เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข่าวลือสะพัดว่าฝ่ายไทยเริ่มจะไม่พูดคุยกับกลุ่มมารา และเลือกพูดคุยแค่บางกลุ่มที่มีบทบาทกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนจริง โดยเฉพาะจากกลุ่มบีอาร์เอ็น และเลือกจะพูดคุยกับตัวแทนหรือแกนนำประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก โดยผ่านสภาสันติสุข ที่มีจำนวน 290 ตำบล ควบคู่กับการเจรจาพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็น
ล่าสุด นายกาตูรี มาสโกตา ประธานขบวนการพูโล PULO ได้โพสต์ความคิดเห็นต่อกรณีการพูดคุยเจรจาสันจิภาพสันติสุข ของตัวแทนกลุ่มขบวนการปลดปล่อยปัตตานี หรือกลุ่มผู้มีความคิดเห็นต่าง กับตัวแทนรัฐบาลไทย ที่นำโดย พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ โดยมีมาเลเซียทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ว่า เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศ สถานการณ์และสภาพความเป็นจริงของกระบวนการแก้ปัญหาในปาตานีที่เริ่มต้นเมื่อหลายสิบปีก่อนก็ยังไม่ปรากฏสัญญาณใดๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม แม้ว่าจะดำเนินไปอย่างราบรื่นก็ตาม ดังนั้น ผมคิดว่าสมควรที่จะต้องคิดค้นการเปลี่ยนแปลงขึ้น บังเอิญกระบวนการนี้นำโดยผู้อำนวยความสะดวก (ตันศรีราฮิมนูร์) อีกครั้ง จึงสมควรที่จะมีการคิดการสร้างแบรนด์และการปรับโครงสร้างด้วยแนวทางและวิธีการใหม่ๆ ที่แตกต่างจากก่อนเพื่อ "ชุบตัวใหม่" และค้นหาแรงผลักดันใหม่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งดีและไม่ดี ซึ่งจะเป็นแนวทางที่มีประโยชน์ในการกำหนดขั้นตอนต่อไปที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ครอบคลุมยุติธรรมและยั่งยืนในที่สุด
สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ 1.เลือกประเด็นพื้นฐานเพื่อเริ่มการเจรจา 2.ค้นหากลไกที่ชัดเจนที่องค์กรเคลื่อนไหวทั้งแนวร่วมทุกฝ่าย และองค์กรภาคประชาสังคม รวมทั้งนักการเมืองและนักวิชาการชาวมลายูปาตานี เข้าร่วมในกระบวนการเจรจา 3.ให้เปลี่ยนชื่อกระบวนการเจรจาเสียใหม่ที่สามารถช่วยทำให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาอย่างครอบคลุม และ 4.กำหนดโครงสร้างใหม่ของกระบวนการเจรจาเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างจะได้มีส่วน (ในกระบวนการเจรจา) ให้มีความหมาย (และประสิทธิภาพ) ยิ่งขึ้น
"หวังว่าด้วยการพิจารณาของทุกๆ ท่านในเรื่องต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น เราจะสามารถก้าวไปสู่การก่อตัวของระบบการปกครองปาตานีที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง ที่อยู่ภายใต้การดูแลของภาคีระหว่างประเทศและท้องถิ่น"
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ในฐานะประธานคณะสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เสนอเรียกร้องที่ได้จากการรับฟังข้อเสนอจากผู้เห็นต่าง เสนอต่อ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระหว่างเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ที่ห้องประชุมใหญ่สำนัหงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี วานนี้ โดยมีเนื้อหาข้อเรียกร้องทั้งหมด 4 ด้าน คือ 1.ขอรัฐบาลไฟเขียว "วันศุกร์" เป็นวันหยุดราชการ ให้สอดคล้องกับเพื่อนบ้าน 2.แนะทำป้ายหมู่บ้าน - ส่วนราชการ 3 ภาษา คือ ไทย มลายู ภาษาอังกฤษ 3.ขอให้เพิ่มภาษามลายู เป็นภาษาราชการ และ 4.เสนอตั้งคณะกรรมการร่วม รองรับพื้นที่พิเศษ - พ.ร.บ.กระจายอำนาจ , พ.ร.บ.การปกครองรูปแบบพิเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี