18 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการจังหวัด ได้ส่งโทรสารในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ด่วนที่สุด ที่ กจ (กปภจ) 0012/ว 24 ลงวันที่ 16 กันยายน 2563
ถึง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17/ ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี /นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 8/ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากาญจนบุรี/ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาญจนบุรี/เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี/เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี/ประมงจังหวัดกาญจนบุรี/นายอำเภอทุกอำเภอ/ นายกเทศมนตรีเมืองทุกแห่ง ข้อความระบุว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณา
ปัจจัยเสี่ยง กอปรกับกมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศฉบับที่ 3 (176/2563) ลงวันที่ 16 กันยายน 2563 เวลา 11.00 น. แจ้งว่า พายุโชนร้อน "โนอึล" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนกลาง และจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในวันที่ 18-20 กันยายน 2563
สำหรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้นทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางพื้นที่ ปริมาณฝนสะสมอาจทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยโดยมีพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม รับสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและคลื่นลมแรง ซึ่งจะมีผลกระทบระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2563 จึงขอให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
1. แจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการเฝ้าระวังสถนการณ์ฝนตกหนัก ปริมาณฝนตกสะสม โดยพื้นที่ลุ่มต่ำ อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง พื้นที่ลาดเชิงเขา อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรง ให้รีบแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่เพื่อตรียมพร้อมรับสถานการณ์
2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย อำเภอ เทศบาลเมือง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยสร้างทาง หน่วยงานชลประทาน หน่วยทหาร หน่วยงานความปลอดภัยทางน้ำ อาสาสมัครองค์กรการกุศล ฯลฯ วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์จากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ สภาวะอากาศ ปริมาณฝน และปัจจัยสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อประสานและบูรณาการหน่วยงานเครือข่าย จิตอาสา ภาคเอกชน และให้เตรียมพร้อมทรัพยากรเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธรารณภัยและแผนเผชิญเหตุ รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมบรรเทาภัยปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน
3. ให้อำเภอแจ้งเทศบาลตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้นด้วย และหากมีความจำเป็นต้องอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวแล้ว ให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นต้องอพยพ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และดำเนินการอพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย
4.หากมีแนวโน้มการเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัดกาญจนบุรี ทราบภายใน 24 ชั่วโมงทางหมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 0-3451-5998, 0-3451-6795
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ส่วนวิจัยและพัฒนาพยากรณ์อากาศ กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้จัดทำแผนที่แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมาก ประจำวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันศุกร์ ถึงเวลา 06.00 น.วันเสาร์ ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 13 อำเภอ อยู่ในโซนสีแดง พื้นที่เสี่ยงภัย “บริเวณฝนตกหนักมาก”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี