าวอีกว่า 2 ปีแรกเกษตรกรกลุ่มนี้ยังไม่ค่อยชัดเจน จนเข้าสู่ปีที่ 3 ปีที่ 4 เกษตรกรพัฒนาและเมื่อเขาได้เห็นประสิทธิภาพการเพาะปลูกผลผลิตที่ผ่านการวางแผน บริหารจัดการภายใต้ ตลาดนำการผลิตแล้ว ก็ทำให้ผลผลิตกล้วยหอมทองของที่นี่มีตลาดมั่นคงเติบโต จากเริ่มต้นมีพื้นที่เพาะปลูกรวม 300 ไร่ ปัจจุบันขยายเป็น 700 ไร่ มีผลผลิต 1,000 ตันต่อปีสร้างรายได้ให้เกษตรกรสมาชิกกลุ่มที่มีกันอยู่ราว 200-300 ราย รวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาทสำหรับกล้วยหอมทองจากแหล่งเพาะปลูกนี้แม็คโครรับซื้อเป็นหวี กระจายให้สาขาในภาคอีสาน และส่วนหนึ่งส่งเข้าศูนย์กระจายสินค้าแม็คโคร กระจายไปสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ อนาคตของเกษตรแปลงใหญ่ ตำบลสุขไพบูลย์ มีแนวโน้มสดใส แม้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ก็ยังเห็นการเติบโตทุกมิติทั้งขยายพื้นที่เพาะปลูกในอีก 2-3 ปีข้างหน้าให้เป็น 3,000 ไร่ การเพิ่มจำนวนเกษตรกรแปลงใหญ่อีก 100 ราย นับว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นตอกย้ำโมเดลความสำเร็จของ “ตลาดนำการผลิต” สร้างความมั่นคงด้านอาหารปลอดภัยให้มีเครือข่ายกว้างขวาง นำรายได้มาสู่ชีวิตเกษตรกรไทยอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี