อธิบดีราชทัณฑ์ แจง"ศรีสุวรณ"ห้ามจำหน่ายบุหรี่ในเรือนจำ เผยผู้ต้องขัง 40 % ติดบุหรี่ ขณะเรือนจำแออัด ส่งผลกระทบต่อผู้ต้องขังที่ไม่สูบบุหรี่
วันที่ 5 กันยายน 2563 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อพิจารณาสั่งการให้กรมราชทัณฑ์มีการทบทวนหรือยกเลิกนโยบายที่ห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบและหรือยาเส้นในร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังในเรือนจำหรือในทัณฑสถานทุกแห่งทั่วประเทศ เนื่องจากอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการเพราะบุหรี่หรือยาเส้นมิได้เป็นสิ่งต้องห้ามตาม พรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อีกทั้งเชื่อว่าการบังคับให้บุคคลเลิกสูบบุหรี่ไม่สามารถทำให้เลิกได้ในเวลาอันรวดเร็ว จึงอาจเป็นการเปิดช่องทางให้เจ้าหน้าที่ลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในเรือนจำ นั้น
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า ก่อนที่จะมี นโยบายเลิกจำหน่ายบุหรี่ในเรือนจำได้มีการสำรวจผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศ ติดบุหรี่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์และส่งผลกระทบต่อผู้ต้องขังที่ไม่สูบบุหรี่เพราะสภาพภายในเรือนจำค่อนข้างแออัด เมื่อมีนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นก็พบว่ามีผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจลดลง ซึ่งช่วยลดปัจจัยคุกคามของโรคในกลุ่มผู้ต้องขังป่วยเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมองตีบ ส่งผลให้ลดภาระทางการรักษาพยาบาลลงอย่างมาก ซึ่งก็เป็นประโยชน์แก่ตัวผู้ต้องขังเองและเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการเลิกบุหรี่
นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวได้มีการหารือร่วมกันหลายฝ่าย เพื่อการวางแนวทางอย่างถูกต้องและมีโครงการนำร่องเพื่อทดสอบความเหมาะสมในการลด ละเลิกบุหรี่ของผู้ต้องขังโดยมีกระบวนการรณรงค์เลิกสูบบุหรี่มาตั้งแต่พ.ศ.2547 จนถึงพ.ศ.2562 จึงได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตามราชกิจจานุเบกษาเรื่องกำหนดเพิ่มเติมสถานที่ห้ามขายผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2562 ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งการยกเลิกการจำหน่ายยาสูบและหรือบุหรี่ยาเส้นภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศดังกล่าว
"มีการรณรงค์อย่าง ค่อยเป็นค่อยไป มิได้มีการดำเนินการรวดเร็วแต่อย่างใด อีกทั้ง ในเรือนจำก็ยังมีสถานพยาบาล และเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้การเลิกบุหรี่ส่งผลกระทบต่อผู้ต้องขังน้อยที่สุด และในส่วนที่กล่าวว่าอาจเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ลักลอบนำมาจำหน่ายในเรือนจำนั้น ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถสูบบุหรี่หรือนำบุหรี่เข้าภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานได้ ซึ่งหากมีการลักลอบเกิดขึ้นการกระทำดังกล่าวมีความผิดทางกฎหมายและผู้ที่ลักลอบนำเข้าจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยอย่างถึงที่สุด ดังนั้น ขอให้ประชาชน และทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่านโยบายดังกล่าวดำเนินการไปด้วยความเหมาะสม เป็นไปตามกฎหมาย และเกิดประโยชน์กับผู้ต้องขังอย่างมาก" อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี