เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่ามีรถขนสินค้าไปรอทำพิธีการส่งออกสินค้าเป็นจำนวนมาก หลังจากการที่ทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้เลิกการจำกัดจำนวนรถขนสินค้า หลังจากที่เคยกำหนดให้เพียงวันละ 6 คัน ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา และให้สามารถขนสินค้าได้อย่างไม่จำกัดจำนวนตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.นี้ เป็นต้นไป ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้ออกมาให้บริการและให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด และมีการใช้มาตรการใหม่ตามข้อตกลงไทย-เมียนมา ด้วยการเปลี่ยนคนขับกรณีจะข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมาก็ให้เปลี่ยนคนขับเป็นชาวเมียนมาแทน และหากรถจะข้ามเข้ามายังฝั่งไทยก็จะต้องเปลี่ยนคนขับเป็นคนไทยหรือชาวเมียนมาที่อาศํยอยู่ที่ อ.แม่สาย
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมจุดทำพิธีการ จุดพักคนขับที่รอการเปลี่ยน จุดลานจอดรถ การตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้น ฯลฯ ขณะที่สินค้าส่งออก จากประเทศไทยไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค พืชผัก หมู เนื้อ ปลา ฯลฯ และเริ่มมีประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ เตรียมทำเรื่องจะส่งออกไปเป็นจำนวนมากด้วย ทำให้มีแนวโน้มว่าจะมีการขนสินค้ากันเหมือนก่อนวันที่ 17 ก.ย.คือวันละประมาณ 400 - 500 เที่ยว สร้างมูลค่าการค้าชายแดนวันละประมาณ 30 - 50 ล้านบาท
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า จ.ท่าขี้เหล็ก เปิดเผยว่า จากการประชุมทีบีซีไทย-เมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวฝ่ายไทยได้มีตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมด้วย และผลการประชุมที่ได้ถือว่าบรรลุผลสำเร็จด้วยดีและเป็นที่พอใจตรงกับความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย โดยไม่จำกัดจำนวนรถและสัญชาติซึ่งในอัตรา 168 คัน ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ได้เคยมีคำสั่งตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 มาก่อนหน้านี้ถือว่าอยู่ในจำนวนที่ใช้ขนส่งกันอย่างเสรีอยู่แล้วจึงคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนกรณีการเปลี่ยนคนขับที่ด่านพรมแดนนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็ยินยอมให้มีการเปลี่ยนถ่ายคนขับเป็นคนในประเทศของตนต่อไปโดยจะปกิบัติเช่นนี้ต่อไปชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จะเบาบางลง
"ทางการท้องถิ่นเมียนมา ได้แจ้งขอให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมสินค้าประเภทพืชผัก เนื้อ หมู ปลา ฯลฯ ในช่วงนี้ด้วยซึ่งทางฝ่ายไทยก็รับจะนำมาดำเนินการให้ โดยหลังการหารือที่ จ.ท่าขี้เหล็ก แล้วทางทีบีซีฝ่ายไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดทำเอกสารกันตลอดทั้งวันเพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องด่านตรวจพืช สัตว์ และการประมง ด้วย นอกจากนี้ทางฝ่ายเมียนมา ยังขอให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมกับรถของประเทศเมียนมาที่ติดป้ายทะเบียนประเทศไทยแล้วตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ทำให้กลับมาต่อทะเบียนกับสำนักงานขนส่งในฝั่งไทยไม่ทัน ซึ่งทางด่านศุลกากรก็รับนำไปดำเนินการในเรื่องนี้แล้ว คาดว่าหลังจากนี้มูลค่าการค้าจะกลับมาคึกคักวันละ 30 - 50 ล้านบาท เหมือนเดิมต่อไป" น.ส.ผกายมาศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี