‘หมอธีระ’เตือนไทยเสี่ยง‘โควิด’ระบาดซ้ำ ฉะ‘กลุ่มธุรกิจการเมือง’ดันเปิดประเทศ มีแต่หายนะ
3 กันยายน 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thira Woratanara” เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีเนื้อหาดังนี้...
สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 3 กันยายน 2563 เกิน 26 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานติดเพิ่มโหดมาก 294,175 คน ตายเพิ่มอีก 6,788 คน ยอดรวมตอนนี้ 26,148,104 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 43,387 คน รวม 6,295,710 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 46,934 คน รวม 3,997,865 คน ช่วงสายๆ คงจะรายงานทะลุสี่ล้าน
อินเดีย ติดเพิ่มทำลายสถิติโลกวันเดียว 82,860 คน แค่วันเดียวเยอะกว่าจำนวนติดเชื้อรวมทั้งหมดของเรา 24 เท่า ยอดตอนนี้ 3,848,968 คน หลายฝ่ายค่อนข้างกังวลมาก เพราะมีโอกาสรุนแรงกว่านี้อย่างต่อเนื่อง และอินเดียจะกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโลก (epicenter) ได้หากไม่สามารถควบคุมโรคได้ภายในเร็ววัน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 4,952 คน รวม 1,005,000 คน
แอฟริกาใต้ เปรู เม็กซิโก ติดกันเพิ่มหลายพัน
สเปน ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน อิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ก็ติดกันเพิ่มหลักพันถึงเกือบหมื่นคนต่อวัน
สถานการณ์ในยุโรปดูแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเปน และฝรั่งเศส หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย ก็ติดกันหลักร้อยถึงหลายร้อย
ส่วนสิงคโปร์ และเมียนมา ติดกันหลักสิบ ในขณะที่จีน มาเลเซีย ฮ่องกง นิวซีแลนด์ และเวียดนามติดกันต่ำกว่าสิบ
...ของไทยเรา แม้จะครบ 100 วันที่ไม่มีรายงานการติดเชื้อภายในประเทศ ก็ขอให้อย่าประมาท เคยอธิบายไปแล้วว่า รายงานการตรวจติดเชื้อในช่วงที่ผ่านมานั้นมีบางรายที่ดูคลุมเครือและฟันธงที่มาลำบากว่าจะมาจากต่างประเทศหรือในประเทศ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดซ้ำในประเทศไทย หลังจากมีการแง้มประตูรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เข้ามา สองสัปดาห์นี้เราเห็นหลายต่อหลายเคสที่เป็นชาวต่างชาติที่ติดเชื้อระหว่างกักตัว 14 วัน รวมถึงการประชิด กระชับพื้นที่ ของ COVID-19 ที่มาจ่อถึงชายแดนไทย และมีรายงานการลักลอบเข้าเมืองจากเมียนมาผ่านช่องทางต่างๆ...เหล่านี้เป็นสัญญาณอันตรายที่ทำให้เราต้องยกการ์ดขึ้นป้องกันตัวเสมอเวลาใช้ชีวิตประจำวัน
...ศึกนอก...ยังพอที่จะจัดการหาทางป้องกันได้
...แต่ที่น่าอับอาย คือศึกใน ที่มีการออกข่าวของวงอำนาจธุรกิจการเมือง ที่ทั้งผลักทั้งดัน ถูลู่ถูกัง เอาสีข้างไถจนแดงเป็นแถบๆ ทั้งแสบทั้งคัน จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้
สถานการณ์การระบาดทั่วโลกรุนแรงเช่นนี้ เปิดรับมาก็มีแต่หายนะ
ประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็โชว์บทเรียนให้เห็นแล้วว่าระบาดซ้ำแน่
การที่ออกข่าว แล้วอ้างจุดแข็งเมืองไทยว่าจะเอาระบบสุขภาพมาดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น...เอาอะไรมาคิด
ระบาดซ้ำแล้วจะสาหัสกว่าเดิม แก้ไขยาก ใช้เวลานาน และจะเกิดผลกระทบวงกว้าง
...หากเราติดตามการระบาดมาตลอด เราคงพอเห็นได้ว่า ภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศและคุกคามสวัสดิภาพความปลอดภัยของประชาชนนั้น ไม่ใช่ไวรัสโรค COVID-19 แต่เพียงอย่างเดียว
แต่เป็นกลุ่มธุรกิจการเมืองนั่นเอง ที่ทำให้เราเห็นปรากฏการณ์วิกฤติมาตลอดตั้งแต่ต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ได้...เราจะเพลี่ยงพล้ำได้ในไม่ช้า
เรื่องนี้คงเป็นการบ้านหนักของท่านนายกรัฐมนตรี ศบค. และสมช.ครับ ขอเอาใจช่วยทุกท่าน
ควรยุติฟองสบู่ท่องเที่ยวอย่างน้อยอีก 6 เดือน แล้วค่อยประเมินสถานการณ์ตอนนั้นอีกครั้ง ใช้ช่วงเวลานี้เพื่อปฏิรูประบบธุรกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ช่วยเหลือและพัฒนาทักษะที่จำเป็นให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ระวังอย่างยิ่งเรื่องสองมาตรฐาน ระบบคัดกรองกักตัวและติดตามมีมาตรฐานเดียวที่จำเป็นต้องดำเนินการสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของคนทั้งประเทศ
ส่วนประชาชน...ขอให้ช่วยกันนะครับ อดทน อดออม ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตนเองเสมอ #ใส่หน้ากาก #ล้างมือบ่อยๆ #อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร #พูดน้อยลง #พบปะคนน้อยลงสั้นลง #เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร #คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว #หากไม่สบายให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจ
ประเทศไทยต้องทำได้
ด้วยรักต่อทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี