นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)เปิดเผยว่า สศก.ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ร่วมกับทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนนโยบายเกษตรอินทรีย์ และทบทวนสาระสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560-2564 ปรับเปลี่ยนไปสู่แผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2560-2565 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดจัดทำแผนภายใต้ยุทธศาสตร์ชาตินั้น ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ได้ให้ความเห็นชอบปรับปรุงยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ 2560 - 2564 เป็นแผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2560 – 2565เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแผนปฏิบัติการดังกล่าว มีเป้าหมายอัตราขยายตัวของมูลค่าสินค้าเกษตรอินทรีย์เฉลี่ยร้อยละ 3ต่อปี ขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านไร่ และจำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ ไม่น้อยกว่า 80,000 รายภายในปี 2565 มีประเด็นพัฒนา 3 ด้าน ได้แก่ ประเด็นพัฒนาที่ 1 ส่งเสริมการวิจัย พัฒนาฐานข้อมูล และเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ประเด็นพัฒนาที่ 2 พัฒนาการผลิตและบริหารจัดการเกษตรอินทรีย์ ประเด็นการพัฒนาที่ 3 พัฒนาการตลาด บริการและมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
สำหรับปีงบประมาณ 2564 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะยังคงบูรณาการขับเคลื่อนด้านเกษตรอินทรีย์กับกระทรวงต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนดำเนินงานมากกว่า 200 โครงการ งบประมาณ 1.9 พันล้านบาท ซึ่งจากการดำเนินงานช่วงที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า การส่งเสริมการบริโภคเกษตรอินทรีย์ นับว่าประสบความสำเร็จมาก อาทิ โครงการโรงพยาบาลอาหารปลอดภัย ที่กระทรวงเกษตรฯร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อขยายการบริโภคเกษตรอินทรีย์ให้โรงพยาบาล และสถานบริการสาธารณสุข ซึ่งในปี 2560-2562 ดำเนินการไปแล้วในพื้นที่โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขรวม 896 แห่ง โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง 780 แห่ง นอกจากนี้ ยังขยายการบริโภคเกษตรอินทรีย์ไปยังกลุ่มโรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการอาหารกลางวันปลอดภัย ปลอดสารพิษ ป้องกันโรคให้นักเรียน และเดินหน้าขยายผลไปกลุ่มโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหาร ตลอดจนส่งเสริมเกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์ และเปิดตลาดสีเขียวขายผักปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี 2560-2564 (1 ล้านไร่) เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรผลิตข้าวอินทรีย์ตามมาตรฐานข้าวอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรฯ และขยายพื้นที่ผลิตข้าวให้ได้การรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ Organic Thailand โดยช่วงที่ผ่านมา 2560-2562 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 5,818 กลุ่ม เกษตรกร 130,082 ราย รวมพื้นที่ 1.21 ล้านไร่ มีเกษตรกรผ่านเกณฑ์ประเมินแล้ว 4,873 กลุ่ม เกษตรกร 103,492 ราย พื้นที่ 0.922 ล้านไร่ ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรอยู่ในระยะปรับเปลี่ยน 4,034 กลุ่ม 85,762 ราย 0.74 ล้านไร่ และมีเกษตรกรได้รับรองการผลิตข้าวอินทรีย์ 839 กลุ่ม 17,730 ราย ในพื้นที่ 0.182 ล้านไร่
ดังนั้น จึงขอเชิญทุกคนร่วมส่งเสริมสินค้าเกษตรอินทรีย์ ด้วยการอุดหนุนบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น นอกจากจะช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทยให้หันมาปลูกพืชเกษตรอินทรีย์แล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพและสมดุลของทรัพยากรในระบบนิเวศโดยรอบ อีกทั้ง ตลาดเกษตรอินทรีย์ทั่วโลกให้ความสนใจนิยมบริโภค มูลค่าตลาดโลกสูงถึงปีละ 3.55 ล้านล้านบาท และขยายตัวต่อเนื่องทุกปี ปัจจุบันไทยมีมูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์ 3,000 ล้านบาท เป็นการบริโภคในประเทศ 900 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 2,100 ล้านบาท ซึ่งไทยได้รับการยอมรับว่ามีศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้มาตรฐาน มีความพร้อมทางภูมิศาสตร์และโลจิสติกส์ ยกระดับสู่ผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ของภูมิภาคอาเซียนได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี