นายกฯลุยสุโขทัย
ให้กำลังใจน้ำท่วม
เร่งฟื้นฟู-เยียวยา
ผู้ว่าฯของบ470ล.
นายกฯ นำคณะ ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ให้กำลังใจชาวสุโขทัย เร่งฟื้นฟู-เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม มองภาพรวมแก้ปัญหายั่งยืน ส่วนผู้ว่าฯรายงานสรุป ของบฯ470ล้านบาท ขณะ ปภ.เผย 17 จังหวัด ได้รับผลกระทบแล้ว ส่วนกรมอุตุฯเตือนทุกภาค ยังมีฝนตกหนัก พร้อมรับมือพายุฝน
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวก่อนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย จ.สุโขทัย ว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.สุโขทัย ตนมีความเป็นห่วง ที่ผ่านมารัฐมนตรีและส่วนราชการต่างๆ ลงไปกำกับดูแล ช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และเตรียมการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว ก็จะลงไปดูในพื้นที่เพื่อให้แก้ไขเป็นระบบมากขึ้น แต่ขอว่าอย่าเพิ่งพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเขื่อนหรืออะไรก็แล้วแต่ เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็นต่อไปเรื่อยๆ
ต่อมาเวลา 13.35 น.วันเดียวกัน นายกฯ พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานสุโขทัย โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผวจ.สุโขทัย รอรับพร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัย โดยระบุว่า จ.สุโขทัย เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก แล้งซ้ำซาก เมื่อถึงฤดูฝนมีมวลน้ำจาก จ.พะเยา และแพร่ ทำให้คันดิน และพนังถนนพังเสียหาย ซึ่งชาวบ้านต้องการโครงการสร้างเขื่อนเรียงหินป้องกันตลิ่ง ประมาณการงบประมาณ 470 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าจะแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ต้องมองภาพรวมอย่างยั่งยืน ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหา ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งปัญหาเร่งด่วนคือการระบายน้ำ ต้องมีทางน้ำไหล ประชาชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ต้องยอมให้น้ำไหลผ่านระยะหนึ่ง ส่วนพื้นที่กักเก็บไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ ต้องใช้เวลาและงบประมาณ มีปัจจัยหลายอย่างกว่าจะสำเร็จได้ แต่หากไม่ทำ ปัญหาก็จะเกิดซ้ำซาก จึงขอให้ไปสำรวจสถานที่กักเก็บน้ำว่ามีกี่แห่ง แล้วที่มีไม่สามารถเก็บน้ำได้เพราะอะไร โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปทบทวนและดำเนินการให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง
จากนั้นนายกฯ และคณะ เดินทางไปยังวัดคลองกระจง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เข้าสักการะพระประธานหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และนมัสการพระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดคลองกระจง พร้อมกับพบปะประชาชนและมอบถุงยังชีพ รวมทั้งให้กำลังใจอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วย
ขณะที่ นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนประเทศไทย และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก วาตภัย และดินสไลด์ ใน 17 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย กาฬสินธุ์ นครพนม ขอนแก่น สกลนคร ปราจีนบุรี และสิงห์บุรี รวม 65 อำเภอ 229 ตำบล 1,020 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,278 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 4 ราย (จ.น่าน จ.สุโขทัย จังหวัดละ 1 ราย และ จ.ลำปาง 2 ราย)
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งสำรวจ ประเมินความเสียหายเพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน หรือน้ำป่าไหลหลากได้
ส่วนพยากรณ์อากาศประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 2-3 กันยายนนี้ ภาคเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณ จ.ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กทม.และปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี