จัดเต็ม! ตร.ฟัน 21 แกนนำม็อบคณะราษฎร 10 ข้อหา
14 ตุลาคม 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่าเมื่อวานช่วงเย็นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ชุมนุมจำนวน 21 ราย เนื่องจากมีการตั้งเต็นท์ในที่สาธารณะ มีการปิดเส้นทางจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตำรวจได้แจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นผิวการจราจร เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติ ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมขัดขืน ขัดคำสั่งของเจ้าพนักงาน อีกทั้งยังได้มั่วสุม ก่อความวุ่นวาย เช่น ใช้สีน้ำสาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าทีนั้นเลอะเทอะ รวมทั้งขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ด้วย ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต และละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ตำรวจได้แจ้งเตือนและเจรจาก็ไม่เป็นผล นอกจากนี้ยังทำให้เกิดสภาพที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดต่อร้ายแรง และที่สำคัญเป็นความผิดซึ่งหน้า จึงใช้อำนาจควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 21 ราย ส่งพนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์ แจ้งข้อหาทั้งสิ้น 10 ข้อหา สำหรับแนวทางการจะคัดค้านหรือไม่คัดค้านการประกันตัวต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์
สำหรับ 10 ข้อหา ประกอบไปด้วย 1.การร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง 2.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายให้อำนาจไว้ 3. การจอดรถ หรือขับขี่รถยนต์บนทางเท้า ตั้งวางหรือกองวัตถุใดบนถนนตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด
4.ชุมนุมทำกิจกรรมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค กระทำการหรือดำเนินการใดที่ก่อให้เกิดสภาวะไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคติอดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป 5.ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัย ความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ 6.ร่วมกันตั้งวางสิ่งของในลักษณะกีดขวางจราจร 7.ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุอันตรายแก่กายและจิตใจ 8.ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องอีก 2 ข้อหา
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า มีการจัดกำลังควบคุมฝูงชน(คฝ.) เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมในวันนี้ทั้งสิ้น 99 กองร้อย เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบตามปกติ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในสังคม โดยตำรวจยึดถือหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กันไป ขอให้ผู้ชุมนุมตระหนักว่าตำรวจไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร ซึ่งหลังจากมีเหตุการณ์เมื่อวานแล้ว วันนี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมคงพยายามที่จะให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ประกาศไว้
เมื่อถามว่าวิธีการปฏิบัติของตำรวจเมื่อวานในการควบคุมตัวผู้ชุมนุมสุ่มเสี่ยงต่อการผิดระเบียบหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เนื่องจากพฤติการณ์ของผู้ชุมนุมเป็นความผิดซึ่งหน้า ตำรวจจึงให้อำนาจตามกฎหมายในการควบคุมตัว เพราะหากไม่ควบคุมตัวก็จะทำให้เกิดสถานการณ์บานปลาย ไปกระทบสิทธิผู้อื่น ส่วนที่ปรากฏภาพตำรวจล็อค ล็อคแขนผู้ชุมนุมนั้น หากคนไม่ได้ดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ก็จะไม่ทราบที่มาที่ไป ถ้าผู้ที่มาชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายทั้งหมด ไม่ไปกีดขวางการจราจร หรือไม่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจคงไม่จับกุม ภาพเหล่านั้นก็จะไม่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าตำรวจได้เจรจาตามขั้นตอนก่อนที่มาถึงจุดที่ต้องควบคุมตัว
เมื่อถามว่าวันนี้หลายกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหว ตำรวจจะดูแลรักษาความสงบอย่างไร พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า การมารวมตัวกันกี่กลุ่มก็ตามแต่ ขอให้ทุกกลุ่มศึกษาข้อกฎหมายให้ดี อย่าไปละเมิดสิทธิผู้อื่น ส่วนจะกลายเป็นม็อบชนม็อบหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ซึ่งในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของตำรวจก็กลายเป็นคู่ขัดแย้งของทุกสี แต่ยืนยันว่าตำรวจจะทำตามอำนาจหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย ไม่ให้มีมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี