จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร ขณะที่พบว่าประชาชนส่วนน้อยประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยวซึ่งมีรายได้ที่ค่อนข้างจะสูงกว่า ซึ่งทางจังหวัดได้ให้ความสำคัญในเรื่องการท่องเที่ยวเป็นอันดับแรกๆ แต่ไม่ทิ้งภาคการเกษตรของจังหวัด ว่าจะทำอย่างไรให้อาชีพการเกษตรหนุนเสริมภาคการท่องเที่ยวให้ได้ และก็พบว่า กาแฟ สามารถเป็นตัวกลางได้อย่างดี หลังพบว่าที่ผ่านมามีการนำเข้ากาแฟจากต่างจังหวัดในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 50 ตัน และเคยสูงสุดถึง 100 ตันต่อปี
จึงเกิดงานสัมมนาวิชาการ “การพัฒนากาแฟสู่ความมั่นคงทางการเกษตรและการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล” ขึ้นที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลาง
จังหวัดสตูล ที่ผ่านมา นอกจากการเสวนาเรื่อง “การผลิตและการตลาดกาแฟสู่การท่องเที่ยวจังหวัดสตูล”โดยมีนักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสตูล แล้ว ยังมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ผู้ประกอบธุรกิจกาแฟ จ.ยะลา มาร่วมแลกเปลี่ยนแล้ว ยังมีการเสวนาเรื่อง “มาตรฐานและการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์กาแฟเชื่อมโยงการท่องเที่ยว” การชมบูธนิทรรศการกาแฟ เจ้าดังโดยวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ เกี่ยวข้องการผลิตและแปรรูปกาแฟในจังหวัดสตูล
นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.สตูล กล่าวว่า เรื่องกาแฟสำหรับจังหวัดสตูลไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการปลูกมาตั้งแต่โบราณกว่า 100 ปี โอกาสทางการตลาดยังมีอยู่สูงและยังพบว่ามีหลายกลุ่มแปรรูปกาแฟ โดยไปรับที่อื่นมากลับพบว่าทำไมสตูลไม่มีการผลิตทั้งที่เป็นโอกาสในการผลิตเลยมีการจับเรื่องนี้ขึ้นมา พบว่ามีความก้าวหน้า แม้เขาทำมาตลอดแต่ยังไม่เป็นระบบ มีกลุ่มแปรรูป และกลุ่มจำหน่ายและฐานข้อมูลที่ชัดเจน ทำให้ต้องมีการแก้ปัญหาปริมาณ และคุณภาพ ตั้งแต่ต้นทาง ปลายทาง โดยมาจับอย่างเป็นระบบต้นน้ำ ถึงปลายน้ำมีข้อมูลที่ชัดเจน ว่าใครปลูกใครแปรรูป ใครขายกาแฟ
ในส่วนภาครัฐต้องทำแบบบูรณาการ เกษตร จับมือพาณิชย์ อุตสาหกรรม วิทยาลัยชุมชน ท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเพื่อมาจัดงานครั้งนี้พร้อมที่จะช่วย นักวิชาการ ภาคการผลิตแปรรูป และภาคการตลาด พร้อมได้บรรจุเรื่องนี้ไว้ในวาระจังหวัดไว้แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นเรื่องของปากท้องไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนเข้ามาก็สามารถดำเนินการสานต่อได้เลย
นายวิฑูร อินทมณี เกษตรจังหวัดสตูล กล่าวว่า จังหวัดสตูลมีพื้นที่ทำการเกษตร 668,549 ไร่ มีครัวเรือนเกษตรกร 45,346 คน ส่วนใหญ่ปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน นาข้าวและสวนผลไม้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีความผันผวนของราคาสินค้าทำให้รายได้เกษตรกรลดลงขณะที่สัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่สถานการณ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง กลับพบว่า กาแฟ เป็นพืชพื้นถิ่นคู่วิถีชีวิตของคนสตูล เป็นพืชทางเลือกที่เกษตรกรสามารถปลูกแซมในแปลงปลูกพืชเศรษฐกิจและบริเวณสวนหลังบ้านได้ เพื่อเป็นรายได้เสริม ลดความเสี่ยงการผันผวนราคาเกษตรตกต่ำ อีกทั้งกาแฟเป็นพืชที่มีศักยภาพ สามารถแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม หนุนการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันสตูลมีเกษตรกรปลูกกาแฟ 268 ไร่ เกษตรกรจำนวน 623 ครัวเรือน ผลผลิตประมาณ 20 ตันต่อปียังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่ใช้มากถึง50 ตันต่อปี โดยเฉพาะในช่วงนักท่องเที่ยวชุกใช้กาแฟมากถึง 100 ตันต่อปีเลยทีเดียว
และเพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรมีทางเลือกในการเพิ่มรายได้สามารถทำคุณภาพชีวิตดีขึ้น จึงได้มีการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้ง สนง.เกษตรจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬา พัฒนาชุมชนจังหวัดสตูล เพื่อพัฒนากาแฟ สู่ความมั่นคงทางการเกษตรและการท่องเที่ยว ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้ เพิ่มทักษะในการผลิตกาแฟ สร้างมูลค่าและเพิ่มช่องทางการตลาดเพื่อรองรับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
พัชรี เกิดพรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี