ณกรณ์ ตรรกวิรพัท
กยท.เผยการระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดมีความต้องการใช้ถุงมือยางธรรมชาติ เพื่อสุขอนามัยเพิ่มขึ้น ผนวกกับความต้องการใช้ยางแผ่นดิบจากประเทศจีนมีแนวโน้มที่ดีส่งผลให้ราคายางเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ เตรียมหนุนเกษตรกร สถาบันเกษตรกรก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแปรรูปยางอย่างครบวงจร
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคายางว่า ขณะนี้ราคาแผ่นดิบรมควันน้ำยางสดและยางก้อนถ้วย มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีเสถียรภาพตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ปัจจัยเกิดจากกระแส New Normalที่คนหันมาตระหนักเรื่องสุขอนามัยจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้มีการใช้ถุงมือยางและหน้ากากอนามัยที่ใช้ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในวงการแพทย์และชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะถุงมือยางธรรมชาติที่มีอัตราความต้องการใช้สูงขึ้นเป็นทวีคูณ โดยช่วงก่อนมีการระบาด มูลค่าการส่งออกถุงมือยางประมาณ 37,000 ล้านบาทต่อปี แต่ปัจจุบันมีความเป็นไปได้ที่มูลค่าการส่งออกจะเพิ่มถึง 50,000 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดผู้รับซื้อยางแผ่นดิบรมควันรายใหญ่ของไทย มีมาตรการสนับสนุนการขยายกำลังการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและส่งเสริมการใช้รถยนต์ส่วนตัวบุคคลแทนการใช้รถสาธารณะ เพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 จะเห็นได้ชัดจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Purchasing Managers’ Index : PMI) ของประเทศจีนปรับจาก 52.8 เป็น 53.1 ทำให้ยอดสั่งซื้อยางแผ่นดิบรมควันเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตล้อยางและชิ้นส่วนต่างๆจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับรัฐบาลยังมีมาตรการส่งเสริมการใช้ยางแผ่นดิบรมควันในประเทศอีกด้วย ราคายางจึงมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันประชากรโลกในปัจจุบันจำนวนผู้สูงอายุมีมากขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้อุปกรณ์เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตประจำวันที่ใช้น้ำยางเป็นวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นยางรองกันลื่น รองเท้ากันลื่น อุปกรณ์ช่วยหายใจ สายน้ำเกลือ เพิ่มขึ้น เป็นต้น ดังนั้น ความต้องการใช้ยางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปจึงมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน และยังส่งผลให้มีนักลงทุนจำนวนมากสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปอุปกรณ์ดังกล่าวอีกด้วย
“ขณะนี้อุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข การป้องกันโรค เครื่องมือทางการแพทย์ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากเนื่องจากเห็นแนวโน้มความต้องการใช้งานที่สูงขึ้น กยท.จึงมีแผนที่จะสนับสนุนเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางให้เป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแปรรูปยาง โดยจะสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ลดหย่อนภาษีนำเข้า ยกเว้นอากรวัตถุดิบเพื่อการวิจัยพัฒนา พร้อมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ในการช่วยผลักดันตลาดโลกให้เกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ยางไทย ตลอดจนการวิจัยการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางพาราให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในเรื่องสุขอนามัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ดี และประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ราคายางในประเทศปรับตัวขึ้นอย่างมีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างแน่นอน” นายณกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ หากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง สนใจเริ่มธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ หรือต่อยอดจากของเดิม สามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนได้ที่ กยท.ที่อยู่ใกล้บ้านทั่วประเทศ
ผู้ว่าการกยท. กล่าวย้ำด้วยว่า ภายหลังจากเกิดวิกฤติการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากยางธรรมชาติมีอัตราเติบโตสูงขึ้น คาดว่า ในปีนี้มูลค่าการส่งออกยางของไทยจะสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และในอนาคตมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมยางจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตถุงมือยางธรรมชาติที่มียอดสั่งซื้อไปจนถึงปีหน้า ดังนั้น แนวโน้มทิศทางราคายางจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อเกษตรกรชาวสวนยางโดยตรง และกยท.จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมยางทั้งระบบเพื่อมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และผลักดันให้อุตสาหกรรมยางในประเทศไทยมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี