‘โนอึล’ถล่ม10จว.
‘โคราช-บุรีรัมย์-อุบลฯ’หนักสุด
น้ำท่วมเมือง/วาตภัยซ้ำเติม
คลื่นซัดเรือประมงตรังจม4ลำ
ปภ.เร่งสำรวจให้ความช่วยเหลือ
อุตุฯเตือนภัยต้องระวังต่อเนื่อง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงาน 10 จังหวัดได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “โนอึล” พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนหลายจังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสภาวะน้ำท่วมขัง บ้านเรือนเสียหาย ต้นไม้, เสาไฟฟ้าหักโค่นขวางถนน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ขณะที่กรมอุตุฯ เผย 13 จังหวัดทั่วไทย ยังไม่พ้นความเสี่ยงถูกพายุพัดถล่ม
เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุ “โนอึล” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางพื้นที่ ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก วาตภัย และดินสไลด์ โดยมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา รวม 27 อำเภอ 40 ตำบล 52 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 102 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
เร่งประสานงานช่วยผู้ประสบภัย
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูง และเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึง แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
โคราชอ่วมน้ำท่วมขัง1-1.2เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมาฝนตกตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 กันยายน ตลอดทั้งวัน จนกระทั่งมาตกหนักรุนแรงในช่วงกลางดึกทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุด อาทิ หน้าประตูเข้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2, หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, สี่แยกไอที-ตลาดประปา, หน้าตลาดเซฟวัน, ตำบลบ้านใหม่, สามแยกหัวทะเล, ซอยท้าวสุระ 25 น้ำท่วมสูง 1 เมตร-1.20 เมตร., หมู่บ้านมงคลชัยนิเวศน์ 1 เมตร, ชุมชนหนองโสน, ชุมชนท้าวสุระ เป็นต้น รวมทั้งบ้านท่าจะหลุง อ.โชคชัยฯ ทำให้ฝายคันดินแตกทำให้น้ำบ่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรและเมื่อคืนก็ตกหนักน้ำท่วมซ้ำอีก บ้านเรือน 50 หลังจมน้ำ โดยช่วงฝนตกหนักประมาณ 1 ชม. น้ำท่วมขังอย่างรวดเร็วในทุกจุด
จนช่วงเช้าวันที่ 19 กันยายน ระดับที่ท่วมขังที่ยังทรงตัว โดยเฉพาะชุมชนท้าวสุระ ซอย 25 ศูนย์อนามัยชุมชนหัวทะเล น้ำท่วมสูงรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ โดยมีบ้านเรือนประมาณ 50 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน ระดับน้ำสูงขนาดหน้าอก ประมาณ 1 เมตร-1.20 เมตร มีระยะทาง 700 เมตร เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลหัวทะเลได้นำเรือท้องแบนมาให้การช่วยเหลือในการเข้า-ออก พร้อมทั้งมอบน้ำดื่ม
น้ำท่วมนาข้าวบุรีรัมย์กว่าพันไร่
ส่วนที่ จังหวัดบุรีรัมย์ มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.บ้านด่าน ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงกลางคืนวันที่ 17 กันยายน มาจนถึงวันที่ 18 กันยายน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร ถนนภายในหมู่บ้าน และฝายกั้นคันดินขาด ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยนาข้าวของเกษตรกร ใน 5 หมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมกว่า 1,000 ไร่ บ้านเรือนกว่า 10 หลังคาเรือน ถนนทางเข้าหมู่บ้าน 3 สาย สูงกว่า 50 เซนติเมตร บ้านโสน หมู่ 3 กับบ้านแคน หมู่ 7 และฝายกั้นน้ำคันดิน ถูกตัดขาดกว่า 10 แห่ง ใน 4 หมู่บ้าน ต้นไม้ใหญ่ ที่บ้านแคน หมู่ 7 หักโค่นทับสายไฟฟ้าแรงสูง ส่งผลทำให้ไฟฟ้าดับใน 7 หมู่บ้าน
มหาสารคามพายุพัดบ้านเรือนพังยับ
ที่บ้านนาอุดมหมู่ 16 ตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม บ้านเรือนราษฎรกว่า 20 หลังได้รับผลกระทบจากพายุโนอึล ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายอย่างหนัก แรงลมได้พัดหลังคาบ้านปลิวหายไปเกือบทั้งหมด รวมถึงเต็นท์ของหมู่บ้านที่ตั้งไว้เพื่อจัดการประชุมในหมู่บ้าน แรงลมได้พัดไปติดกับสายไฟฟ้า หลังคายุ้งฉางของชาวบ้านถูกยกออกปลิวไปไกลกว่า 10 เมตร สังกะสีปลิวพาดสายไฟ ทําให้ไฟดับทั้งหมู่บ้าน โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายเบื้องต้นมี 6 หมู่บ้านในตำบลหนองไฮ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักรวมบ้านเรือนราษฎรเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 หลังคาเรือน
ลพบุรีถูกฝนกระหน่ำทั้งคืน
ที่ จังหวัดลพบุรี น้ำป่าจากเทือกเขาไหลเข้าท่วม 3 หมู่บ้าน ตำบลมหาโพธิ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี ในขณะที่บริเวณหมู่ 7 มีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ภายหลังหลังจากไดมีฝนตกติดต่อกันทั้งคืนที่ผ่านมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ 172 มิลลิเมตร ในพื้นที่ตำบลมหาโพธิ์ อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรีจน ทำให้ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม 7 หมู่บ้านในตำบลมหาโพธิ์ ที่หมูที่ 1-2-3-4-6-7 และหมูที่ 10 ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 300 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร โดยหนักที่สุดอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 7 บ้านมหาโพธิ์ น้ำท่วมสูงประมาณ 50 เมตร โดยเฉพาะที่วัดหาโพธิ์ และที่ ร.ร. ซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำปริมาณน้ำประมาณ 60 ซม.
อ่างทองต้นไม้หักโค่นหลายจุด
ที่ จ.อ่างทอง โดยเมื่อคืนวันที่ 18 กันยายน ได้เกิดฝนตกกระจาย ลมกระโชกแรง ในพื้นที่ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ต้นไม้หักโค่นทับรถยนต์เสียหายบางส่วน โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการเข้าช่วยเหลือตัดกิ่งไม้ที่โค่นล้มช่วยเหลือประชาชน นอกจากนั้นยังมีรายงานต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ขณะที่สถานการณ์ฝนเมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 กันยายน ปริมาณฝนเริ่มเบาบาง และท้องฟ้ายังมือครึ้ม คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นตามลำดับ
พังงาคลื่นลมแรงน้ำทะเลท่วมท่าเรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพคลื่นลมแรงสูงกว่า 2 เมตร และน้ำทะเลหนุนสูง ที่บริเวณท่าเรือบ้านน้ำเค็ม อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ส่งผลทำให้น้ำทะเลได้พัดขึ้นมาบริเวณลานจอดรถที่นักท่องเที่ยวและประชาชนไว้จอดรถระหว่างรอข้ามเรือไปยังตำบลเกาะคอเขา จนสร้างความเดือดร้อนไม่สามารถนำรถมาจอด ขณะที่ผู้ประกอบการเรือข้ามฟากที่บ้านน้ำเค็ม ไปยังเกาะคอเขา ที่บริการนักท่องเที่ยวต้องหยุดเดินทาง พร้อมกับนำเรือไปจอดหลบลมตามคลองในหมู่บ้านช่วงที่ฝนตกหนักคลื่นแรง และเพิ่มระมัดระวังเป็นพิเศษ
เรือประมงตรังจมแล้ว4ลำ
ส่วนที่จังหวัดตรัง คลื่นลมในทะเลยังสูงและแรงต่อเนื่อง ชาวประมงพื้นบ้าน ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ พยายามฝ่าคลื่นลมออกไปช่วยดึงเรือ 2- 3 ลำ ที่กำลังถูกคลื่นซัดอย่างหนัก เพราะเกรงว่าเรือจะต้านแรงคลื่นไม่ได้ ถูกซัดจมทะเลไปอีก หลังจากวานนี้มีเรือถูกคลื่นสูงซัดจมทะเลไปแล้ว 2 ลำ และจนถึงขณะนี้ยังกู้เรือขึ้นมาไม่ได้ โดยมีรายงานว่า มีเรือประมงชายฝั่งจมทะเลแล้ว 4 ลำ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรังได้ออกประกาศแจ้งเตือนเรือทุกชนิดให้ระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง รวมทั้งเรือโดยสารควรหยุดวิ่งรับส่งผู้โดยสารเป็นการชั่วคราว จนกว่าคลื่นลมจะสงบ
อุตุฯประกาศเตือนน้ำท่วมฉับพลัน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ “พายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) “โนอึล” (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 20 กันยายน 2563)” ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 19 กันยายน 2563 โดยระบุว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 กันยายน 2563 พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) “โนอึล” ที่ปกคลุมบริเวณอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณจังหวัดพิษณุโลกแล้ว ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของประเทศไทยและด้านรับลมมรสุมของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
คาด13จว.ทั่วไทยเสี่ยงฝนถล่มหนัก
สำหรับการคาดการณ์ในวันที่ 20 กันยายน พื้นที่ที่คาดว่าจะยังคงมีฝนตกหนัก ได้แก่ ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกำแพงเพชร, ภาคกลาง: ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี และชัยนาท, ภาคตะวันออก: จันทบุรี และตราด, ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และระนอง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังและงดเดินเรือจนถึงวันที่ 20 กันยายน
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด สามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี