สกัดต่างชาติลักลอบเข้าไทย
ผวาแพร่โควิด
คุมเข้ม10จังหวัดติดเมียนมา
เชียงราย-กาญจน์จับได้รายวัน
หนีเข้าไทยช่องทางธรรมชาติ
สธ.เตือนชะลอการรับแรงงาน
ติดเชื้อใหม่เพิ่ม6กลับจาก4ปท.
“ปลัด มท.” สั่งผู้ว่าฯ 10 จว. ชายแดนติดเมียนมา คุมเข้มทุกด่าน ช่องทางธรรมชาติทุกแห่ง สกัดเมียนมาลอบเข้าไทยหลังรัฐยะไข่ โควิด-19 ระบาดหนักจนต้องล็อกดาวน์ไร้กำหนด สธ.เตือนทุกฝ่ายคุมเข้มพรมแดนตลอดแนว150 กม.-ชะลอนำเข้าแรงงาน โดยเฉพาะจากเมียนมา สกัดนำเชื้อเข้าประเทศ ด้านเมืองกาญจน์-เชียงราย เจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจละเอียดยิบแต่ยังจับกุมต่างด้าว ลักลอบเข้าเมืองได้ต่อเนื่องนับร้อยคน
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายอำเภอให้เน้นย้ำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ให้ระมัดระวัง ป้องกัน การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)รายงานข้อมูลผู้ติดเชื้อในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จากการระบาดระลอกที่ 2 จำนวน 580 ราย ส่วนใหญ่อยู่ที่รัฐยะไข่ เมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอก ทำให้ประกาศล็อกดาวน์ไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา
สั่ง10จว.ติดเมียนมาเข้มด่านเข้าเมือง
“มท.จึงสั่งการเน้นย้ำรผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านประเทศเมียนมา 10 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง และราชบุรี ให้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ 1.การเดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางการเข้าออก ด่าน จุดผ่านแดน หรือจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรฯ ตามคำสั่ง ศบค.อย่างเคร่งครัด
2.บูรณาการร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในชายแดน เพื่อเพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง ป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้ลักลอบเดินทางเข้ามาผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน ถ้าพบกรณีดังกล่าว ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเข้มงวด”นายฉัตรชัยระบุ
ไทยติดเชื้อใหม่6กลับจาก4ปท.
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยเพิ่มในหลายประเทศ หลายทวีป ส่วนประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 6 รายมาจากต่างประเทศทั้งหมด และเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3,410 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย หรือ 71.67% ส่วนผู้ติดเชื้อที่กลับจากต่างประเทศ 473 ราย คิดเป็น 48.9 6% โดยระยะนี้รายงานผู้ติดเชื้อในไทยเป็นผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด ยอดหายป่วยสะสม 3,237 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 115 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่จากอุซเบกิสถาน 1 ราย ฟิลิปปินส์ 1 ราย เยอรมนี 2 ราย และเอธิโอเปีย 2 ราย
จับตาบังคลาเทศ-ปากีฯกลับเยอะ
นพ.โสภณกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก พบมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 24 ล้านคน จำนวนที่เพิ่มในแต่ละวันอยู่ที่ประมาณกว่า 2 แสนราย เสียชีวิตกว่า 8 แสน ส่วนผู้ป่วยที่อาการรุนแรงที่มีรายงานประมาณ 6 หมื่นกว่าราย สถานการณ์ที่สธ.ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ บังกลาเทศและปากีสถาน เพราะเป็น 2 ประเทศที่มีคนไทยกลับมา โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมที่บังกลาเทศกว่า 3 แสนราย ส่วนปากีสถาน 2.9 แสนราย
เตือนคุมเข้มด่านชายแดน
สำหรับสถานการณ์ประเทศที่ใกล้เคียงไทย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือ การระบาดที่เมียนมา ในรัฐยะไข่ มีผู้ป่วยสะสม 602 ราย เป็นผู้ป่วยใหม่ 22 ราย การระบาดใหม่นี้เกิดขึ้น เพราะมีพื้นที่รอยต่อติดกับบังกลาเทศและอินเดีย ทั้งนี้ มาตรการสำคัญที่เมียนมาดำเนินการคือ 1.ให้ประชาชนอยู่กับบ้าน 2.ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ 21.00 น.-04.00 น. 3.บุคคลที่เดินทางจากรัฐยะไข่ไปเมืองต่างๆจะถูกกักตัว 21 วัน แบ่งเป็นกักตัวในสถานที่กักตัว 14 วันและกักตัวในที่พัก 7 วัน และ4.ส่งบุคลากรไปปฏิบัติงานที่รัฐยะไข่ 48 คน
สำหรับประเทศไทยมีที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านกว่า 150 กิโลเมตร ต้องเฝ้าระวังเข้มงวดป้องกันการลักลอบเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะพรมแดนธรรมชาติ ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ทหาร ฝ่ายปกครองรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับมอบหมายว่าระยะนี้ให้เพิ่มความเข้มงวดและความถี่ในการตรวจป้องกันการลักลอบ ขณะที่เครือข่ายสาธารณสุขในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ฝ่ายท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ต้องช่วยสอดส่องว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่หรือไม่ หากพบ รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ กรณีที่อยู่ในการจับกุมของตำรวจก็จะตรวจหาเชื้อด้วย
วอนชะลอนำแรงงานปท.ระบาด
นพ.โสภณกล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญคือ ขอให้ประชาชนเลี่ยงเดินทางไปพื้นที่ระบาดและขอให้ผู้ประกอบการชะลอนำแรงงานจากพื้นที่ที่มีการระบาดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา จนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัยจึงจะดำเนินการต่อ ส่วนถ้าเป็นพื้นที่อื่น หากจะนำเข้ามาต้องเข้าระบบกักตัวตามมาตรการควบคุมโรคของไทย
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีรายงานว่ามีผู้ประกอบการเริ่มยื่นเรื่องขอนำแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในไทยแล้วหลายราย อย่างล่าสุดคือ กลุ่มก่อสร้าง ที่ขอนำแรงงานเมียนมาเข้ามา 400 ราย ในส่วนนี้ ทางผู้ประกอบการจัดหาสถานที่แยกกักเอาไว้แล้ว”นพ.โสภณกล่าว และย้ำว่า การช่วยกันสอดส่องถือเป็นเรื่องสำคัญมากระยะนี้ เราต้องป้องกันเชิงรุกไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน คนไทยต้องป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ป้องกันแพร่เชื้อ ทั้งสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยน้ำสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ปฏิบัติตามคำแนะนำ สแกน Application ไทยชนะ เพราะหากพบการติดเชื้อจะได้ติดตามได้เร็ว ขณะนี้ประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังและติดตามค่อนข้างดี ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมากกว่า 3 เดือน
กาญจน์เข้มเข้าออกช่องทางธรรมชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจังหวัดที่มีชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมา ที่เป็นการระบาดระลอก 2 ว่า ทางการเมียนมาประสานแจ้ง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ให้ระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อในเมืองเมาะลำเลิง ซึ่งมีแรงงานเดินทางเข้าไทยค่อนข้างมาก ขณะที่สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ประสานฝ่ายมั่นคงตรวจเข้มผู้ใช้ช่องทางธรรมชาติเข้าออกไทยมากขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ในเมียนมาพบผู้ติดเชื้อแล้ว 580 คน ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะไข่ แต่ขณะนี้พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองเมาะลำเลิงหรือมะละแหม่ง ห่างจากชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งชาวเมืองนี้มักเดินทางเข้ามาทำงานในฝั่งสังขละบุรีจำนวนมาก
รวบ37เมียนมาลอบเข้าไทยที่สังขละ
ส่วนด่านเจดีย์สามองค์ แม้ด่านยังปิดตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่ยังมีผู้ค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ตะเข็บชายแดน นำสินค้ามาขายตามปกติ ขณะที่พื้นที่ชายแดนระหว่างบ้านบ่อญี่ปุ่น เมืองพญาตองซู ฝั่งเมียนมากับ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี มีช่องทางธรรมชาติมากกว่า 30 ช่องทาง ที่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งข้ามไปมาหาสู่กัน จึงเกรงว่าจะเกิดการระบาดเข้ามาในฝั่งประเทศไทย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจในต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จับกุมชาวเมียนมา 37 คน ขณะโดยสารรถกระบะ ผ่านจุดตรวจ สอบสวนเบื้องต้นพบว่าเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติในตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวน
เชียงรายจับรายวันเมียนมานับร้อย
เช่นเดียวกับบริเวณพรมแดนใน อ.แม่ฟ้าหลวง แม่จัน แม่สาย และ อ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองของชาวเมียนมาอย่างเคร่งครัด เนื่องจากพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมา ของ จ.เชียงราย เป็นช่องทางธรรมชาติสามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ โดยกำลังทหารร้อย ม.3 ฉก.ม.2 ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง มอบหมายให้ ร.อ.กิตติเดช กันคล้อย ผบ.ร้อย.ม.3 ฉก.ม.2 นำกำลังลาดตระเวนท่าข้ามแม่น้ำสาย ท่าข้ามกะหล่ำ บ้านเมืองแดง ม.1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย 4 คน ทราบชื่อคือ 1.นายไชยอาย อายุ 48 ปี สัญชาติเมียนมา 2.นาง ฮาคิน อายุ 31 ปี สัญชาติเมียนมา 3.นาง ทานู อายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา และ 4.นาย โตปาย อายุ 28 ปี สัญชาติเมียนมา ทั้งหมดพยายามข้ามกลับบ้านไปฝั่งเมียนมา แต่ถูกควบคุมตัวได้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงรายดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.อ.จักรกริศน์ เจริญโชติกาญจน์ ผู้แทนผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนเจ้าหน้าที่จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าช่องทางต่างๆ เขต จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ รวมจำนวน 106 ครั้ง ผู้ต้องหา 332 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ปัจจุบันสกัดกั้นตามแนวชายแดน ทั้งการวางกำลังใน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยติดกล้องวงจรปิด โดรนถ่ายภาพกลางคืน ไฟส่องสว่างแบบโซล่าเซลล์ และเพิ่มความแข็งแรงของลวดหนามหีบเพลง แต่ในจ.เชียงราย ก็ยังมีคนลักลอบเข้ามา เจ้าหน้าที่จับกุมได้รายวัน ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม -26 สิงหาคมจับได้ 56 ครั้ง ผู้ต้องหา 151 ราย เป็นชาวเมียนมา 83 ราย ไทย 54 ราย ลาว 12 ราย และจีน 2 ราย ปัจจุบันหากมีคนไทยเข้ามาโดยถูกกฎหมายจะนำเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่โรงแรมในเขต อ.เมืองเชียงราย แต่หากผิดกฎหมายจะกักที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) จ.เชียงราย แต่หากเป็นชาวต่างด้าวจะผลักดันกลับทั้งหมด
รบ.ยังไม่ใช้“ภูเก็ตโมเดล”รับนทท.
ขณะที่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเตรียมใช้ภูเก็ตโมเดล เป็นต้นแบบการท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล เปิดรับนักท่องเที่ยว ที่กำหนดพื้นที่ให้ท่องเที่ยวแบบจำกัด มีการกักตัว14 วันก่อนให้เดินทางท่องเที่ยวอย่างแน่นอนที่สำคัญจะพิจารณาเฉพาะประเทศที่ปลอดโควิดนั้น ขอชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนหารือในรายละเอียด ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ต้องมาพิจารณาร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยว กลุ่มชาวต่างชาติที่จะเข้ามา วิธีการคัดกรอง การป้องกัน ฯลฯ ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร จนกว่าจะมั่นใจว่า เมื่อเปิดรับชาวต่างชาติแล้ว จะไม่นำมาซึ่งความเสี่ยง การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 จึงขอให้คนภูเก็ตและนักท่องเที่ยวไทยสบายใจได้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา หากจะเปิดก็จะดำเนินการอย่างรัดกุมที่สุด
เวียดนามติดเชิ้อสะสม1.036คน
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามว่า กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามรายงานจำนวนผู้ป่วยสะสมมีอย่างน้อย 1,036 คน เพิ่มขึ้น 2 คนในรอบ 24 ชั่วโมง หายป่วยอย่างน้อย 637 คน เป็นคนที่กลับจากต่างประเทศ ผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 30 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 1 คน เมื่อวันพฤหัสบดี เป็นหญิงอายุ 51 ปี ชาวเมืองดานัง มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ความดันโลหิตสูง และระบบการทำงานของอวัยวะหลายส่วนล้มเหลว ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดในเมืองดานัง เมืองท่าและเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศมีแนวโน้มทรงตัวมากขึ้น
เกาหลีใต้ต่อมาตรการควบคุมทางสังคม
นายจอง ซเย-คยอน นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ทางการขยายคำสั่งบังคับใช้มาตรการควบคุมทางสังคมระดับ 2 ทั่วประเทศออกไปอีก 1 สัปดาห์ รัฐบาลเกาหลีใต้ยืนยันว่า การบังคับใช้มาตรการควบคุมทางสังคมระดับ 2 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดคือทางเลือกสุดท้าย เนื่องจากเป็นมาตรการที่จะส่งผลกระทบมากต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเงื่อนไขพื้นฐานของมาตรการควบคุมทางสังคมระดับ 2 คือห้ามรวมกลุ่มมากกว่า 50 คนในพื้นที่ร่มและมีบริเวณจำกัด และต้องไม่เกิน 100 คนเมื่ออยู่ในสถานที่กลางแจ้ง การห้ามชมการแข่งขันกีฬาภายในสนาม การปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราว ส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการเวลากลางคืน ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ( เคซีดีซี ) รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 รายวันว่ามีผู้เสียชีวิตอีก 3 คน ทำให้ผู้เสียชีวิตของเกาหลีใต้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 316 คน เสียชีวิหายป่วยแล้ว 14,551 คน เพิ่มขึ้น 90 คน ผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 19,077 คน มีผู้ติดเชื้อใหม่ 371 คน มากที่สุดในกรุงโซล 145 คน ตามด้วยจังหวัดคย็องกีที่อยู่ติดกัน 112 คน เมืองอินชอน 27 คน และเมืองปูซาน 17 คน ส่วนที่เหลือกระจายกันไปในเมืองอื่นทั่วประเทศ
โควิดโลกลามไม่หยุด-เปรูแซงแอฟริกาใต้
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก นับจนถึงช่วงเย็นวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ.2563 พบว่า มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 24,659,338 ราย เสียชีวิตรวม 836,307 ราย รักษาหายรวม 17,116,712 ราย สหรัฐ ติดเชื้อรวม 6,048,404 ราย เสียชีวิตรวม 184,834 ราย บราซิล ติดเชื้อรวม 3,764,493 ราย เสียชีวิตรวม 118,726 ราย อินเดีย ติดเชื้อรวม 3,392,295 ราย เสียชีวิตรวม 61,725 ราย รัสเซีย ติดเชื้อรวม 980,405 ราย เสียชีวิตรวม 16,914 ราย เปรู ติดเชื้อรวม 621,997 ราย เสียชีวิตรวม 28,277 ราย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 120 จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 3,410 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี