‘ประมง’สุดทน!บุกกทม.
จี้รบ.คลายเงื่อนไขคุมเข้ม
ชาวประมงพังงา โอดติดหล่มกฎหมาย ถูกคุมเข้มอย่างหนัก ติดประกาศขายเรือคืนรัฐ เตรียมยกพลเข้ากรุง28 สิงหาคม จี้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยด่วน วางกรอบยื่น 7 ข้อเรียกร้อง
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณแพปลา ต.คุระ อ.คุระบุรี และที่ทำการสมาคมเรือประมงจังหวัดพังงา บ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา มีการติดป้ายข้อความว่า “ ชาวประมงพังงา ขอขายเรือประมง คืนให้รัฐบาลทั้งหมด พวกเราทำไม่ไหวแล้ว”
การเคลื่อนไหวดังกล่าว สืบเนื่องจากมติการประชุมสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ยื่นข้อเสนอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา จากความเดือดร้อนของชาวประมง 22 จังหวัด ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขและกฎระเบียบต่างๆที่ออกมาโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม สร้างปัญหา อุปสรรคในการประกอบอาชีพ โดยชาวประมงส่วนใหญ่ต้องการเลิกทำการประมง เนื่องจากสู้ภาวะเศรษฐกิจไม่ไหว เพื่อให้รัฐบาลทราบ หากไม่ได้รับการแก้ไขตามที่ได้เรียกร้อง คือประกาศขายเรือคืนให้กับรัฐทั้งหมด ส่วนมาตรการต่างๆคือวันที่ 28 สิงหาคม2563 จะมีการเข้าพบกับ นายเฉลิม ชัยศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้มาประชุมพูดคุยกับสมาคมการประมงฯ ทั้ง 22จังหวัดว่าจะแก้ไขปัญหาหรือไม่
ทั้งนี้หากได้มีการพูดคุยกันแล้ว ไม่มีการรับข้อเสนอการแก้ไขปัญหา หลังจากนั้นอีก 7 วัน ระหว่างพี่น้องชาวประมงรอคำตอบ แต่ถ้าไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจ นายกสมาคมประมง 22 จังหวัด จะเดินทางเท้าเพื่อมาทำเนียบรัฐบาล พร้อมกันนั้นก็มีการตั้งคณะกรรมการ 11 คน ที่จะมีการเคลื่อนไหวต่อไปในอนาคต ที่จะส่งสัญญาณจอดเรือทั้งประเทศ พร้อมกับการขายเรือคืนให้กับรัฐบาล แล้วต้อง“เลิกอาชีพประมง”ในที่สุด
ทั้งนี้ ทางสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ได้วางกำหนดการพูดคุยหลักไว้ 7 ข้อ เช่น 1.ให้หยุดกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงทั้งหมด 2. แก้ไขกฎหมายประมง 3. เร่งซื้อเรืออกนอกระบบ 2,600 ลำ ในงบประมาณปีนี้ 4. ยกเลิกการนะบังคับติด VMS ในเรือต่ำกว่า 30 ตันกรอส 5. ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทาง กฎหมายประมงที่ผ่านมา ทุกอย่างที่ยื่นไปต้องมีระยะเวลาที่ชัดเจนให้เวลา 7 วัน ถ้าไม่ได้คำตอบที่ถูกใจชาวประมงชาวประมงแต่ละจังหวัดจะร่วมกลุ่มกันเท่าที่รวมได้เดินเท้าจากใต้สุดแล้วมีการส่งไม้กันแต่ละจังหวัดจบที่หน้าทำเนียบรัฐบาลแล้วยื่นหนังสือให้นายก ขอจอดเรือแล้วขายเรือทั้งหมดให้รัฐบาลทั้งหมด
ส่วนนายพีรพงษ์ ซื่อตรง อายุ 50 ปี พ่อค้าคนกลางเจ้าของโกดังปลาบ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า หากชาวประมงหยุดอาชีพหาปลา จะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งอาชีพชาวประมง และอาชีพเกี่ยวเนื่อง เช่น ลูกเรือประมง พ่อค้าคนกลาง พ่อค้าแม่ค้าตลาดสด ตลาดนัด รวมถึงผู้บริโภค ส่วนทางแก้ของรัฐบาลที่นำเข้าปลาจากต่างประเทศนั้น ตนเองสงสัยว่ามีผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างไรหรือไม่ เนื่องจากมีการเอื้อกฎหมายปลอดภาษีนำเข้า ทำให้ปลานำเข้าจำนวนมากแทรกแซงการหาปลาของชาวประมง จึงต้องการให้รัฐบาลพิจารณา แก้ไข กฎ ระเบียบ ไม่ให้กีดกันชาวประมงที่หาปลาด้วยความลำบาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี