ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. , พ.ต.อ.ณัฐพล ปิตะบุตร รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.สนั่น ดงเวหน ผกก.สภ.ตากฟ้า , พ.ต.อ.ชาลี เดชศิริ ผกก.สภ.หน้าพระลาน , ว่าที่ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. , พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง ผกก.4 บก.ป. , พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ รอง ผกก.4 บก.ป. , พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา รอง ผกก.4 บก.ป. , พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. , เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.ภัทรพันธ์ พูลทวี สว.กก.4 บก.ป. , พ.ต.ต.พิทยา คงเจริญ สว.กก.4 บก.ป. , ร.ต.อ.วิสิทธิ์ แดงรัตน์ รอง สว.กก.4 บก.ป , ร.ต.อ.สุเทพ สมใจเตียบ รอง สว.(ป.) กก.4 บก.ป. , ร.ต.อ.หญิง กวิสรา รักวีรธรรม รอง สว.กก.สสน.บก.ป.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากฟ้า และ สภ.หน้าพระลาน ได้ร่วมกันจับกุม นายจารุกิตติ หรือติ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ย่าน ถ.พหลโยธิน ม.7 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณวันที่ 1 กันยายน 2563 นายสรวิทย์ฯ (ผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นเจ้าของคอลัมน์คุณชายตะลอนชิม ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ทราบว่ามีคนร้ายแอบอ้างชื่อของตนเอง โทรศัพท์มาหลอกลวง น.ส.สมจินทร์ฯ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่เคยได้รับการลงคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ให้ทำการโอนเงินร่วมทำบุญ ซึ่ง น.ส.สมจินทร์ฯ หลงเชื่อว่าเป็นนายสรวิทย์ฯ จริง จึงทำการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคนร้าย เป็นเงินจำนวน 2,000 บาท นายสรวิทย์ฯ ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าว จึงได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ สน.บางซื่อ
ซึ่งต่อมานายสรวิทย์ฯ ได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังกองบังคับการปราบปราม ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ทางผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ดำเนินการสืบสวนจนทราบว่า นายจารุกิตติฯ เป็นผู้ก่อเหตุ
จนกระทั่งวันที่ 3 กันยายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับแจ้งว่า นายจารุกิตติฯ ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีมาทำงานอยูที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ย่าน ถ.พหลโยธิน ม.7 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และพบผู้ต้องหายืนอยู่บริวณหน้าบริษัทฯดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าจับกุมพร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวจริง โดยทำทีแอบอ้างเป็นเจ้าของคอลัมภ์หนังสือพิมพ์ดังกล่าว แล้วโทรศัพท์ไปหลอกลวงเหยื่อ เชิญชวนให้ร่วมทำบุญ ซึ่งเมื่อได้เงินจากการหลอกลวงแล้วจะนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า เคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
กองบังคับการปราบปราม จึงขอประชาสัมพันธ์และฝากเตือนภัยประชาชน หากมีคนใกล้ตัวหรือคนที่ท่านรู้จักคุ้นเคย โทรศัพท์ติดต่อมายังท่านให้ร่วมทำบุญ หรือให้ร่วมบริจาคเงินต่างๆ ท่านควรตรวจสอบข้อมูลของบุคคลนั้นๆ ให้แน่ชัดเสียก่อนทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ และสำหรับผู้ที่จะกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงผู้อื่น หรือแอบอ้างตัวเป็นบุคคลอื่น การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดทางอาญา จะต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษตามกฎหมาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี