พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ได้กำหนดให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นหน่วยงานในการจัดทำผังน้ำและรายการประกอบ “ผังน้ำ” เสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาให้ความเห็นชอบและประกาศใช้ทั้ง 22 ลุ่มน้ำภายในปี 2566
“ผังน้ำ” หมายถึง แผนที่หรือแผนผังแสดงระบบทางน้ำที่มีน้ำไหลผ่าน ซึ่งเชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงทางออกสู่พื้นที่แหล่งน้ำ ทะเล หรือทางออกทางน้ำระหว่างประเทศ ระบบทางน้ำดังกล่าวครอบคลุมทั้งแม่น้ำ ลำคลอง ห้วย หนอง บึง กุด ป่าบุ่ง ป่าทาม พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่แหล่งกักเก็บน้ำ พื้นที่ทางน้ำหลาก พื้นที่น้ำนอง พื้นที่ลุ่มต่ำ ทางน้ำหรือพื้นที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกันไม่ว่าจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างขึ้น โดยทางน้ำดังกล่าวอาจมีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปีหรือบางช่วงเวลาก็ได้
ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมาสทนช. ได้ดำเนินโครงการจัดทำแผนหลักการจัดทำผังน้ำ เพื่อกำหนดกรอบแนวทางการจัดทำผังน้ำที่เหมาะสม ตลอดจนกำหนดรูปแบบแผนที่ผังน้ำ ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและใช้ประโยชน์ได้ของลุ่มน้ำต่างๆ ทั่วประเทศโดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์
ด้วยเหตุนี้จึงต้องจัดการระบบเส้นทางน้ำ หรือ “ผังน้ำ” เพื่อกำหนดขอบเขตเส้นทางน้ำ แจ้งให้ประชาชนทราบถึงพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัยระดับต่างๆ และการใช้ประโยชน์ที่ดินที่อยู่ในระบบทางน้ำไม่ให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการไม่ก่อให้เกิดการเบี่ยงเบนทางน้ำหรือสิ่งกีดขวางการไหลของน้ำในระบบทางน้ำ อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม
“โดยเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ต้องการให้การบริหารทรัพยากรน้ำของประเทศเกิดเอกภาพและเป็นระบบ จึงจำเป็นต้องมีการวางผังทางน้ำและทิศทางการไหลของทางน้ำทั้งระบบขึ้นมาก่อน ซึ่งการวางผังน้ำดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบาย แผนแม่บท และแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำ อีกทั้งผังน้ำที่จัดทำขึ้น จะนำไปเชื่อมโยงกับผังเมืองตามกฎหมายว่าด้วยผังเมือง เพื่อใช้เป็นกรอบในการกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินและการใช้ประโยชน์แหล่งน้ำในภาพรวมของประเทศให้เกิดประสานสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบต่อไปได้” เลขาธิการสทนช. กล่าว
“ผังน้ำ” ที่ สทนช. จัดทำขึ้นนี้ เป็นการดำเนินการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และมีความเหมาะสมและความสมบูรณ์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้
เพราะก่อนที่จะได้ผังน้ำในแต่ละลุ่มน้ำออกมานั้น จะมีการสำรวจและเก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำศึกษา วิเคราะห์ วางแผน และกำหนดกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่การศึกษาทบทวนข้อมูลและรายงานที่เกี่ยวข้อง จากการศึกษาที่ผ่านมาแล้วในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำผังน้ำของลุ่มน้ำต่างๆ รวบรวมจากแหล่งข้อมูลทุติยภูมิต่างๆ และรายงานการศึกษาที่ผ่านมาของหน่วยงานต่างๆ รูปแบบและแนวทางการใช้งานของผังน้ำจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งข้อเสนอแนะ กฎหมาย มาตรการต่างๆ ในการนำผังน้ำไปประยุกต์ใช้งานในทางปฏิบัติ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยข้อมูลทุติยภูมิต้องมีที่มาและแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจนและเชื่อถือได้
นอกจากนี้ ก็จะมีรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะสภาพกายภาพ การใช้ที่ดิน สภาพเศรษฐกิจ สังคม ประชากร การตั้งถิ่นฐาน การพัฒนาเมืองและพื้นที่เศรษฐกิจ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ความเสียหายจากอุทกภัยที่ผ่านมาของพื้นที่ลุ่มน้ำหลักและลุ่มน้ำสาขา พื้นที่แก้มลิงแม่น้ำ พื้นที่จังหวัด รวมทั้งวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยของพื้นที่ลุ่มน้ำ ตลอดจนศึกษา วิเคราะห์ทิศทางการบริหารทรัพยากรน้ำ จากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ แผนการพัฒนาจากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำ มาเชื่อมโยงแผนความเป็นไปได้ ความสอดคล้องกับแผนบริหารจัดการน้ำทรัพยากรน้ำของลุ่มน้ำในทุกๆ ด้านทั้งปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต จากนั้นถึงจะมากำหนดลักษณะ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การจัดทำผังน้ำ โดยต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการลุ่มน้ำ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผังน้ำที่จัดทำขึ้นมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ สทนช. ได้จัดทำผังน้ำตัวอย่าง คือ ลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำจันทบุรี ซึ่งขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจัดประชุมปัจฉิมเทศโครงการ และประชุมรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ผังน้ำตัวอย่าง ตัวแทนคณะกรรมการลุ่มน้ำ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางกำหนดกรอบจัดทำผังน้ำที่เหมาะสมมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและใช้ประโยชน์ได้ จนได้ออกมาเป็นแผนที่และแผนผัง ประกอบด้วย
แผนที่แสดงขอบเขตผังน้ำ และระบบทางน้ำ แผนที่แสดงพื้นที่ป่าและพื้นที่ชุ่มน้ำ แผนผังแสดงพื้นที่ทางน้ำหลาก พื้นที่น้ำนองและพื้นที่ลุ่มต่ำ แผนที่แสดงความจุลำน้ำและพื้นที่น้ำท่วมที่คาบอุบัติต่างๆ แผนที่แสดงพื้นที่น้ำท่วมที่คาบอุบัติ 2 ปี 5 ปี 10 ปี 25 ปี 50 ปี และ 100 ปี ผังระบบระบายน้ำ แผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง ผังน้ำท่า และความต้องการน้ำในรูปแบบของไดอะแกรม
ล่าสุด สทนช. ได้ขยายผลจัดทำผังน้ำจากลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำจันทบุรี สู่ลุ่มน้ำอื่นๆ อีก 8 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำชี มูล บางปะกง แม่กลองสะแกกรัง ป่าสัก เจ้าพระยา และท่าจีน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 กันยายน 2564 จากนั้นก็จะดำเนินการศึกษาจัดทำผังน้ำจนครบทั้ง 22 ลุ่มน้ำทั่วประเทศภายในปี 2566 และเมื่อผังน้ำถูกประกาศแล้ว จะทำให้การบริหารจัดการน้ำของทุกหน่วยงานจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีความเป็นระบบมากขึ้น มีการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่าที่สุด ขณะเดียวกัน สามารถช่วยบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ สามารถรักษา เส้นทางน้ำ ไม่สูญหายและถูกเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ไม่นานประเทศไทยก็จะมี “ผังน้ำ” ใช้แล้ว การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจะได้มีเอกภาพและเป็นระบบเสียที...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี