ศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ยุติธรรม บ้านพักเด็กและสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำนักจิตวิทยาลงพื้นที่เข้าให้กำลังใจครอบครัวและเยียวยาเด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ที่ถูกครูประจำชั้นล่วงละเมิดทางเพศ พบมีสภาพจิตใจดีขึ้น แต่ยังซึมเศร้า และหวาดผวายังไม่กล้าไปโรงเรียน
22 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ แจ้งความดำเนินคดีว่าลูกสาวถูกครูประจำชั้นชายอายุ 57 ปี ล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำภายในโรงเรียน โดยการปีนกำแพงห้องน้ำครูที่อยู่ติดกันเข้ามาล่วงละเมิดทางเพศ และยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 200,000 บาท เพื่อให้จบเรื่อง แต่ทางผู้ปกครองไม่ยอมรับ และต้องการให้ดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด กระทั่ง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ตั้งกรรมการสอบพบมูลความผิด และทางศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ มีคำสั่งให้ครูคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดนายเพิ่มพูน พงษ์พวงเพชร ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ บ้านพักเด็ก จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 และนักจิตวิทยาลงพื้นที่เข้าให้กำลังใจครอบครัวและเยียวยาสภาพจิตใจเด็กนักเรียนหญิงวัย 11 ปี พร้อมทั้งมอบเงินและสิ่งของเครื่องใช้ช่วยเหลือ หลังจากเกิดเหตุได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ ซึมเศร้า และหวาดผวาไม่กล้าไปโรงเรียน โดยมีผู้ปกครองและญาติดูแลอย่างใกล้ชิด
โดยแม่ของเด็กนักเรียนหญิงวัย 11 ปี กล่าวว่า ขณะนี้สภาพจิตใจลูกสาวก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ต่างจากเกิดเหตุใหม่ๆซึ่งมีอาการซึมเศร้าและร้องไห้ทุกวัน จนต้องพาตัวออกนอกพื้นที่ แต่ก็ยังมีความกลัวไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนอยู่ ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะ แต่ตนและครอบครัวก็ยังคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด และให้กำลังใจลูก ขณะที่สภาพจิตใจของตนและสามี ในฐานะหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ของเด็กนั้น ยังรู้สึกเจ็บปวดและบอบช้ำเป็นอย่างมาก กับการกระทำของครูคนดังกล่าว ทั้งนี้ในส่วนการดำเนินคดีอาญาและเรื่องวินัย ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งตนยืนยันว่าต้องการให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด
ด้านนายเพิ่มพูน พงษ์พวงเพชร ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้นำเจ้าหน้าที่และนักจิตวิทยาเข้ามาให้กำลังใจและดูแลสภาพจิตใจเด็กอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ทางสพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ได้เข้ามาดูแลเป็นการเบื้องต้นแล้ว ซึ่งล่าสุดเท่าที่มีการพูดคุยเด็กยังไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน ดังนั้นจึงกำชับให้ผู้อำนวยการและครูนำอุปกรณ์การเรียนมาเรียนที่บ้านไปก่อนจนกว่าสภาพจิตใจจะพร้อม และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่และทางครูดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ส่วนครูประจำชั้นที่ถูกกล่าวหานั้นได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งหากมีความผิดจริงจะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด ขณะที่ในส่วนของความผิดทางอาญานั้น จะได้ประสานทางยุติธรรมจังหวัดและอัยการจังหวัด ดำเนินการต่อไป
ด้านนายวิมล ปัญญพิมพ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า สำหรับครูชายคนดังกล่าวนั้นเป็นครูประจำชั้น ป.5 ที่ผ่านมาก็มีผลงานดี ซึ่งหลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับครูประจำชั้นบ้างแล้ว โดยได้ถามว่าได้กระทำตามที่ผู้ปกครองเด็กร้องเรียนหรือไม่ ซึ่งครูก็บอกว่าไม่ได้ทำ ทั้งนี้เท่าที่มีการพูดคุยกันหลังเกิดเหตุครูมีความเครียดอย่างมากกับเรื่องดังกล่าว จนบ่นว่าอยากฆ่าตัวตาย ส่วนจะเป็นการกระทำจริงหรือไม่นั้นก็ต้องหน้าที่ของคดีกรรมการตรวจสอบ และหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดำเนินการตามพยานหลักฐาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี