เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 ส.ค.63 บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ พร้อมทีมงานด้านกฎหมายของมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้พานางสาวภาคิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาว ต.ท่าชุมพล อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวย ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองนครปฐม ให้ดำเนินคดีกับนายธวัชชัย แซ่ซิ้ม อายุ 39 ปี อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
โดยนางสาวภาคิน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ทางครอบครัวประสบปัญหาเรื่องการเงินต้องการใช้เงินรักษาแม่และพี่ชาย จึงมีการโพสต์บอกเซ็งร้านเสริมสวยในจังหวัดนครปฐมเพื่อที่จะนำเงินไปรักษาพี่ชายและแม่ และได้มีการโพสต์ขายแอร์ 1 ตัว ต่อมามีผู้ชายมาติดต่อทางอินบล็อก ทราบชื่อต่อมาว่านายธวัชชัย แซ่ซิ้ม อายุ 39 ปี เลขที่ 3/3133 แขวงคลองคลองถนน เขตสายไหม กทม.โดยคุยกันเรื่องซื้อแอร์และนายธวัชชัย ตกลงซื้อแอร์ของตน โดยนายธวัชชัย ได้โอนเงินให้ตนจำนวน 1,500 บาท
จากนั้นก็คุยกันจนสนิทใจเพราะตนมีปัญหาต้องหาเงินค่ารักษาแม่และพี่ชายที่ป่วย โดยนายธวัชชัย บอกว่าเป็นอาสาสมัครร่วมกตัญญู ทำงานที่ร่วมกตัญญูกว่า 20 ปี และรู้จักเป็นเพื่อนกับพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ มานานและได้ส่งภาพตอนประชุมที่มูลนิธิอาสาสมัครร่วมกตัญูญูมาให้ตนดู จนตนไว้ใจจนได้คุยกันเกือบทุกวันและคุยกันถึงเรื่องที่นายธวัชชัย จะไปทำเรื่องกู้เงินซื้อบ้านกับธนาคารและให้ตนทำใบรับรองเงินเดือนเพื่อไปทำเรื่องกู้ซื้อบ้าน และหลังจากนั้นก็มีความสัมพันธ์กันทั้งหมด 2 ครั้ง
หลังจากนั้นนายธวัชชัย ก็ขาดการติดต่อกับตน เพราะตนไปทราบมาว่านายธวัชชัย เคยมีคดีมาแล้วตั้งแต่ปี 2557 จึงเลิกติดต่อเพราะกลัวความไม่ปลอดภัยและก่อนหน้าที่ตนจะมาที่ สภ.นครปฐม ทางนายธวัชชัย ได้ส่งแชทมาถามว่าจะไปแจ้งความหรือไง
นางสาวภาคิน กล่าวต่อว่า หลังจากตนทราบเรื่องว่าถูกหลอกจึงส่งเรื่องทุกอย่างไปทางเฟสบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังและนัดเจอกับบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ สภ.นครปฐมในวันนี้เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายธวัชชัย
ด้าน บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้รับเรื่องของนางสาวภาคิน เรียบร้อยแล้วได้กล่าวว่า ตนจะนำหมายเลขบัญชีของนางสาวภาคิน ลงไว้เพื่อรับบริจาคนำเงินไปรักษาแม่และพี่ชาย ส่วนเรื่องคดีความเรื่องที่นายธวัชชัย แอบอ้างเป็นเพื่อนสนิทกับตนและเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญูทำให้เลื่อมเสียนั้น ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูจะต้องรวบรวมหลักฐานให้แน่นหนาและนำมาแจ้งความเพื่อเอาผิดต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม กล่าวว่า หลังจากที่รับแจ้งความจากหญิงผู้เสียหายแล้วได้ให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่ร้านเสริมสวยของผู้เสียหายจากนั้นจะส่งตัวหญิงผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและจะเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างละะเอียดเสียก่อนจากนั้นจะได้ติดต่อชายคนดังกล่าวมาให้ปากคำต่อไป ส่วนการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและไปอ้างถึง บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นั้นเดียวทางฝ่ายกฎหมายของมูลนิธิฯจะมาแจ้งความอีกที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี