เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2563 นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบหลังจาก ยกเลิกสัญญากับคลินิกชุมชนอบอุ่นและโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร( กทม.) จำนวน 64 แห่ง ที่กระทำผิดในการเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ว่า ในส่วนของผู้ป่วยโรคเอดส์ (HIV/AIDS) มีทั้งหมด 2,166 ราย สามารถเข้าใช้บริการในศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม.37 แห่ง โรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ 8 แห่ง
โรงพยาบาลภาครัฐทุกแห่ง ตลอดจนโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะและโรงพยาบาลแพทย์ปัญญา เพื่อรับการรักษาต่อไป โดย สปสช.จะออกหนังสือขอความร่วมมือกับหน่วยบริการให้จัดบริการให้ และผู้ป่วยโรคเอดส์สามารถไปรับยาที่ไหนก็ได้ ส่วนประเด็นเรื่องความต่อเนื่องในการใช้ยาต้านไวรัสนั้น ทาง สปสช.ได้หารือกับเครือข่ายผู้ติดเชื้อ HIV แล้วเห็นว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้จะรู้สูตรยาที่ตนเองใช้อยู่แล้ว อีกทั้งจะมียาตัวอย่างและซองยาให้แพทย์ทราบด้วย
"ขณะเดียวกัน สปสช.จะประสานผู้เกี่ยวข้องให้ทำการ stock (สำรอง) ยาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันปัญหาผู้ป่วยถูกเรียกเก็บเงินหากยาที่เบิกผ่านระบบ VMI ของหน่วยบริการไม่เพียงพอจนต้องใช้ยาที่โรงพยาบาลซื้อเอง ทั้งนี้หากผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีปัญหาในการรับบริการ สามารถติดต่อที่สายด่วน 1663 ปรึกษาเรื่องเอดส์และท้องไม่พร้อม ทุกวัน 09.00 - 21.00 น.หรือเฟสบุ๊คเพจ 1663เพื่อประสานการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่อไป" นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของผู้ป่วยโรคไตซึ่งมีอยู่ 295 รายนั้น ให้โรงพยาบาลที่ถูกยกเลิกสัญญาส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช.เป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ดี ในส่วนของหน่วยบริการที่ถูกยกเลิกสัญญา แต่มีสัญญาให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแยกออกจากสัญญาให้บริการสาธารณสุขก็สามารถทำการรักษาที่หน่วยบริการนั้นต่อไปได้
ขณะเดียวกัน ในกลุ่มผู้ป่วยที่นัดผ่าตัด ทาง สปสช.ได้ขอข้อมูลโรงพยาบาลที่ถูกยกเลิกสัญญาแล้ว เพื่อให้ทราบจำนวนและโรคที่ต้องผ่าตัดและได้ประสานกับโรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพ เบื้องต้นขณะนี้ได้ประสานกับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และโรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับในขณะนี้ มีผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจก 15 ราย ผ่าตัดข้อเข่า 19 ราย ผ่าตัด OB-GYN หรือการผ่าตัดสูติ-นรีเวชกรรม อีก 3 ราย และศัลยกรรมทั่ว 18 ราย
ทั้งนี้ สปสช.ย้ำว่า สิทธิการรักษาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของประชาชน 8 แสนราย ที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญากับสถานพยาบาลข้างต้นยังคงอยู่ โดยในช่วงที่ สปสช.กำลังจัดหาหน่วยบริการแห่งใหม่ทดแทนนั้น ผู้ที่เจ็บป่วยทั่วไปหรือมีแผนการรักษาพยาบาลกับหน่วยบริการทั้ง 64 แห่งดังกล่าว สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลต่อเนื่องได้ที่โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว และกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติก็สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลได้ทุกแห่งเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'สปสช.'ยันยกเลิก64คลินิก-รพ. กระทบปชช.แค่8แสนรายในกทม. เร่งหาที่อื่นทดแทน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี