ผู้ว่าฯ สั่งตรวจสอบกันสาดปูนคอนโดฯ ย่านประเวศถล่ม ปูพรมตรวจทุกเขตหวั่นเกิดซ้ำ เขตเร่งยกปูนออก-หาพี่พักชั่วคราวให้ผู้อาศัย 6 ห้องที่พังแล้ว

14 ก.ย.63 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีเหตุอาคารทรุดตัว ภายในซอยสุภาพงษ์ 1 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า อาคารดังกล่าวก่อสร้างมานาน 30 - 40 ปี จึงทำให้เกิดการทรุดของกันสาด โดยตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด รวมถึงให้เร่งตรวจสอบอาคารลักษณะเดียวกันที่ก่อสร้างมานานกว่า 30 ปี ซึ่งในกรุงเทพมหานครมีอยู่เป็นจำนวนมาก ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ และเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่พักอาศัย 

ด้าน นายวรเศรษฐ์  วิศาลศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตประเวศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. เกิดเหตุกันสาดชนิดปูนของอาคารทรุดตัวภายในโครงการคอนโดมิเนียมนิรันดร์เรซิเดนซ์ 5 ซอยสุภาพงษ์ 1 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 9 ชั้น ในส่วนที่ทรุดตัวเป็นระเบียงอยู่ระหว่างชั้น 1-2 ซึ่งถล่มลงมาปิดทางเข้า-ออก ในบริเวณโครงการคอนโดนิรันดร์เรสซิเด้นท์ 5 จุดเกิดเหตุเป็นกันสาดชนิดปูนความยาวประมาณ 21 เมตร ความกว้าง 1 เมตร โดยโครงสร้างของกันสาดได้หักพังลงมาปิดทางเข้าออกของห้องชั้นล่างของผู้พักอาศัย 6 ห้อง ล่าสุดสำนักงานเขตประเวศได้ประสานงานจัดหาที่พักอาศัยชั่วคราวให้ผู้ได้รับผลกระทบทั้ง 6 ห้องแล้ว ทั้งนี้กันสาดชนิดปูนของตัวอาคารดังกล่าวทรุดตัวลงมาปิดทางเข้า-ออกอาคาร เจ้าหน้าที่สามารถทำการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ภายในอาคารออกมาได้อย่างปลอดภัย ตรวจสอบแล้วไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากการตรวจสอบความเสียหายดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารคอนโดฯ 

ผู้อำนวยการเขตประเวศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า อาคารแห่งนี้ได้มีการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งอาคารมีอายุกว่า 20 ปี สันนิษฐานเบื้องต้นว่าสาเหตุเกิดจากกันสาดชนิดปูนดังกล่าวมีการอุ้มน้ำมานาน หลังจากนี้ก็จะประสานให้สำนักการโยธาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงจะต้องเร่งแก้ไขว่าจะดำเนินการรื้อถอนออกได้เลยหรือไม่ เพื่อจะได้ให้ผู้พักอาศัยกลับเข้าไปภายในห้องพักได้ภายในวันนี้ ส่วนอาคารที่เหลือก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้พบว่าทางด้านนิติบุคคลของคอนโดฯ ได้มีการตรวจสอบอาคารทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่การตรวจสอบอย่างละเอียดจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเครื่องมือเฉพาะทาง เนื่องจากดูจากภายนอกจะไม่พบความผิดปกติ แต่หลังจากนี้ในอาคารที่เหลือก็จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดด้วยเจ้าหน้าที่ และวิศวกรผู้ชำนาญ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก