11 กันยายน 2563 นางละออ อ่อนศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ้านเขาเขียว ต.ระบบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้ประกาศเสียงตามสายกับลูกบ้านเกี่ยวกับ เรื่องเสือที่เข้ามาในหมู่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ห้วยขาแข้ง ผลักดันเข้าป่าไปแล้วนั้น ในระหว่างที่ประกาศ ได้มีนายน้ำอ้อย ชาวโต อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 284 หมู่ 14 ซึ่งเป็นลูกบ้าน โทรศัพท์แจ้งมาว่า ได้มีเสือโครงข้ามาคามสุนัข ที่ชื่อบุกปุ๋ย หายไปตั้งแต่ประมาณ ตี 2 ของเมื่อคืน และพอรุ้งเช้า ตนเองได้ออกตามหาพบลอยเสือโครง เดินอยู่ข้างบ้าน แล้วเดินเขาไปในป่ามันสำปะหรัง โดยได้คาบสุนัขของตนเองไปด้วย โดยได้คาบไปยังที่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร
หลังจากนางละออ ผู้ใหญ่บ้านได้ประสานไปยัง หน่วยพิทักษ์ป่าเขาเขียว เพื่อเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำไปตรวจสอบลอยเท้าเสือ เพื่อหาวิธี โดยได้เดินตามลอยเสื้อเขาไปในป่าเพื่อหาซากสุนัขจนพบ โดยเสือนั้นยังไม่ได้กิน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เพื่อหาวิธี เพื่อผลักดันเสือโครงเข้าป่าห้วยขาแข้งต่อไป
ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเขาเขียว พร้อมกับได้สอบถามชาวบ้านนายสุดท้าย นางสายใจ วิมูล บ้านเลขที่ 279 หมู่ 14บ้านเขาเขียว ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ว่าเมื่อช่วงกล่างดึก ของวันที่ 8 ก.ย.63 ตนเองได้ยินสียงสุนัข เห่าหอนอยู่ใต้ถุนบ้าน พร้อมกับมีการเห่ากระโชกอย่างรุนแรง ตนเองพร้อมภรรยา จึงเปิดประตู พร้อมไฟฉาย ส่งไปที่ริมถนนหน้าบ้านเห็นเสือกำลังจะกินสุนัข พอเสื้อเห็นฉายตนเองก็คราบสุนัขไปหลังบ้านบ้าน แล้ววิ่งไปในป่าข้าวโพด ด้วยความตกใจตนเองจึงโทรแจ้งผู้ใหญ่ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ เขตเขาเขียว มาดูโดยเจ้าหน้าที่ได้อยู่ที่บ้านทั้งคืน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้มีการประชาสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านทราบ และให้ระวัง พร้อมจัดชุดไล่ล่า เสื้อให้กับเขาเขตป่าอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน
โดยเมื่อ8 ก.ย. 63.นายเพิ่มศักดิ์กนิษฐชาตหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่12(นครสวรรค์) ได้รับแจ้งว่าพบรอยตีนเสือบริเวณทางเข้าไร่ของชาวบ้านบ้านเขาเขียว ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ห่างจากแนวเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งประมาณ1กิโลเมตรหลังรับแจ้งหัวหน้าเขตฯได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาเขียวและประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำไปตรวจสอบ
พบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นไร่ข้าวโพดมีเส้นทางรถยนต์กลางไร่พบรอยตีนเสือโคร่งจากนั้นได้ติดตามตรวจสอบต่อเนื่องจนกระทั่งเวลาประมาณ20.00น.จึงพบเห็นตัวเสือโคร่งเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งเตือนให้ชาวบ้านทราบ และจัดชุดเฝ้าระวังไว้ทั้งคืนต่อมาเมื่อวันที่9กันยายน2563เวลา09.00น.เจ้าหน้าที่ฯได้ออกติดตามร่องรอยอีกครั้งพบรอยเสือโคร่งและรอยเสือโคร่งลากสุนัขเข้าไปในไร่ข้าวโพด
นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำและหัวหน้าฝ่ายวิชาการป่าไม้และสัตว์ป่าพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานชุมชนและการติดตามสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งร่วมประชุมและให้ข้อมูลกับชาวบ้านเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวของชาวบ้านและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ได้ข้อสรุปในการปฏิบัติงานและการพลักดันเสือโคร่งกลับเข้าป่า
โดยเวลากลางวันเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งจัดชุดติดตามหาจุดที่เสือซ่อนตัวเพื่อพยายามผลักดันกลับคืนสู่ป่าโดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาเขียว,หน่วยพิทักษ์ป่าซับฟ้าผ่าและเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำเป็นผู้ติดตามส่วนเวลากลางคืนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเฝ้าระวังและลาดตระเวนรอบหมู่บ้านโดยรถยนต์ใช้ไฟส่องสว่างเพื่อผลักดันเสือโคร่งกลับเข้าป่านอกจากนี้ได้ส่งทีมผู้ประสานงานชุมชนและการติดตามสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์และทีมวิชาการป่าไม้และสัตว์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งออกประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชนชาวบ้านในเรื่องพฤติกรรมของเสือโคร่งแนะนำให้ชาวบ้านเปิดไฟให้สว่างหรือก่อกองไฟไว้ตามที่พักหรือคอกปศุสัตว์หากไม่มีกิจจำเป็นขอให้อยู่ในบ้าน
เฉพาะยามค่ำคืนไม่ควรออกจากบ้านถ้าจำเป็นให้ใช้รถยนต์เป็นพานะในการเดินทางทั้งนี้จากพฤติกรรมของเสือและมาตรการการปฏิบัติในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะผลักดันเสือกลับเข้าป่าได้ไม่เกิน1สัปดาห์โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ใช้โดรนบินในจุดบริเวณที่น่าจะเป็นพื้นที่ซ่อนตัวของเสือเพื่อตามหาตัวแต่ไม่พบแต่อย่างใดขณะที่หากเสือตัวนี้ยังไม่มีพฤติกรรมกลับคืนสู่ป่าเจ้าหน้าที่จะได้วางแผนปฏิบัติงานใหม่อีกครั้งต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี