ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จังหวัดเชียงราย ในวาระเยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ภาคเหนือ
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 ส.ค.63 พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วย นาวาเอกหญิง อุบลวรรณ รุดดิษฐ์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ คณะนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ และคณะผู้บริหารสมาคมภริยาทหารเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ณ กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ในวาระเยี่ยมอำลาหน่วยกองทัพเรือในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมี พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และนาวาเอก ไวพจน์ วีระประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย ให้การต้อนรับ
ผบ.ทร.ได้กล่าวชื่นชมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงรายว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้สร้างผลงานให้เป็นที่ปรากฏสร้างชื่อเสียงให้แก่กองทัพเรือและประเทศชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันปัญหาและหน้าที่รับผิดชอบมากมายขึ้นโดยลำดับ
ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยือนหน่วยนี้ก็ทำให้นึกถึงเหตุการณ์หลายทศวรรษที่ผ่านมาอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา นรข.ได้สร้างผลงานสร้างเกียรติภูมิให้แก่กองทัพเรือเป็นอย่างมาก ในช่วงมาก่อตั้งหน่วย ทำให้ผู้มีอิทธิพลไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกเพราะเราผู้ถือกฎหมาย ยึดมั่นในความดีตลอดมา จนในที่สุดก็ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนโดยทั่วไปจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดี โลกหมุนไปสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปทำให้ปัญหาในอดีตถึงปัจจุบันมากมายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้นโดยลำดับ เราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยหน่วยเดียวโดยลำพังดังเช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว ต้องระดมกำลังความร่วมมือจากหลายภาคส่วนมาช่วยกันแก้ไขปัญหา ต้องใช้สติปัญญามากกว่าปกติ ปัจจุบันไม่ใช่การต่อสู้ด้วยอาวุธเช่นในอดีตที่ผ่านมามีทั้ง Hard Power Soft Power ควบคู่กันไป
"ที่ผ่านมาต้องขอบคุณข้าราชการทุกนายจนถึงพลทหารคนสุดท้ายที่ได้ร่วมแรงกันรักษากฎหมาย การทำงานปฏิบัติงานอย่างดีเยี่ยมนำชื่อเสียงมาสู่กองทัพเรือ การที่ผมมาเยี่ยมพวกเราในครั้งนี้ก่อนที่จะอำลาราชการไปก็เพราะให้ความสนใจและความห่วงใยพวกเรา ครั้งก่อนที่มาเยี่ยมเยือน ผมพูดเรื่องกระสุนน้ำตาล โดยยกตัวอย่างว่ากระสุนเหล็ก กระสุนทองแดงมีอำนาจน้อยกว่า กระสุนน้ำตาล ขอจงยึดมั่นในความดี ยึดมั่นในอุดมการณ์ชาติ มีจิตวิญญาณของการเป็นนักรบชาวเรือที่เข้มแข็งพวกเราก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ สมกับคำที่ผมได้ให้เป็นข้อเตือนใจอยู่เสมอว่า เกียรติยศไม่ได้มีมาตั้งแต่กำเนิด แต่เกิดจากการกระทำ"
ผบ.ทร.กล่าวต่อว่า โลกปัจจุบันมีความยุ่งยากซับซ้อน เราเป็นทหารต้องดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีไม่ได้รบกับศัตรูที่เห็นตัวตนแต่อย่างใดเช่นในอดีตอีกแล้ว แต่มีความยุ่งยากซับซ้อน ขอความร่วมมือสร้างเกียรติภูมิ และมุ่งมั่นทำความดีหากเป็นเช่นนี้ก็จะเชื่อได้ว่าเราจะเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนเหมือนคำที่ผมได้พูดอยู่เสมอที่ว่า "กองทัพเรือเป็นกองทัพของประชาชนหายใจเชื่อมใจประสานใจและมีชะตาชีวิตร่วมกับประชาชน ที่ใดมีศัตรูที่ได้มีภัย ที่นั่นมีทหารของกองทัพเรือ เป็นกองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ หากเป็นเช่นนี้ตลอดความยาว 980 กิโลเมตรจากเชียงรายถึงอุบลราชธานีพวกเราจะสามารถครองใจประชาชนเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนทุกผู้ทุกนาย"
สำหรับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง หรือ นรข.มีภารกิจในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย คุ้มครองและช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่างๆ ตามหลักมนุษยธรรมในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามล้าแม่น้ำโขง รวมทั้งสนับสนุนกำลังทางบก ในการรักษาความมั่นคงและป้องกันประเทศ มีพื้นที่ปฏิบัติการตามริมฝั่งแม่น้ำโขงครอบคลุม 8 จังหวัด คือ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อ้านาจเจริญ และ อุบลราชธานี เป็นระยะทางทั งสิ้น 928 กิโลเมตร และแบ่งความรับผิดชอบเป็น นรข.เขต 4 เขต ดังนี้ 1.นรข.เขตเชียงราย 2. นรข.เขตหนองคาย 3.นรข.เขตนครพนม 4.นรข.เขตอุบลราชธานี มีสถานีเรือทั้งสิ้น 14 สถานีเรือ และ 1 หน่วยเรือ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ได้จัดกำลังปฏิบัติตามภารกิจทั้งการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติอย่างต่อเนื่อง และคงความต่อเนื่องในการแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล โดย นรข.ได้เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจทั้งทางบกและทางน้ำรวมถึงการจัดเจ้าหน้าที่ เป็นชุดเฝ้าระวังทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน ตลอดจนเพิ่มมาตรการด้านการสกัดกั้น ทั้งการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด การเฝ้าตรวจช่องทางท่าข้ามต่างๆ รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อทำการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย และกวาดล้างกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่
ในส่วนของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตเชียงราย มีภารกิจหลักในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวลำแม่น้ำโขง มีพื้นที่รับผิดชอบตามลำแม่น้ำโขงตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ ที่บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน ไปสิ้นสุดที่แก่งผาได บ้านห้วยลึก ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น รวมระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ 3 อำเภอ 8 ตำบล 39 หมู่บ้านมีหน่วยในบังคับบัญชา 2 สถานีเรือ คือ 1.สถานีเรือเชียงแสน และ 2.สถานีเรือเชียงของ โดยผลการดำเนินการที่ผ่านมามีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม อาทิ การจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับ พระราชบัญญัติ ยาเสพติด, ศุลกากร, ป่าไม้, ตรวจตนเข้าเมือง รวมถึงการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เพื่อพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ อาทิ ภัยหนาว อัคคีภัย ภัยแล้ง และอุทกภัย
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ได้มุ่งเน้นการพัฒนากองทัพเรือ ให้ขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ เพื่อไปสู่ขั้นรุกคืบหน้า สถาปนาความมั่นคง” (Moveing Forward to Ensure Sustainability : MFES) โดยอยู่บนหลักคิดพื้นฐานที่ว่า "ที่มีอยู่ต้องรักษาให้อยู่ แล้วพัฒนาต่อไป" ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กองทัพเรือไปถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ที่ว่า "ทหารเรือ ต้องเป็นกองทัพทหารของประชาชน หายใจ เชื่อมใจและมีชะตาชีวิตร่วมกันกับประชาชน สู้เพื่อรับใช้ประชาชน ที่ใดมีศัตรู ที่ใดมีอันตราย ที่นั่นย่อมมีทหารของกองทัพเรือ ให้สมกับคุณค่าที่ส่งมอบให้กับสังคม เป็นกองทัพเรือ ที่ประชาชนเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี