ศาลสั่ง‘วิระชัย’ส่งเอกสารเพิ่มคดีฟ้อง 8 ตร.สอบข้อเท็จจริงไม่ชอบ ปมคลิปเสียงยิงรถ‘บิ๊กโจ๊ก’
5 ตุลาคม 2563 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลนัดฟังคำสั่งในชั้นตรวจคำฟ้อง หมายเลขดำที่ อท.144/2563 ที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา อดีตรอง ผบ.ตร. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร , พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ต.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ, พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ , พ.ต.อ อุกฤษฏ์ ศรีเสือขาม , พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ , พ.ต.อ.สมเกียรติ ค้ำชู และ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยมเป็นจำเลย ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157
โจทก์ระบุฟ้องว่า จำเลยทั้งแปดเป็นเจ้าพนักงานและมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง จัดทำรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร (ขณะนั้น) ผู้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 24/2563 กรณีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับคลิปโทรศัพท์การสนทนาคนร้ายยิงรถยนต์ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” อดีต ผบช.สตม.ระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กับโจทก์
ศาลได้ตรวจฟ้องของโจทก์ ที่กล่าวหาว่า จำเลยทั้งแปดซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 24/2563 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ชอบ โดยสรุปรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงขัดต่อพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบเป็นเหตุให้โจทก์ถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 383/2563 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้โจทก์สำรองราชการตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 387/2563 แต่โจทก์ไม่ได้เสนอรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานการสอบสวนมาให้ศาลเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
ดังนั้นในชั้นนี้เพื่อให้ได้ความชัดแจ้งในข้อเท็จจริงแห่งคดี อาศัยอำนาจตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีการดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ข้อ 16 จึงเห็นควรมีหนังสือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งสำเนารายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ 24/2563 และสำเนารายงานการสอบสวนตามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ 383/2563 พร้อมสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องทุกฉบับต่อศาล ภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน นี้
นอกจากนี้ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้สำรองราชการโจทก์ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 387/2563 นั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาจึงให้โจทก์ยื่นคำแถลงว่า ได้มีการอุทธรณ์คำสั่งหรือฟ้องคดีต่อศาลปกครองหรือดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 387/2563 ดังกล่าวหรือไม่ หากมีให้โจทก์แถลงพร้อมกับส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาภายใน 30 วันนับแต่วันนี้ อีกทั้งให้มีหนังสือสอบถามพร้อมส่งสำเนาคำฟ้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ท. เพื่อตรวจสอบว่ามีการกล่าวหา จำเลยทั้งแปดในเรื่องเดียวกันกับที่โจทก์ยื่นฟ้องหรือไม่ แล้วแจ้งให้ศาลทราบเพื่อประกอบการพิจารณาภายในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งวันที่ 23 พฤศจิกายน นี้ เวลา 10.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี