nn สุดท้ายก็มีการร้องขึ้นมาจริงๆ ตามคาด กรณีผู้ชุมนุมได้มีการปักหมุดเลียนแบบคณะราษฎรที่ครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 กระทำไว้ ซึ่งว่ากันว่าปัจจุบันได้หายสาบสูญไปแล้ว สาเหตุการร้องเรียนร้องทุกข์เพราะอ้างว่ามีการบุกรุกและทำลายทรัพย์สินทางราชการหลายอย่าง รวมตลอดทั้งการฝ่าฝืนกฎหมาย แน่นอนเมื่อพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพระนคร และมีผู้ร้องต่อเขต ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ ผอ.เขต จะต้องรับเรื่องไว้พิจารณา ขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เตรียมดำเนินคดีกับผู้นำชุมนุมเช่นกัน อย่างไรก็ตามงานนี้หากว่ากันตามเนื้อผ้าถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลายอย่างเมื่อเอากฎหมายเข้ามาจับผลของการกระทำทุบโต๊ะได้ว่าหลายอย่างผิดกฎหมายจริงซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวโดยหลักไม่ว่าใครฝ่ายไหนจะตกมันออกมากระทำล้วนหนีพ้นกฎหมาย เว้นเสียแต่ว่าจะมีการล้างโทษล้างมลทินเสียภายหลัง...
nn สำหรับกระแสข่าวการวิพากษ์วิจารณ์ว่า “หมุดคณะราษฎร” ของเดิมที่เคยฝังไว้และหายไปหากใครทำก็เข้าข่ายความผิดไม่แตกต่างกัน มันอยู่ที่ว่าใครจะสำนึกรู้เท่านั้นว่าจะร้องเรียนกล่าวโทษหรือไม่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการชุมนุมข้างต้นส่งผลหนักอกหนักใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างมาก เนื่องจากวิธีการหลายอย่างฝ่าฝืนกฎหมาย...
nn ทำนองเดียวกันเรื่องของการฝ่าฝืนกฎหมายนั้นถ้าจะว่าและพูดกันตรงๆ โดยเฉพาะประเด็นการชุมนุมต่างๆ ไม่มีกลุ่มใดคณะใดทำถูกกฎหมาย เริ่มต้นตั้งแต่การขออนุญาตว่าจำกัดอยู่บริเวณไหน ใครเป็นผู้นำ จะชุมนุมกันกี่วัน ต้องไม่มีการเคลื่อนย้าย ต้องไม่ปิดถนน ขออนุญาตใช้เครื่องเสียงหรือไม่ ฯลฯ และกฎระเบียบอีกมากมายที่จะต้องปฏิบัติตาม แต่เอาเข้าจริงไม่ว่าการชุมนุมครั้งไหน กลุ่มใดใครกระทำ กฎที่วางไว้อย่าพูดเอาดีใส่กะโหลกตัวเองฝ่ายเดียว ล้วนถูกละเมิดเหมือนกัน ดังนั้นเรื่องการชุมนุมไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศใด ภาวะผิดกฎหมายจะเกิดขึ้นมาพร้อมกันเสมอแยกกันไม่ออก...
nn สำหรับการชุมนุมเรียกร้องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ดูตามรูปการณ์แล้วยังคงตั้งเค้าอุบัติต่อเนื่องทีเดียว จึงอธิบายได้ “คม ชัด ลึก” ว่า ฝ่ายที่น่าเห็นใจอึดอัดใจที่สุด คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะต้องทำงานท่ามกลางความกดดันสาหัสทีเดียว...
nn ปิดท้ายด้วยเรื่องการเข้มงวดกับพื้นที่อย่างหนักของเขตสัมพันธวงศ์ ที่มุ่งเน้นจัดระเบียบเข้มข้น โดยเฉพาะริมคลองโอ่งอ่างที่เมื่อก่อนมีแต่ความสกปรกโสโครก ทว่าวันนี้สภาพทั่วไปดูดีมีเกรดขึ้นทันตาเห็น เนื่องจากเขตหมายปลุกเสกริมคลองเป็นถนนคนเดินเพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปพักผ่อนใช้สอย แต่ต้องยอมรับว่ากว่าคลองโอ่งอ่างจะดูดีมีราคาเหมือนปัจจุบัน ผู้บริหารจะต้องใช้ความกล้าหาญ “ตอกตะปูปิดฝาโลง” กันจริงจังและเด็ดขาด ชนิดปล่อยเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...
nn วันนั้นถ้าคนที่ชื่อ สุขุมพันธุ์ บริพัตร ปวกเปียก นายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม.ไ ม่คุมเข้มสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง (ขณะเป็นรองผู้ว่าฯกทม.) ผู้ดูแลเทศกิจไม่เกาะติดติวเข้ม คลองโอ่งอ่าง ก็คงเป็นได้แค่คลอง “อึ่งอ่าง” สกปรกสืบไปไม่สิ้นสุด...nn
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี