ห้องประชุมสารสิน อาคารสิริคุณากร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้าง และสัญญาจ้างผู้ควบคุมงานก่อสร้าง โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการการแพทย์ชั้นเลิศ โรงพยาบาลศรีนครินทร์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย มีรศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้แทนลงนาม กับนายคูชรู คาลี วาเดีย ตัวแทนของ บริษัทคริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทก่อสร้าง
ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า โครงการนี้นับเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีวงเงินในการก่อสร้างร่วม 4,000 ล้านบาท เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นอีก 120,000 ตารางเมตร ทำให้สามารถขยายบริการทางการแพทย์โดยมีเตียงผู้ป่วยในได้เพิ่มอีกกว่า 600 เตียง มีห้องผ่าตัดเพิ่มอีก 25 ห้อง และห้อง ICU อีก 117 เตียง นอกจากนี้ในโครงการดังกล่าวยังมีเรือนพักญาติอีก 400 ยูนิต, และอาคารจอดรถอีก 1,000 คัน นอกจากการขยายบริการทางการแพทย์แล้วยังทำให้สามารถเพิ่มการผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อีกปีละ 150 คน สามารถขยายการสร้างงานวิจัย และนวัตกรรมทางการแพทย์อีกจำนวนมากนับเป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมถึงภูมิภาคข้างเคียงได้อีกด้วย
ดร.ณรงค์ชัยกล่าวต่ออีกว่า โครงการดังกล่าวจะก่อสร้างบนพื้นที่ประมาณ 32 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น 8 ไร่ และเป็นพื้นที่ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานน้ำบาดาลเขต 4 ขอนแก่น 24 ไร่ ซึ่งได้คืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์เพื่ออนุญาตให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ใช้ก่อสร้างโครงการโดยมีบริษัทสถาปนิก 110 จำกัด เป็นผู้ออกแบบ และบริษัทเอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาบริหารโครงการ
ด้านรศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข.กล่าวว่า โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศ จะทำให้โรงพยาบาลศรีนครินทร์มีเตียงผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นอีกกว่า 600 เตียง ปัจจุบันโรงพยาบาลศรีนครินทร์มีเตียงผู้ป่วยใน 1,400 เตียง การลงนามก่อสร้างครั้งนี้ เป็นการขยายระยะที่ 1 อีก 622 เตียง เมื่อสร้างเสร็จจะรวมกับของเดิมเป็น 2,000 เตียง ส่วนแผนไปโครงการก่อสร้างระยะที่ 2 เป็นอาคารสูง 30-35 ชั้น เพิ่มเตียงคนไข้อีก 1,500 เตียง รวมเป็น 3,500 เตียง และระยะที่ 3 จะสร้างเป็นอาคารสูงเหมือนระยะ 2 เพิ่มอีก 1,500 เตียง รวมเป็น 5,000 เตียง
ขณะที่ รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่าโครงการก่อสร้างศูนย์บริการความเป็นเลิศคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น นับเป็นอีกความก้าวหน้าของวงการสาธารณสุข ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและระดับประเทศ ให้บริการประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัดโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข. มีความมุ่งมั่นจะขยายบริการ ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มจำนวนเตียงและห้องผ่าตัดเพิ่มเท่านั้น แต่มีศูนย์พัฒนาความเป็นเลิศต่างๆ เพิ่ม ทั้งศูนย์โรคมะเร็งท่อน้ำดี ศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน ศูนย์โรคในทารกแรกเกิด ศูนย์การปลูกถ่ายอวัยวะและศูนย์วิจัยต่างๆ ส่วนขั้นตอนด้านการก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปลายปี 2563 นี้ ระยะเวลาในการก่อสร้างศูนย์บริการการแพทย์ชั้นเลิศ น่าจะใช้เวลาประมาณ 43 เดือน คาดว่าโครงการในเฟสแรกจะแล้วเสร็จและให้บริการรักษาผู้ป่วยได้ประมาณปี 2567 นี้
สำหรับบริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น ในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2473 ชื่อเดิม บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (สยาม) จำกัด มีส่วนร่วมในการออกแบบ และก่อสร้างโครงการที่สำคัญๆ ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศ อาทิ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยท่าเทียบเรือคลองเตย สะพานกรุงเทพข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และสะพานสารสินที่ภูเก็ต ฯลฯ รวมทั้งขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานขอนแก่นมูลค่า 2,250 ล้านบาท ปัจจุบัน คริสเตียนีและนีลเส็น ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยชื่อ “บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน)” เมื่อปี พ.ศ. 2535 รวมระยะเวลาดำเนินธุรกิจก่อสร้างมากว่า 87 ปี
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี