นครบาลกางแผนจราจร-จัดกำลัง8.5พันนายรับม็อบ แนะเลี่ยง 11 เส้นทาง
18 กันยายน 2563 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. (รับผิดชอบด้านจราจร) ในฐานะรองโฆษก บช.น. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมด้านการจราจร กรณีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19-20 กันยายน นี้ ว่า ประการที่ 1 คือการจัดระบบการจราจรกรณีที่มีการชุมนุมประท้วง โดยจะไม่มีการปิดการจราจรทั้งหมด
ประการที่ 2 คือ การจัดระบบการจราจรนั้นแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ประกอบด้วย
ระดับที่ 1 กรณีที่มีการชุมนุมบริเวณสถานที่ไม่กระทบผิวการจราจร หมายความว่าถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หรือสนามหลวง การจัดการจราจรก็จะเป็นปกติ ไม่มีการปิดการจราจรแต่อย่างใด
ระดับที่ 2 กรณีที่มีการลงมาที่ผิวการจราจร หรือเคลื่อนที่กระทบผิวการจราจรบางส่วน ก็จะจัดการจราจรโดยการจัดระเบียบของผู้ที่มาชุมนุม โดยขอความร่วมมือเพื่อให้ชิดขอบทางด้านซ้ายมากที่สุด ในช่องทางที่เหลือเราก็ใช้เป็นการจราจรตามปกติ
ระดับที่ 3 กรณีที่การจราจรที่สามารถสัญจรได้ จะมีการขออนุมัติผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้านฝ่ายความมั่นคง เพื่อปิดการจราจรและหลีกเลี่ยงเส้นทาง และให้ผู้สัญจรได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม ถ้ากระทบผิวการจราจรและต้องปิดการจราจรจะมี 2 แนวทาง ประกอบด้วย แนวทางที่ 1 กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แล้วกระทบทางแยกใดก็จะทำการปิดการจราจรชั่วคราว เพื่อไม่ให้ผู้สัญจรเข้าไปในเส้นทางนั้น แล้วไม่สามารถไปได้ ได้รับผลกระทบจากการจราจร ฉะนั้นจึงปิดการจราจรชั่วคราวก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเดินทางมาถึงทางแยก ให้สามารถเลือกการเดินทางอื่นได้ ฉะนั้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนที่ผ่านไปจะเปิดการจราจรตามปกติ
แนวทางที่ 2 กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่จุดใดจุดหนึ่ง แล้วการจราจรไม่สามารถสัญจรไปได้ อาจจะจำเป็นต้องปิดการจราจรถาวร ตรงนี้จะใช้หลักการเข้าหากับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าอยู่จุดใด จะปิดการจราจรก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางถึงทางแยก เพื่อให้ผู้สัญจรมีเส้นทางหลีกเลี่ยงได้ เป็นแนวทางที่ตำรวจเตรียมความพร้อมไว้ ไม่ว่าจะจุดใดก็ตามเตรียมความพร้อมไว้ทุกจุด
ทั้งนี้ ตำรวจนอกจากดูแลรักษาความปลอดภัยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องความปลอดภัยในชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุม จึงได้กำหนดเส้นทางฉุกเฉินทางด้านการแพทย์ โดยขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม หรือประชาชนทั่วไปว่าตำรวจจราจร จะดำรงเส้นทางไว้สำหรับกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ใช้เวลาจากจุดเกิดเหตุไปโรงพยาบาลโดยใช้เวลาน้อยที่สุด
กรณีมีการชุมนุมบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หรือสนามหลวง เส้นทางที่กำหนดไว้ คือ ถนนพระอาทิตย์ ไปโรงพยาบาลกลาง ในส่วนทางด้านทิศใต้เส้นทางที่กำหนดไว้ คือ ถนนสนามไชย ไปโรงพยาบาลกลาง
กรณีมีการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีประชาธิปไตย เส้นทางที่กำหนดไว้ คือ ถนนดินสอ ทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ เข้ามาทางโรงเรียนสตรีวิทยา หรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปโรงพยาบาลกลาง
กรณีมีการชุมนุมบริเวณแยก จปร.เส้นทางที่กำหนดไว้ คือ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ และถนนจักรพรรดิพงษ์ ไปโรงพยาบาลกลาง
กรณีมีการชุมนุมบริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ เส้นทางที่กำหนด คือ ถนนกรุงเกษม และถนนลูกหลวง ไปโรงพยาบาลกลาง
สำหรับสถานที่จอดรถของสื่อมวลชนได้กำหนดไว้บริเวณถนนราชินี ข้างโรงละครแห่งชาติทั้ง 2 ฝั่ง (โรงละครแห่งชาติ-สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า) สามารถรองรับรถบัสได้ถึง 30 คัน กรณีในวันที่ 20 กันยายน 2563 กลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะเคลื่อนที่ไปยังทำเนียบรัฐบาล เส้นทางที่อาจจะได้รับผลกระทบมี 9 เส้นทาง และ 2 สะพาน ประกอบด้วย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนตะนาว ถนนดินสอ ถนนจักรพรรดิพงษ์ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ถนนหลานหลวง สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และสะพานพระราม 8 เป็น 11 จุดที่ควรหลีกเลี่ยง
ในส่วนของเส้นทางแนะนำจะเป็นการเดินทางจากฝั่งพระนครไปฝั่งธนฯ และฝั่งธนฯไปฝั่งพระนคร ประกอบด้วย สะพานกรุงธน (ซังฮี้) สะพานพระพุทธยอดฟ้า สะพานพระปกเกล้า สะพานตากสิน ในส่วนของตนมีหน้าที่บริหารการจราจรและประสานฝ่ายความมั่นคงที่ บช.น.โดย พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.จร.บริหารจัดการจราจรรอบบริเวณพื้นที่การชุมนุม ประจำการที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) และ พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ รอง ผบก.น.1 ลงบริหารเหตุการณ์ในพื้นที่ชุมนุม
กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนที่มายังทำเนียบรัฐบาล ตำรวจได้เตรียมไว้ 2 เส้นทางสำหรับผู้ชุมนุม คือ ถนนราชดำเนินใน และถนนราชดำเนินกลาง จนมาถึงแยกผ่านฟ้า แยกออกเป็น 2 เส้นทาง คือ ถนนราชดำเนินนอก ผ่านแยก จปร.แยกมัฆวานรังสรรค์ หรือถนนนครสวรรค์ ผ่านสนามม้านางเลิ้ง แยกสะพานเทวกรรมรังรักษ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานไปยังผู้นำชุมนุม ให้ทราบถึงเส้นทางที่ตำรวจได้กำหนดไว้ ทั้งการเดินทางทำเนียบรัฐบาลและเส้นทางฉุกเฉินทางการแพทย์
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ยุทธวิธีเคลื่อนที่แบบดาวกระจายนั้น ขณะนี้ตำรวจเตรียมความพร้อมเรื่องการจัดระบบการจราจร 3 ระดับ การเตรียมความพร้อมด้านการจัดการจราจรทั่วทุกพื้นที่ ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ภายในรวมถึงภายนอกด้วย นอกจากนี้ ผบก.จร.ได้เสริมกำลังตำรวจจราจรด้วย ถึงแม้ใช้ยุทธวิธีดาวกระจายจุดไหนถ้าเข้าหลักการว่า แค่กระทบบางส่วนตำรวจก็อนุญาตให้ไป แต่หากเต็มพื้นที่ก็จะพิจารณาปิดการจราจร ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางมาถึงทางแยก
“เส้นทางที่เป็นห่วงมากที่สุด คือ ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง และถนนราชดำเนินการนอก ถือว่าเป็นเส้นทางหลักที่ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศว่าจะใช้เส้นทางดังกล่าว ในการเคลื่อนที่ไปยังทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ คือเส้นทางที่เชื่อมต่อกับถนนราชดำเนินทั้ง 3 แห่ง มีทั้งหมด 9 เส้นทางและ 2 สะพาน อาจจะได้รับผลกระทบ ถ้าไม่จำเป็นผู้สัญจรก็ควรหลีกเลี่ยง”
ทั้งนี้ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเรื่องโควิด-19 แล้วประสานไปยังผู้นำชุมนุมนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ได้ประชุมวานนี้ (17 กันยายน 2563) จุดคัดกรองก็จะมีในส่วนโควิด-19 ในส่วน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีจุดคัดกรองทั้งหมด 4 แห่ง หากมีการชุมนุมในพื้นที่อื่นก็จะมีการปรับจุดคัดกรอง
“นอกจาก พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่จะนำใช้ควบคุมการชุมนุมขึ้นอยู่กับลักษณะของการกระทำความผิด อาทิ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ร.บ.รักษาความสะอาด รวมทั้งการกระทำความผิดเรื่องประมวลกฎหมายอาญา และโทรคมนาคม หากเข้าองค์ประกอบใดพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการ เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุม ได้ขออนุญาตขอให้พื้นที่ชุมนุมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในส่วนของสนามหลวงยังไม่ได้มีการขออนุญาต” รอง ผบช.น. กล่าว
ทั้งนี้ การจะเคลื่อนขบวนจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปยังทำเนียบรัฐบาลต้องแจ้งทางตำรวจ และการเคลื่อนขบวนในลักษณะของการกีดขวางการจราจรต้องได้รับอนุญาตก่อน ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากผู้นำชุมนุม นอกจากนี้ ได้เตรียมกำลังตำรวจไว้ทั้งหมด 57 กองร้อย หรือประมาณ 8,550 นาย ทั้งหมด 14 จุด เริ่มตั้งแต่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปจนถึงทำเนียบรัฐบาล โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 6 ผลัด ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ในวันพรุ่งนี้ (19 กันยายน 2563) ถึงเวลา 14.00 น. ของวันที่ 20 กันยายน มีจุดที่วางกำลังเป็นพิเศษ 4 กองร้อย 1 จุด คือ พระบรมมหาราชวัง และอีก 3 กองร้อย 4 จุด คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยก จปร.และสะพานมัฆวานรังสรรค์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี