ผู้ว่าฯอัศวิน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำฝั่งตะวันออก ยังรับไหว ไม่มีน้ำเหนือ-น้ำหนุน สู้แค่น้ำฝน
13 ต.ค.63 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร โดยมี คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตกลุ่มกรุงเทพตะวันออก ร่วมลงพื้นที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนมีนบุรี เขตมีนบุรี และสถานีสูบน้ำหนองจอก เขตหนองจอก
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำภายหลังลงพื้นที่ ว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ บริเวณประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนมีนบุรี เขตมีนบุรี ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักการระบายน้ำ และประตูระบายน้ำแสนแสบ-หนองจอก เขตหนองจอก ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน ในส่วนของประตูระบายน้ำแสนแสบ-หนองจอก มีเครื่องสูบน้ำกำลังสูบ 3 ลบ.ม./วินาที จำนวน 20 เครื่อง ขณะนี้ได้เดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 5 เครื่อง เพื่อระบายน้ำจากคลองแสบแสบ ออกแม่น้ำบางปะกง ไหลลงสู่อ่าวไทย กรุงเทพมหานครร่วมกับกรมชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม และมีหมู่บ้านจัดสรรอยู่บ้างที่ได้รับผลกระทบจากน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยประสานกรมชลประทานขอให้ลดบานประตูระบายน้ำลง เพื่อจำกัดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯในช่วงนี้ และเร่งสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำแสนแสบตอนหนองจอก เพื่อระบายน้ำออกไปทางคลองบางขนาก เพื่อให้พื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำในคลองต่างๆ ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ ระดับน้ำอยู่ที่ 1.24 เมตร ยังไม่ถึงขีดที่กำหนดสูงสุดไม่เกิน 1.30 เมตร อย่างไรก็ตามสถานการณ์ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีอยู่ กรุงเทพมหานครประชุมร่วมกับกรมชลประทานติดตามสถานการณ์กันทุกวันจันทร์เพื่อบริหารจัดการน้ำไม่ให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชน หากฝนไม่ตกลงมามากก็จะไม่เป็นปัญหา ขณะนี้เราสู้กับน้ำฝนเท่านั้น น้ำเหนือยังไม่ลงมา และน้ำหนุนจะมาช่วงเดือนพฤศจิกายนก็จะหมดฝนแล้ว กรุงเทพมหานครจะหาแนวทางป้องก้นไม่ให้เกิดผลกระทบหรือส่งผลกระทบน้อยที่สุดทั้งพื้นที่ชั้นนอกและพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ
สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน ได้มีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณฝนสะสมมากกว่า 100 มิลลิเมตร และบางพื้นที่มีปริมาณฝนตกสะสมมากกว่า 200 มิลลิเมตร ซึ่งปริมาณฝนตกสะสมดังกล่าวกลายเป็นน้ำท่าที่อยู่ตามคูคลองและตามทุ่ง ประกอบกับพื้นที่ด้านตะวันออกส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้น้ำตามคลองต่าง ๆ มีปริมาณมาก จึงทำให้มีบางพื้นที่น้ำเอ่อล้น เช่น คลองแสนแสบ บริเวณประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนมีนบุรี และคลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณประตูระบายน้ำคลองประเวศ-ลาดกระบัง ซึ่งทั้ง 2 แห่ง ระดับน้ำด้านนอกประตูระบายน้ำอยู่ในระดับเตือนภัย ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยเร่งระบายน้ำในคลองแสนแสบให้ไปเข้าระบบอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว ส่วนคลองประเวศบุรีรมย์ได้ผันน้ำมาเข้าสถานีสูบน้ำพระโขนง เพื่อสูบน้ำไปลงแม่น้ำเจ้าพระยา อีกส่วนได้ระบายลงคลองทางด้านใต้ ซึ่งเป็นรอยต่อพื้นที่ระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรปราการ โดยกรมชลประทานได้สูบน้ำที่สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ สถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร โดยสูบน้ำส่งต่อไปยังสถานีสูบน้ำตามแนวถนนสุขุมวิทสายเก่า จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นเร่งระบายน้ำออกไปลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวไทยอีกทอดหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี