สาธารณสุขเมียนมายืนยันผลตรวจหนุ่มวัย 17 ปีชาวพญาตองซู ติดเชื้อโควิด-19 กักตัวกลุ่มเสี่ยงอีก 33 ราย ทั้งยังพบชายอายุ 54 ปีชาวพะอานป่วยเพิ่ม ขณะที่ชาวบ้านพระเจดีย์สามองค์เครียดเจอไวรัสมรณะจ่อหน้าประตูด่านหลังยังพบเห็นชาวพม่าลักลอบข้ามแดนเข้ามาอยู่เป็นประจำ
จากกรณีนายโอ๊ก กะ โทน ชาวเมียนมา อายุ 17 ปี อาศัยอยู่หมู่บ้านยัวติ๊ด ห่างจากตัวอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรก ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจะอินสะจี จ.พะอาน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด จำนวน 33 ราย กักตัวเป็นเวลา 14 วัน อยู่ที่โรงเรียนระดับชั้นมัธยม เขตหมู่ 1 อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ตรงข้ามกับซอยพานิช 2 บ้านพระเจดีสามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี โดยข้อมูลถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 21 ก.ย.63 ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 22 ก.ย.63 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี มีประกาศคำสั่งจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3719/2563 เรื่อง การระงับใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นเวลา 14 วัน
ผู้ใดฝาฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2563 จนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2563 สั่ง ณ วันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2563
โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย.63 ที่ผ่านมา นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.ต วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี ได้ลงพื้นที่จุดผ่อนปรนชั่วคราวด้านการค้า บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี และได้มีโอกาสพูดคุยกับนายอูโซโม นายอำเภอพญาตองซู รวมทั้ง พ.ต.อ่องเยชัน รักษาการผู้บัญชาการกองพันทหารราบที่ 32 และเจ้าหน้าที่ฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งทางการเมียนมายังไม่ยืนยันว่านายโอ๊ก กะโทน อายุ 17 ปี นั้นติดเชื้อโควิด-19 ตามที่ปรากฎตามข่าวของสื่อมวลชน
ล่าสุดวันนี้ 25 ก.ย.63 พบว่า ตารางรายงานสถานการณ์โควิด-19 ของสาธารณสุขประเทศเมียนมา มี 2 ตาราง คือตารางที่ 1 ตัวอักษรสีแดง คือผู้พบเชื้อโควิด-19 ลำดับที่ 1 คือนายโอ๊ก กะ โทน อายุ 17 ปี ที่เป็นข่าว ซึ่งขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขประเทศเมียนมายืนยันแล้วว่าพบเชื้อ โควิด 19 ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาลจะอินสะจี จ.พะอาน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง และลำดับที่ 2 คือผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นชาว จ.พะอาน อายุ 54 ปี
ส่วนตารางที่ 2 ลำดับที่ 1-10 เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยที่ จ.พะอาน ตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 ลำดับที่ 11-12 เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยมาจากที่อื่น ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ ลำดับที่ 13-14 คือเจ้าหน้าที่มูลนิธิเมียนมาเรสคูว ที่นำตัวนายโอ๊ก กะ โทน ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลในครั้งแรก คณะแพทย์ได้ตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบเชื้อเช่นกัน
ส่วนคนที่สัมผัสกับนายโอ๊ก กะ โทน จำนวน 33 คน ที่กักตัวอยู่ที่โรงเรียนมัธยม เขตหมู่ 1 อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา เป็นเวลา 14 วัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ตรงข้ามกับซอยพานิช 2 บ้านพระเจดีสามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ยังไม่ออก ต้องรออีกประมาณ 2-3 วัน
ทั้งนี้ นางดา ไม่มีนามสกุล ชาวบ้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งมีบ้านอยู่ติดชายแดนเมียนมา เปิดเผยว่า รู้สึกกังวลกับเหตุการณ์ที่พบผู้ป่วยในพื้นที่พญาตองซู เนื่องจากทุกวันนี้ยังคงพบเห็นชาวเมียนมาลักลอบข้ามแดนเข้ามาอยู่เป็นประจำจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ เข้ามาปิดช่องทางและจัดเวรยามอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี