อสส.เซ็นตั้งคณะทำงาน ดึง 3 อดีต รอง อสส.-ตุลาการศาลทหาร-อัยการ สอบดุลพินิจ”เนตร”ชอบหรือไม่ ขณะที่เจ้าตัวให้เหตุผลแสดงสปิริตลาออกเพื่อองค์กร ยันสั่งคดีตามระเบียบ กฎหมาย ขณะที่ประธาน ก.อ.เตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุม 18 ส.ค.นี้
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ส.ค.63 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกเอกสาร เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาสั่งคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา และตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด โดยระบุว่า
ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งที่ 1400/2563 ลงวันที่ 4 ส.ค.63 แต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานพิจารณาสั่งคดีอาญาสำนวน ส. 1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ประกอบด้วย 1นายอิทธิพร แก้วทิพย์ หัวหน้าคณะทำงาน 2.นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองหัวหน้าคณะทำงาน 3.นายอุทัย สังขจร คณะทำงาน 4.นายประยุทธ เพชรคุณ คณะทำงานและเลขานุการ 5.นายนรา เขมอุดลวิทย์ คณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ โดยมีนายสมใจ โตศุกลวรรณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 คณะทำงานดังกล่าวได้ประชุมพิจารณาสำนวนคดี ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 และมีคำสั่งแจ้งพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) และเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานใหม่และเป็นพยานที่สำคัญที่จะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาที่ 1 ได้จึงสั่งสอบสวนพยานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ ความตาย พร้อมแจ้งคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อแล้ว เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 โดยให้ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 และได้ประสานงานให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินการแล้ว
สำหรับประเด็นการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ของ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวอย่างแพร่หลายว่าเป็นการสั่งคดีที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ ในการตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ดังกล่าว ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดยังไม่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจสอบรองอัยการสูงสุด ในเรื่องดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องนี้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ ได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าจะนำประเด็นนี้เข้าพิจารณาเพื่อวางหลักเกณฑ์ในการประชุมคณะกรรมการอัยการในวันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2563 นี้
สำนักงานอัยการสูงสุด เห็นว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ และจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากการกำหนดหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 82 จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอัยการเพื่อพิจารณา อีกทั้ง จะต้องนำหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการอัยการเห็นชอบไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลานาน
ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยรวดเร็ว อัยการสูงสุด จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 1446/2563 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2563 แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้เป็นคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหา โดยคณะทำงานประกอบด้วย
1.นายสมศักดิ์ บุญทอง หัวหน้าคณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด 2.พลเอก ประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ คณะทำงาน เจ้ากรมพระธรรมนูญ 3.พลโท กิตติยุทธ กิตติยุทธโยธิน คณะทำงาน หัวหน้าสำนักงานตุลาการศาลทหาร และตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด 4. นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล คณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด 5.นายถาวร พานิชพันธ์ คณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด 6.หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขานุการ 7. ร้อยตำรวจเอก สกลกริช ฤทธิ์เดช ผู้ช่วยเลขานุการ
โดยให้คณะทำงานชุดนี้ มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 ของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ว่าการรับฟังพยานหลักฐานเป็นไปตามหลักกฎหมาย ชอบด้วยเหตุผล และใช้ความระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบหรือไม่เพียงใด แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณา
โดยวันนี้ นายเนตร นาคสุขรองอัยการสูงสุดได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุดเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจในการสั่งสำนวนคดีนี้และเป็นการแสดงสปิริต (Spirit) แก่องค์กรอัยการและต้องการให้ทุกคนในสังคมเกิดความสบายใจโดยยืนยันว่าการสั่งคดีนี้ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนและตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ด้านนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ. ) ระบุว่า ยังไม่เห็นหนังสือการขอลาออกของนายเนตร อย่างเป็นทางการ ทราบเรื่องจากสื่อมวลชนเท่านั้น ซึ่งหากเป็นจริงตามนั้น วันที่ 18 ส.ค.นี้ก็ต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ส่วนตัวไม่คิดว่าการลาออกของนายเนตรจะกระทบกับการเสนอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบดุลยพินิจ ที่เจ้าตัวสั่งไม่ฟ้องคดีนายบอส อยู่วิทยา เนื่องจากขณะที่มีคำสั่งยังอยู่ในช่วงดำรงตำเเหน่งข้าราชการอัยการ จึงน่าจะตรวจสอบเเละมีผลย้อนหลังได้ แม้ว่าตัวเองจะเป็นประธาน ก.อ. แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของก.อ.ทั้งหมดด้วยว่ามีความเห็นเช่นไร
"ยืนยันว่าการตรวจสอบดุลยพินิจ ไม่เกี่ยวกับการตรวจสอบทางวินัย เพราะหากเป็นอย่างหลัง จะต้องไปพิจารณาตัวบทกฎหมายอีกครั้ง" นายอรรถพล กล่าวตอนท้าย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :ด่วน! 'เนตร นาคสุข' รอง อสส.ที่สั่งไม่ฟ้อง'บอส'ยื่นหนังสือลาออกเเล้ว )
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี