ผบก.กาญจน์บินลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบนโยบายป้องกันขบวนการลักลอบขนยาเสพติด และป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานชาวเมียนมา ป้องกันโควิด-19 พบ ห้องคุมขัง สภ.หลายแห่งเริ่มแออัดไปด้วยแรงงานชาวเมียนมาแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 ก.ย.63 ที่ห้องประชุมศูนย์ฏิบัติการ (ศปก.)สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เป็นประธานประชุมเพื่อมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.สังขละบุรี ในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดทุกชนิด รวมทั้งการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานชาวเมียนมาโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัวโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ที่ประเทศเมียนมาอย่างรุนแรงอยู่ในขณะนี้
การประชุมครั้งนี้มี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ อยู่พะเนียด พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.นันทเศรษฐ์ สุขนพกิจ ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท. ฐิติกร วันเจริญพันธุ์ รอง.ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.อำนวย ศรีสงคราม รอง ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี และข้าราชการตำรวจ สภ.สังขละบุรี ให้การต้อนรับและร่วมประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 24 ส.ค.63 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยได้ที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ผู้ต้องหา 1 ราย ของกลางยาไอซ์ หนัก 1,385 กิโลกรัม ยาเค หนัก 500 กิโลกรัม เฮโรอีน หนัก 77 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท ของกลางทั้งหมดซุกซ่อนมากับ รถบรรทุก 12 ล้อ ที่ดัดแปลงพื้นกระบะให้เป็นช่องซุกซ่อนยาเสพติด
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ลักลอบข้ามเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติของจังหวัดกาญจนบุรีได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากแรงงานชาวเมียนมาถูกจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ ตม.และทางการไทยไม่สามารถผลักดันแรงงานเหล่านี้กลับประเทศต้นทางได้ เนื่องจากทางการเมียนมาไม่รับ เพราะประเทศเมียนมากำลังเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 2 อย่างรุนแรง ทำให้ทางการไทย จำเป็นต้องนำแรงงานเหล่านี้ไปฝากขังเอาไว้ตาม สภ.ต่างๆที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
ปัจจุบันห้องคุมขัง สภ.สังขละบุรี เริ่มเกิดการแออัด เนื่องจากมีผู้ต้องหาชาวเมียนมาถูกจับกุมในคดีลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งคดี พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ที่รอการผลักดับกลับประเทศต้นทางอยู่ จำนวน 33 ราย เป็นชาย 27 ราย หญิง 6 ราย บางรายถูกคุมตัวมานานกว่า 1-2 เดือน
นอกจาก สภ.สังขละบุรี ที่กำลังประสบปัญหาห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาเริ่มแออัดแล้ว สภ.ทองผาภูมิ สภ.ไทรโยค สภ.ศรีสวัสดิ์ ก็กำลังประสบกับปัญหาเช่าเดียวกัน และแต่ละ สภ.จำเป็นต้องดูแลด้านอาหาร รวมทั้งด้านสุขภาพให้กับผู้ต้องหาชาวเมียนมาทุกคนตามหลักมนุษยธรรมด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นจึงสร้างภาระให้กับ สถานีตำรวจในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เผยภายหลังว่า จากการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายและให้ตรวจสอบลงลึกในรายละเอียดถึงเส้นทางลำเลียงยาเสพติด เพื่อดำเนินการสกัดกั้นในเบื้องต้นก่อนขนเข้ามายังพื้นที่ชั้นใน จึงได้ลงพื้นที่มามอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ และ อ.ไทรโยค ในเรื่องของการสกัดกั้นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติด เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านจะลักลอบขนเข้ามาตามเส้นทางด้าน จ.กาญจนบุรี เป็นหลัก
นอกจากยาบ้า ยังมียาไอซ์ เฮโรอีน ยาเค หากปล่อยให้กระจายเข้าไปยังพื้นที่ส่วนกลางก็จะทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อน หรือติดยาเสพติดจำนวนมาก จึงได้มาให้นโยบายการทำงานที่ชัดเจนในเรื่องของการสืบสวนหาข่าวและการจับกุม
ส่วนในเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านเกิดการแพร่ระบาด และมีการคาดการณ์กันว่าอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะแพร่ระบาดมาถึงพื้นที่ชายแดน ดังนั้นการที่แรงงานต่างด้านหลบหนีเข้าเมือง ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาข่าวและเน้นในเรื่องของการจับกุม
ขณะเดียวกันก็ให้ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน ช่วยกันระวังป้องกัน และหากมีข่าวก็ให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในเบื้องต้นได้ประสานกับฝ่ายปกครอง ทหาร และ ตชด.ในเรื่องดังกล่าว เพื่อบูรณาการร่วมกันในการสกัดกั้นทั้งเรื่องของยาเสพติดและแรงงานที่หลบหนีเข้าเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี