วันที่ 8 กันยายน 2563 ที่ศาลแพ่ง กรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง   นายสรศักดิ์ เชาวณัฏ นักธุรกิจเจ้าของบริษัทโรงเรียนการดนตรีแห่งหนึ่งเดินทางมา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายณพ ณรงค์เดช  นักธุรกิจชื่อดัง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจเป็นจำเลยเรื่องผิดสัญญาไม่ชำระเงิน จากการซื้อหุ้นบริษัทและคอนโดมิเนียม รวมเป็นเงินจำนวนกว่า 136 ล้านบาท ศาลแพ่งกรุงเทพใต้รับคำฟ้องไว้พิจารณา

 ภายหลังนายสรศักดิ์ เชาวณัฏ เปิดเผยว่า เรื่องสัญญาชำระหนี้หุ้นบริษัท เริ่มตั้งแต่ปี 2557 ขณะนั้น ตนเปิดโรงเรียนสอนการดนตรี ชื่อบริษัทเพนต้า ซิสเต็มส์ จำกัด ก่อนที่จะได้รู้จักกับนายณพ ผ่านทางนายณัฐวัฒิ เภาโบรมย์ อีกทอดหนึ่ง จากนั้นทั้งคู่ได้ตกลงซื้อหุ้นของบริษัท โดยนายณพ ซื้อในอัตราส่วนร้อยละ 70 รวมเป็นเงินกว่า 160 ล้านบาท แต่กลับไม่ชำระค่าหุ้นตามที่ตกลงกันไว้ เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมานายณพ จะเสนอให้ตนขายคอนโดมิเนียมโดยโอนสัญญากรรมสิทธิ์ให้  นายณพ  ซึ่งอ้างว่า  สามารถกู้เงินกลับมาให้ตนเองได้ ตนจึงขายให้ในราคา 20 ล้านบาท แต่ผ่านมากกว่า 1 ปี ตนก็ยังไม่ได้เงินจากการซื้อขายคอนโดดังกล่าวเลย

กระทั่งมาทราบข่าวว่า นายณพ มีกรณีข้อพิพาทกับบิดา และปัญหาการซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ เกี่ยวกับการซื้อหุ้นและไม่ชำระเงิน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกรณีของตน  เมื่อตนมั่นใจว่าถูกเบี้ยวเงินจึงตัดสินใจฟ้องร้องต่อศาลในวันนี้

ส่วนที่ตนมายื่นฟ้องคดีหลังเหตุการณ์เกิดขึ้นมาหลายปี เนื่องจากที่ผ่านมา ตนมีความเชื่อใจ และมองว่านายณพ เป็นเหมือนน้องชาย ประกอบกับยังรู้จักกับครอบครัวของนายณพด้วย ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่หลังจากเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่สามารถติดต่อนายณพได้อีก พร้อมกับยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหรือรู้จักกับผู้บริหารของบริษัท บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่  แต่อย่างใด